เรื่องหนึ่งที่หลายคนต่างงุนงงสงสัยเวลาที่ทำการอัปเกรดคอม ซื้อ PC ตัวใหม่เพื่อเอามาเล่นเกมโดยเฉพาะ แต่ก็พบว่าความต่างของเฟรมเรทที่ทำได้นั้นกลับไม่ได้ไปได้ดีอย่างที่คิด หรือแย่ที่สุดคือกระตุกกว่าเดิมซะอีก นี่คือปัญหาสามัญที่หลายคนจะเรียกกันว่า "อาการคอขวด" นั่นเอง
นี่คือปัญหาที่หลายคนที่อาจจะไม่ได้รู้เรื่องคอมมากนัก หรือรู้มาบ้างแต่ยังเข้าใจไม่ลึกสงสัยอยู่ตลอด และมีการถามเหล่ากูรูกันอยู่เนือง ๆ
แล้วไอ้อาการคอขวดที่นี้มันเป็นอย่างไร วันนี้ 4 Gamers จะมาอธิบายให้ทุกคนอ่านเข้าใจกันง่าย ๆ เอง!
อะไรคืออาการ "คอขวด"
คำว่าคอขวด หรือ Bottleneck นั้นถูกเอาไปนิยามในหลาย ๆ อย่าง ที่เด่นชัดที่สุดคือการเปรียบเทียบกับ "ช่วงคอของขวดน้ำดื่ม" ที่มีการเว้าให้แคบลงเพื่อให้สามารถรินน้ำใส่ภาชนะได้ง่ายโดยที่ไม่หกเลอะเทอะ แต่ก็แลกมากับการที่ความกว้างของส่วนคอที่แคบลงไป เราจึงเรียกตรงส่วนนี้ว่า "คอขวด"
แล้วอาการคอขวดนั้นก็ถูกนำไปใช้เรียกกับหลายสถานการณ์ เช่นการจราจรติดขัดในเลน ๆ หนึ่งจนเกิดผลกระทบต่อเส้นทางจราจรอื่น ๆ จนติดขัดไปหมด หรือเส้นทางขนส่งสินค้าที่ติดขัดอยู่ในจุด ๆ หนึ่งจนไม่สามารถทำการขนส่งได้อย่างที่ควรเป็น อย่างนี้เป็นต้น
และสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์เองนั้น อาการคอขวดนั้นหมายถึงการส่งชุดคำสั่งของ CPU ไปอั้นอยู่ตรงส่วนใดส่วนหนึ่งจนเกิดการล่าช้า จนทำงานไม่ทันกับอุปกรณ์อื่น ๆ ซึ่งสำหรับการเล่นเกมก็คือ "การ์ดจอ" ที่ทำหน้าที่ประมวลผลกราฟฟิกนั่นเอง
และทีนี้จะเป็นยังไงเมื่อ CPU ไม่แรง ต้องมาขับเคลื่อนการ์ดจอแรงม้าสูง ผลก็คือ CPU จะทำงานหนักกว่าที่ควรจะเป็น คือจริงอยู่ที่ CPU สามารถทำงานได้แทบจะทุกอย่างบนเครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วการประมวลผลกราฟฟิกนั้นทุกกระบวนการจะเริ่มที่ CPU ก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนจะส่งไปให้การ์ดจอหรือ GPU ประมวลผลเป็นภาพต่อ
ตรงนี้คิดว่าหลายคนน่าจะเห็นภาพกันแล้วใช่ไหม? ถ้า CPU ประสิทธิภาพไม่สูง สมมติว่าเป็น Intel Core i3 ตัวเริ่มต้น ที่ต้องมาทำงานคู่กับการ์ดจอตัวโหดอย่าง RTX 4070 Super ผลก็คือ CPU จะทำงานหนักตลอดเวลาที่มีการเล่นเกม ในขณะที่การ์ดจอจะทำงานไม่หนัก ทั้งที่จริง ๆ แล้วมันควรจะกลับกัน ผลก็คือ เฟรมเรทของเกมที่ไม่สม่ำเสมอ เดี๋ยวสูงเดี๋ยวต่ำนั่นเอง
หรืออย่างที่เลวร้ายที่สุดก็คือ ภาพกราฟฟิกประมวลผลไม่ทัน จนกลายเป็นภาพแบบดินน้ำมัน ตัวอย่างที่เกมเมอร์ยุคปี 2017 น่าจะจำกันได้ก็คือ "บ้านดินน้ำมัน" ในเกม PUBG หรือ Battle Royale อื่น ๆ นั่นเอง แลผลกระทบนี้ก็ทำให้คนเล่นไม่สามารถเข้าไปในอาคารได้ หรือแย่กว่านั้นคือมองศัตรูที่อยู่ไกล ๆ ไม่เห็นด้วยเหมือนกัน จนตัดทอนอรรถรสในการเล่นเกมไปจนหมด
จะรู้ได้อย่างไรว่าเครื่อง PC ของเรามีอาการคอขวด?
เราสามารถตรวจสอบได้ง่าย ๆ ว่าเครื่อง PC ของเราเวลาเล่นเกมนั้นมีอาการคอขวดหรือไม่ ด้วยการเปิด Task Menager(Atl+Ctrl+Del) ขึ้นมาตรวจสอบการทำงานของเครื่อง PC เราได้ ถ้ามีสองจอก็เปิดไว้ตรงจออีกตัวที่ไม่ได้เล่นเกม หรือไม่ก็ใช้โปรแกรม MSI Afterburner แล้วเปิดหัวข้อ CPU Usage และ GPU Usage ขึ้นมา แล้วตรวจสอบว่าการทำงานของ CPU และ GPU เป็นอย่างที่ควรจะเป็นหรือไม่
ถ้า GPU ทำงานเต็ม 100% ตลอดเวลา ส่วน CPU ทำงานประมาณ 30 - 40% นี่คืออาการปกติ CPU และ GPU ของคุณทำงานอย่างถูกต้อง ไม่มีอาการคอขวด
แต่ถ้า CPU ทำงานเต็ม 100% ตลอดเวลา การ์ดจอทำงานไม่ถึง 50% อันนี้คือคอขวดแน่นอน และนั่นก็อาจทำให้การเล่นเกมของคุณไม่บันเทิงอีกต่อไปนั่นเอง
และแน่นอนว่ากรณีนี้ก็สามารถเกิดขึ้นกับเครื่อง PC ที่มีการ์ดจอสเปคไม่สูงแต่มี CPU ตัวสุดโหดเช่นกัน แม้การปรับความละเอียดของภาพในเกมจะช่วยลดภาระตรงนี้ไปได้ แต่ถ้าปรับขึ้นมาเมื่อไหร่ รับรองกระตุกแน่นอน
วิธีแก้ไข
1. วิธีที่ง่ายที่สุดแต่ก็ลำบากที่สุด นั่นก็คือใช้เงินแก้ปัญหา ควรเลือกซื้อ CPU, การ์ดจอ และฮาร์ดแวร์อื่น ๆ ให้ทำงานได้สัมพันธ์กัน อย่างเช่นถ้าอยากจะใช้การ์ดจอรุ่นสูงอย่าง RTX 4070 ก็ต้องใช้คู่กันกับ CPU Intel Core i5 ตัว 1X500 ขึ้นไป หรือสัก Ryzen 5 7600 จะเพียงพอต่อการใช้งาน อย่าหาทำเอา Core i3 ไปเล่นกับ RTX 4090 เลย ไม่คุ้มกันหรอก
2. ดูแลเรื่องอุณหภูมิกับ Air Flow ให้ดี ๆ เพราะบางครั้งความร้อนสะสมก็ทำให้การทำงานของเครื่อง PC มีประสิทธิภาพลดลง หมั่นดูแลว่าตัวเคสนั้นมีการระบายความร้อนที่ดีมากพอหรือไม่ ซิลิโคน CPU แห้งหรือเปล่า เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับทุกอย่าง(แต่ใครใช้ AMD ก็น่าจะชินกับเรื่องความร้อนกันอยู่แล้ว ขอแค่อย่าให้เกิน 100 องศาก็พอ)
3. ปรับลดความละเอียดของกราฟฟิกในเกมที่เล่นลง เพื่อลดภาระการทำงานของ CPU ลง แน่นอนว่าวิธีนี้อาจจะขัดใจคนมีการ์ดจอแรง แต่ถ้า CPU มันเข็นไม่ขึ้นจริง ยังไงปรับไปมันก็ไม่แรงขึ้น เหมือนกับที่เธอคนนั้นไม่หันมาสนใจเรานั่นแหละ(อ้าว)
4. เพิ่ม RAM หรืออุปกณ์การอ่านเขียนข้อมูลให้มีความจุมากขึ้น เร็วมากขึ้น ความเร็วของ RAM 16GB Bus 3600 กับ 2GB Bus 6000 ยังไงก็ต่างกันแบบฟ้ากับเหว นี่ยังไม่รวมเรื่องของ M.2 NvME ที่แรงกว่า HDD ปกติแบบไม่เห็นฝุ่นอีกนะ
สรุป
ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามานี้คือสาเหตุที่ทำให้เครื่อง PC ของคุณเกิดอาการคอขวดจนเล่นเกมได้ไม่สนุก ดังนั้นสิ่งที่ทุกคนต้องจำให้ขึ้นใจคือ การจัดสเปคคอมนั้นต้องคำนึงถึงความสมดุลเป็นหลัก จะไปเน้นอย่างใดอย่างหนึ่งมากไปไม่ได้ เพราะจะมีปัญหาเรื่องการทำงานอย่างสัมพันธฺกันและคอขวดนั่นเอง จะมาจัดการ์ดจอตัวโหด แต่ CPU ตัวเล็ก แบบนี้ก็ดันไม่ไหวเหมือนกัน
และเหมือนเช่นเคย อย่าลืมดูแลสุขภาพและเงินในกระเป๋ากันให้ดี เพราะกว่าจะประกอบเครื่องคอมมาเล่นเกมได้สักเครื่องนั้นก็ต้องเสียเงินกันไปไม่น้อย จัดตามความสมดุล เข้ากันได้และเหมาะสมกับเงินในกระเป่าให้ดี และขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรง มีแรงทำงานและเล่นเกมกันไปนานๆ นะครับ!