ถ้าพูดถึงเกมยากเกมโหดจนหลายคนตะโกนออกมาตอนเล่น หลังจากที่ตุยไปแล้วร้อยกว่ารอบว่า "ยากขนาดนี้ไปให้พระบิดาคุณเล่นเถอะ" ซึ่งเอาจริงๆ ถ้าคนนอกมองคำๆ นี้อาจจะเป็นคำด่า(ก็ด่าจริงๆ นั่นละ) แต่สำหรับคุณ Miyazaki Hidetaka กับ From Software แล้วมันคือคำชมเพราะมันคือสิ่งที่ทางค่ายเกมและคุณ Miyazaki ตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้นตั้งแต่เกม Demon's Souls ที่ทำให้เกมมันยากชนิดวัวตายคนเล่นเลิกเล่น แต่มันกลับเป็นเสน่ห์ดึงดูดผู้เล่นเฉยเลย ทางเฮีย Miyazaki เลยเพิ่มความยากขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาถึงผลงานความยากลำดับที่ 4 นั่นคือ Bloodborne เกมยากระดับตำนานที่นักเล่นเกม PlayStation รู้ซึ้งเป็นอย่างดี ที่วันนี้ก็ครบ 9 ปีตำนานความโหดนรกที่หลายคน(รวมผู้เขียน) ที่ตอนนี้ก็ยังเล่นไม่จบ เรามาทำความรู้จักเกมนี้กัน
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2015 เกม Action RPG ตัวใหม่ของ From Software ได้วางจำหน่ายครั้งแรกบนเครื่อง PlayStation 4 ที่คราวนี้มันได้เปลี่ยนโทนเกมจากนักรบปีศาจวิญญาณเวทมนต์ มาเป็นเมืองต้องสาปปีศาจจากการทดลองและนักล่าในเมืองโบราณที่ชื่อว่า Yharnam โดยตัวเราจะรับบทเป็นฮันเตอร์ ที่ถูกชายชราเอาร่างที่กำลังใกล้ตายมาผ่าตัด และถ่ายเลือดพิเศษบางอย่างลงไปเพื่อให้พวกเขามีชีวิต และเอาชนะโรคระบาดที่เรียกว่า Paleblood ได้ หน้าที่ของเราคือการไปค้นหาความจริงและกำจัดสิ่งชั่วร้ายนี้ นั่นคือสิ่งที่เกมนี้บอกกับเรา โดยก่อนเข้าสู่เกมเราจะต้องสร้างตัวละครเลือกเพศอาวุธ ที่แค่สร้างตัวละครก็หมดเวลาเป็นชั่วโมงแล้ว พอเข้าสู่เกมเจอมอนเตอร์ตัวแรก อาเฮือก....ตาย....เริ่มใหม่นั่นคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับผู้เล่นเกมนี้ครั้งแรก
จุดเด่นจุดขายจุดที่ทำให้คนอยากเลิกเล่นเกมนี้ก็คือระบบต่อสู้ ที่เปลี่ยนจากการยกโล่มากัน การกลิ้งหลบ การ Parry ให้ถูกจังหวะเพื่อให้รอดจากการโดนโจมตี เปลี่ยนมาเป็นการกระโดดถอยหลัง ไม่มีโล่ไม่มีการ Parry มีแค่ปืนที่เอาไว้ขัดการจู่โจมของศัตรู และอาวุธที่เปลี่ยนได้ 2 แบบในชิ้นเดียว(อาวุธเริ่มต้น) จนแฟนๆ ที่เล่นเกมเก่าๆ ของ From Software มาจนเชี่ยว ต้องมาเรียนรู้ทุกอย่างใหม่ทั้งหมด แต่ในเกมก็ไม่ใจร้ายขนาดนั้น เพราะตัวละครเราจะเคลื่อนที่เร็วขึ้นและคล่องตัวกว่ามากเกมอื่นๆ และเมื่อเอาชนะศัตรูได้คุณจะได้รับ Blood Legacy ที่เป็นทั้งค่าประสบการณ์และเงินคล้ายกับของซีรีส์ Souls ที่ถ้าคุณตายทุกอย่างจะหายไป คุณต้องไปเอามันคือมาเหมือนกัน ซึ่งมันคือประสบการณ์ใหม่ที่โหดหินและแปลกจากซีรีส์อื่นๆ ที่หลายคนเคยเล่น
และในวันที่ 24 พฤศจิกายนปีเดียวกันก็มี DLC Bloodborne The Old Hunters มาให้เราได้เล่น ซึ่งความยากจริงๆ ของเกมนี้ส่วนหนึ่งก็มาจากความไม่ถนัดของผู้เล่น ที่หลายคนถนัดใช้เมาท์กับคีย์บอร์ดมากกว่าใช้จอยในการเล่น รวมถึง Frame Rate บน PlayStation 4 หลายคนจึงคาดหวังให้ลงบน PC เพื่อทำลายกรอบเหล่านั้น ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเอามาลงเมื่อไหร่ เพราะสิทธิ์การสร้างภาคต่อและการเอาไปลงเครื่องอื่นมันอยู่ที่ Sony ส่วนทาง From Software เป็นแค่คนสร้างเท่านั้น ใครที่อยากลองความยากโหดนี้ก็ไปหามาเล่นกันดู ตัวเกมลดราคาอยู่แค่หลักร้อยแต่คุณภาพความยากหลักแสน แล้วคุณจะรู้ว่าความยากที่สนุกที่คืออะไร
ที่มา https://www.famitsu.com/news/202403/26337992.html