วางจำหน่ายไปเป็นที่เรียบร้อยกับ Final Fantasy VII Rebirth เกมที่หลายคนรอคอยภาคต่อ ว่าเรื่องราวจะจบลงตรงไหนอย่างไร ซึ่งเราไม่ขอเอาเนื้อหาตรงนั้นมาพูดถึง เพราะหลายคนที่ยังไม่มีเครื่อง PlayStation 5 หรือรอเล่นบน PC อาจจะเคืองได้ และเพื่อเป็นการเพิ่มความอยากเล่นให้มากขึ้น เราเลยไปแปลบทสัมภาษณ์ทีมงานพัฒนาเกม Final Fantasy VII Rebirth จาก Famitsu.com มานำเสนอ จะมีข้อมูลอะไรน่าสนใจบ้างนั้นมาดูไปพร้อมกันเลย
COVID-19 ไม่ใช่ปัญหาในการพัฒนาเกม
เริ่มต้นที่เรื่องแรกซึ่งน่าสนใจมากๆ เพราะช่วงที่เกม Final Fantasy VII Rebirth กำลังพัฒนานั้นก็เป็นช่วงที่ไวรัส COVID-19 ยังคงระบาดอยู่ และที่ฐี่ปุ่นในตอนนั้นก็ได้รับผลไปเต็มๆ ไม่ต่างกับประเทศอื่น ซึ่งทีมพัฒนาเกมทั่วโลกต่างก็ต้องเอางานมานั่งทำที่บ้าน จนทำให้หลายเกมค่อนข้างล่าช้าและไม่ได้ผลงามตามเป้า แต่ทาง Naoki Hamaguchi ผู้อำนวยการสร้างเกมกลับบอกว่า ทีมพัฒนา Final Fantasy VII Rebirth ของเราสามารถทำงานที่กำหนด และสั่งได้ตรงตามเวลาไม่มีปัญหาอะไรเลย เรียกว่ามีวินัยสมเป็นคนญี่ปุ่นจริงๆ
ทีมงานไม่ได้ตั้งใจใส่การร้องเพลงลงไปในเกมแต่ถูกเพิ่มในภายหลัง
เรื่องนี้ทาง Nomura Tetsuya ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์เกม ออกมาบอกว่าตอนแรกเขาไม่ได้ตั้งใจใส่ฉากร้องเพลงของ Aerith และครอื่นๆ ลงไปในเกม มันจะมีแค่ทำนองดนตรีที่อยู่ในเพลงอยู่แล้ว แต่สุดท้าย Nomura ก็เปลี่ยนใจ ซึ่งมันเกิดขึ้นระหว่างขั้นตอนการผลิตสคริปต์ เขาคิดว่ามันน่าสนใจดีที่จะให้ตัวละครในเกมมาร้องเพลง พอทาง Nomura คิดได้แบบนั้นเขาเลยไปบอกให้ Uematsu กับ Nojima แต่เนื้อร้องให้ จนออกมาเป็นอย่างที่เห็นในตัวอย่าง
ตัวละครที่ถูกเพิ่มเข้ามาบางตัวก็เป็นตัวละครใหม่บางตัวก็เป็นตัวละครเก่าที่เราจำไม่ได้
ทาง Naoki Hamaguchi ออกมาบอกว่า ทีมพัฒนา่ก็ได้ทำแบบเดียวกับภาคก่อน นั่นคือเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมบทบาทให้ตัวละครเก่าที่มีอยู่แล้วให้มีเรื่องราวมากขึ้น แต่ใน Final Fantasy VII Rebirth ทางทีมงานได้เพิ่มตัวละครใหม่ๆ ลงไป เพื่อขยายเนื้อหาเรื่องราวให้มากขึ้น นอกจากนี้ก็ยังมีตัวละครเก่าที่เคยปรากฏตัวในภาคต้นฉบับ แต่เป็นตัวละครที่ไม่มีชื่อก็จะได้มีบทบาทมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งทาง Nomura ก็ต้องออกแบบตัวละครเหล่านี้ใหม่ทั้งหมด แต่ยังคงเอกลักษณ์เดิมเอาไว้ เหมือนที่เขาเคยทำใน Final Fantasy VII Remake
Gilgamesh ถูกเพิ่มในภาคนี้
หนึ่งในตัวละครใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในภาคนี้ครั้งแรก นั่นคือมนต์อสูรนามว่า Gilgamesh ซึ่งคนที่เล่นเกมซีรีส์ Final Fantasy จะทราบดีว่าพี่แกนั้นโหดสลัดขนาดไหน ซึ่งในเกม Final Fantasy VII ต้นฉบับนั้นไม่มีตัวละครนี้อยู่ การถูกเพิ่มเข้ามาในนี้จึงเป็นการท้าทายผู้เล่นเป็นอย่างมาก เพราะอย่างที่เราทราบกันดีกว่าการจะได้อสูนมาเป็นพวกเราต้องสู้กับมันก่อน ทางทีมพัฒนาจึงใส่มนต์อสูรตัวนี้ลงไป ทาง Nomura บอกว่าเขาได้ยืนพื้นการออกแบบตัวละครนี้มาจาก Yoshitaka Amano ผู้ออกแบบตัวละครในซีรีส์ Final Fantasy มาตั้งแต่ภาคแรกๆ เป็นต้นแบบ ที่ตอนนี้ใครได้สู้ด้วยคงรู้ว่าพี่แกตึงมือขนาดไหน
เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลบทสัมภาษณ์ทีมงานพัฒนาเกม Final Fantasy VII Rebirth ที่เราเอามานำเสนอ เพื่อให้คุณได้ทราบเบื้องหลังของเกมนี้มากขึ้นอีกเล็กน้อยก็ยังดี ส่วนใครสนใจข้อมูลตัวเต็มก็ไปอ่านที่ลิงค์ต้นฉบับต้นทางได้เลย เพราะยังมีอีกหลายเรื่องที่เราไม่ได้เอามาพูดถึง(คัดแต่ที่น่าสนใจจริง) ส่วนใครที่กำลังเล่น Final Fantasy VII Rebirth อยู่ก็ขอเล่นให้สนุก และงดสปอย์เรื่องราวจะขอบคุณมากๆ เลยทีเดียว
ที่มา https://www.famitsu.com/news/202402/07332735.html