ผ่านมาแล้ว 2 เดือนกับการจากไปของ อาจารย์ โทริยาม่า อากิระ ผู้วาดมังงะในตำนานอย่าง Dragon Ball ที่พอเอามาพูดถึงทีไรก็เอาเศร้าไม่ได้ และเมื่อพูดถึงซีรีส์มังงะอนิเมะ Dragon Ball มันก็ทำให้เราคิดถึงซีรีส์เกมที่เกิดมาจากอาจารย์ โทริยาม่า เหมือนกัน อย่างซีรีส์ตามหามังกร Dragon Quest ที่ในตัวเกม Dragon Quest นี้กับในมังงะ Dragon Ball ก็มีอะไรหลาย ๆ อย่างที่คล้ายกัน หนึ่งในนั้นที่เห็นชัดที่สุดก็คือ ท่าเชื่อมจิต เอ้ยไม่ใช่ (มุกนี้ไม่เล่นไม่ได้จริง ๆ) ท่าเคลื่อนย้ายในพริบตาของ โกคู นั้นมันมีรูปแบบการใช้ที่คล้ายเวทมนตร์ Ruura หรือ Zoom ในเกมซีรีส์ Dragon Quest เลย วันนี้เรามาดูกันว่าทั้งสองอย่างนี้เหมือนและต่างกับท่าเชื่อมจิตอย่างไร (เล่นบ่อยไม่แก้และ) เรามาดูไปพร้อมกันเลย
เริ่มจากตัววิชาเคลื่อนย้านในพริบตาของโกคูกันก่อน ที่เราก็ทราบกันดีว่าวิชานี้ตัวของโกคูได้เรียนรู้มาจากชาว ยาโดแรต ช่วงที่ดาวนาเม็กระเบิด โดยยานที่ของโกคูนั่งมานั้นเป็นยานของพวก หน่วยรบพิเศษกีนิว โกคูบอกในเรื่องว่าตัวยานได้ตั้งโปรแกรมให้มาที่ดาวของชาวยาโดแรต (ประมาณว่าทำงานนี้จบก็จะไปที่ดาวนี้ต่อ) ยานเลยพาโกคูไปที่นั่น พอมาถึงด้วยความเฟรนลี่ของโกคูเลยเป็นมิตรกับชาวดาวนี้ง่าย ๆ เลยได้เรียนวิชามา 2 อย่างนั่นคือวิชารวมร่างกับวิชาเคลื่อนย้ายในพริบตา
โดยหลักการใช้วิชานี้ก็ง่าย ๆ เราจะต้องจับจิตของคนที่เราต้องการไปให้เจอ โดยอาศัยการจับคลื่นพลังที่ยิ่งมีมากก็ยิ่งหาเจอได้เร็ว อย่างตอนที่ โกฮัง เร่งพลังจนถึงขีดสุดตอนสู้ในศึก Dragon Ball Z Resurrection F เพื่อให้โกคูที่อยู่ในมิติเทพที่ต้องใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมง สามารถเชื่อมจิต (ความหมายเดียวกันพอดี) จนเคลื่อนย้ายในพริบตามาถึงอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าจะจับจิตของคนธรรมดานั้นก็จะยากหน่อยจนแทบหาไม่เจอ และวิชานี้ก็ใช้พลังจิตมาก โกคูจึงใช้ต่อเนื่องไม่ค่อยได้ เราจึงไม่เห็นโกคูใช้ในการต่อสู้ (เคยมีใช้อยู่ไม่กี่ครั้ง)
ในปัจจุบันคนที่สามารถใช้วิชาเคลื่อนย้ายในพริบตาได้ ถ้าไม่นับชาวยาโดแรตก็มี เบจิต้า อีกคนที่ทำได้ โดยเรื่องราวนี้เกิดขึ้นในมังงะ Dragon Ball Super ตอนที่ 60 เบจิต้ามาฝึกวิชาที่ดาวนี้และพอทราบว่าโกคูกำลังเสียท่าเลยต้องรีบไปช่วย แต่กว่ายานจะเดินทางถึงโลกก็ใช้เวลา 10 วัน เบจิต้าเลยขอเรียนวิชาเคลื่อนย้ายในพริบตาตอนนั้นเลย ส่วนอีกคนที่สามารถใช้วิชานี้ได้แต่ไม่สมบูรณ์ นั้นคือเด็กชายคนหนึ่งในประเทศไทย (คนที่คุณก็รู้ว่าใคร)
ส่วนคาถาใน Dragon Quest ที่อาจารย์ โทริยาม่า ยืมมานั้นมันคือคาถาที่ชื่อว่า Ruura หรือ Zoom ที่ปรากฏครั้งแรกในเกม Dragon Quest 1 ซึ่งเป็นคาถาที่เอาไว้ใช้เดินทางวาร์ปไปยังสถานที่ที่เราเคยไปมาแล้ว เพื่อประหยัดเวลาในการเดินทาง ซึ่งคาถานี้จะใช้พลังเวทที่ค่อนข้างสูง และสถานที่ที่ไปได้ก็มีแค่เมืองหลัก ๆ ตามเนื้อเรื่องเท่านั้น โดยคนที่สามารถใช้คาถานี้ได้ก็มีเหล่าผู้กล้าไร้ชื่อในเกม กับผู้ที่มีอาชีพพ่อมดแม่มด และใน Dragon Quest V คาถานี้คือคาถาในตำนานที่ต้องใช้สมุนไพรพิเศษเพื่อใช้ในการเรียนคาถานี้ ที่พระเอกของเราเป็นคนเดียวในเกมที่ใช้ได้ (ตอนหลังผู้กล้าลูกเราก็มี)
ซึ่งถ้าคนที่บอกว่าอาจารย์โทริยามะจะไปเอามาจาก Dragon Quest ได้ยังไง เพราะเรื่อง Dragon Ball ถูกเขียนมาก่อนเกม Dragon Quest สร้างเสียอีก ก็ต้องบอกว่าใช่ครับ Dragon Ball ถูกเขียนมาก่อน Dragon Quest แต่ช่วงที่โกคูใช้ท่าเคลื่อนย้ายในพริบตา ตอนนั้นเกม Dragon Quest ก็ออกภาคที่ 6 แล้ว จึงไม่แปลกที่อาจารย์จะยืมมาใช้หรือบังเอิญไปมีรูปแบบที่คล้ายกัน
เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลที่เราไปหามาให้คุณได้อ่านกัน ซึ่งนอกจากท่าเคลื่อนย้ายในพริบตาแล้ว ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่ Dragon Quest กับ Dragon Ball เหมือนกัน เอาไว้มีโอกาสเราจะหยิบเรื่องนี้มาพูดถึงอีกติดตามเอาไว้ได้เลย ยกเว้นท่าเชื่อมจิตที่เราไม่ขอพูดถึงเพราะไม่เกี่ยวกัน (จะมีใครรู้ไหมว่าเราเล่นมุก) ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรในวงการเกมอนิเมะก็ติดตามได้เลย เพราะเรายังมีเรื่องราวอีกมากมายรอคุณอยู่ มาอ่านข้างล่างต่อได้ยาว ๆ ได้เลย