เมื่อพูดถึงเกมออนไลน์ในสมัยนี้หลายคนคงจะไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรือว๊าวซ่าอะไรกับมันมากนัก เพราะไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็มีแต่เธอ เอ้ย มีแต่เกมออนไลน์ที่มีทั้งแบบฟรีกับแบบเสียเงินออกมามากมายให้เราได้เล่น ขนาดเกมออฟไลน์หลายเกมยังเพิ่มโหมดออนไลน์เข้าไป เพื่อดึงคนเล่นให้อยู่กับเกมตัวเองนานที่สุด จนมันดูเป็นเรื่องปกติไปแล้ว แต่ถ้าย้อนกลับไปสมัยเครื่อง PlayStation 2 การต่อออนไลน์บนเครื่องเกมคอนโซลมันแทบจะเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะในบ้านเรา (ขนาด PC ยังลำบาก) แต่ทาง Square ในตอนนั้นก็ได้เอาเกมภาคต่อสุดปังของตัวเองมาทำแบบออนไลน์ นั่นคือเกม Final Fantasy XI ที่ตอนนี้ครบรอบ 22 ปีในวันที่วันที่ 16 พฤษภาคม ซึ่งมันกลายเป็นตำนานที่แฟน Final Fantasy บ้านเรายุคนั้นต่างจดจำมาจนถึงตอนนี้
โคตรงเรื่องของ Final Fantasy Xl จะกล่างถึงตำนานโบราณว่าดินแดน Vana'diel ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสนามเด็กเล่นสำหรับเหล่าทวยเทพ ซึ่งถือกำเนิดจากคริสตัลขนาดมหึมา จนทำให้มีมนุษย์และสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ เกิดขึ้นมา จนในที่สุดด้วยความปรารถนาที่จะเป็นหนึ่งเดียวกับเทพเจ้า มนุษย์จึงสร้างเส้นทางสู่สวรรค์ขึ้นมา ด้วยเหตุนี้พวกมนุษย์จึงถูกโจมตีเพราะความอวดดีในครั้งนี้ โดยความโกรธของพระเจ้าก็ทำให้เมืองต่าง ๆ ถูกทิ้งลงสู่ก้นทะเล ไม่ก็พังพินาศผู้คนล้มตาย หลังจากที่ได้เห็นความพินาศของมนุษย์ เทพธิดา Altana ที่โศกเศร้าก็หลั่งน้ำตาออกมาห้าหยด ก่อให้เกิดเป็นเผ่าพันธุ์ผู้รู้แจ้งทั้งห้าแห่ง Vana'diel ขึ้นมา แต่ The God of Twilight นามว่า Promathia ไม่พอใจและประณามความอ่อนแอของเทพ Altana เทพ Promathia จึงสาปแช่งเผ่าพันธุ์ทั้งห้าให้มีความขัดแย้งชั่วนิรันดร์ นั่นคือเรื่องราวหลัก ๆ ในจักรวาล Final Fantasy Xl นี้
ในส่วนของระบบการเล่นเราคงไม่ต้องไปเจาะลึกอะไรมันมากนัก เพราะในสมัยนั้นบ้านเราน้อยคนนัก (นับหัวได้เลย) ว่ามีใครได้เล่นเกม Final Fantasy Xl นี้รึเปล่า (รวมถึงผู้เขียนที่ก็ไม่เคยเล่น) ส่วนมากจะได้อ่านเรื่องราวจากในนิตยสารเกมกัน ซึ่งในยุคนั้นถ้าคุณมีเงินมีเวลาและที่สำคัญคือมีอินเทอร์เน็ตในบ้าน คุณก็ต้องมีอุปกรณ์เสริมพิเศษที่เรียกว่า ส่วนเสริมฮาร์ดไดรฟ์ PlayStation 2 ขนาด 40GB ที่เป็นอะแดปเตอร์เครือข่ายในการเชื่อมต่อกับระบบออนไลน์และบรรจุตัวเกม นอกจากนี้คุณต้องสมัครสมาชิกรายเดือนเพื่อเข้าเล่นเกมนี้ต่างหากอีก ไม่รวมค่าอินเทอร์เน็ตที่จ่ายอยู่แล้ว ที่คิดเป็นเงินในตอนนั้นก็ราว ๆ 11.95 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 400 กว่าบาทในตอนนี้
ซึ่งนั่นคือปัญหาใหญ่ที่ทำให้หลายคนถอดใจเลิกเล่นเกมนี้ เพราะถึงคุณจะหาซื้อแผ่นแท้ได้ (ในยุคนั้นหาซื้อแผ่นแท้ยากเพราะมีร้านนำเข้าน้อย) คุณก็ต้องเสียเงินซื้ออุปกรณ์เสริมที่ราคาก็ไม่ใช่ถูก ๆ พอได้มาคุณต้องหาทางจ่ายร่ายเดือนเพื่อเข้าไปเล่นกับการลงทะเบียนที่ยุ่งยาก และบ้านเราในสมัยนั้นก็ไม่มีบริการจ่ายเงินข้ามประเทศผ่านทางออนไลน์แบบตอนนี้ ทุกอย่างเลยดูยุ่งยากไปหมด เราเลยได้แค่ฝันและนั่งดูรูปในนิตยสารเกมเท่านั้น และเห็นแบบนี้ตัวเกมก็ออกส่วนเสริมมาหลายภาคมาก ๆ จนคนที่เล่นในสมัยนั้นพอใจ ขณะที่บางส่วนก็บ่นว่าทำไมถึงเอาภาคหลักมาทำออนไลน์ด้วย สู้เอาไปทำเป็นภาคแยกไปเลยดีกว่าหรอ เพราะเมื่อเป็นภาคหลักคนเราก็รู้สึกอยากเล่น จนกลายเป็นว่ามันคือการขาดช่วงทางความรู้สึกของคนเล่นเกมในยุคนั้นเลยทีเดียว
วันเวลาผ่านไปแม้เราจะไม่ได้เล่น Final Fantasy Xl แต่อย่างน้อนเราก็ได้เล่นเกมที่ดีกว่าอย่าง Final Fantasy XlV ที่ระบบดีกว่าเนื้อเรื่องก็มีส่วนเสริมออกมามากมาย จนทุกวันนี้เกมก็ยังติดอันดับเกมออนไลน์ที่มียอดคนเล่นเยอะเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ใครที่ผิดหวังจาก Final Fantasy Xl ก็มาเล่น Final Fantasy XlV แทนก็ได้ ซึ่งถ้าคุณสงสัยว่าเกมนี้มันดังขนาดไหน ก็ขนาดที่ว่าช่วงที่พีคสุด ๆ เคยมีคนเข้าไปในเกมเยอะเกินจนคนที่ต่อออนไลน์เข้าไปในเกมต้องต่อคิวเป็นชั่วโมงกว่าจะเข้าเกมได้ ใครที่สนใจตัวเกม Final Fantasy XlV ก็มีบนเครื่องเกมใหญ่ ๆ ทั้งหมดและมีเล่นฟรีช่วงแรก ๆ ใครที่อดีตผิดหวังกับ Final Fantasy Xl ก็ไปเล่นดูบอกเลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน