เรียกได้ว่าอีกไม่นานแล้วกับเกม mmorpg ยอดฮิต Final Fantasy XIV ที่ส่วนขยายใหม่ล่าสุด Dawntrail ที่นักรบแห่งแสงทุกคนรอคอย แน่นอนว่าส่วนขยายนี้มาพร้อมกับการอัปเกรดแบบใหญ่เบิ้มทั้งคุณภาพกราฟิกที่ได้แทบจะยกเครื่องให้สวยมากกว่าเดิม ไปจนถึงอาชีพทั้งหมดในเกมที่ได้รับการปรับครั้งใหญ่เช่นกัน
และนี่คือ สรุปรายละเอียดความสามารถของแต่ละอาชีพที่ถูกปรับเปลี่ยนใน Dawntrail
ผู้เล่นสามารถกำหนด Hotbar skills ได้แล้ว
ผู้เล่นสามารถเข้าไปตั้งค่าการใช้งานสกิลแบบเซ็ตได้แล้ว (เหมือนสกิลในโหมด PvP) โดยเราสามารถกำหนดให้สกิลหนึ่งที่ทับซ้อนกับอีกสกิล สามารถแยกออกมาเป็น Hotbar อีกชุดหนึ่งได้ หรือถ้าไม่สะดวกที่จะใช้งานแยกเซ็ตก็ยังคงสามารถใช้งานเซ็ตสกิลแบบเดิมได้
การเปลี่ยนแปลงความสามารถตำแหน่ง Tank
Paladin, Warrior, Dark Knight และ Gunbreaker
- สกิล Rampart และ สกิลป้องกัน 30% ของทุกอาชีพ Tank จะได้รับการอัปเกรดตั้งแต่เลเวล 90 เป็นต้นไป
- สกิล Reprisal จะได้เพิ่มระยะเวลาดีบัฟเป็น 15 วินาที (จากเดิม 10 วินาที) ตั้งแต่เลเวล 90 เป็นต้นไป
Paladin (PLD)
- คอมโบ Atonement ครั้งที่ 2 และ 3 จะได้รับการเปลี่ยนเป็นสกิลและอนิเมชั่นใหม่
- Blade of Valor จะมีคอมโบต่อเนื่องเพิ่มเข้ามา
- Goring Blade จะใช้ได้เมื่ออยู่ในสถานะ Fight or Flight เท่านั้น
Warior (WAR)
- เมื่ออยู่ในสถานะ Inner Release หลังจากใช้งาน Fell Cleave หรือ Decimate ครบ 3 ครั้ง จะมีสกิลใหม่เพิ่มขึ้นมาให้ใช้งาน
- หลังใช้งาน Primal Rend จะมีสกิลใหม่เพิ่มเข้ามา
- Inner Chaos ได้รับการอัปเกรดเอฟเฟกต์และอนิเมชันใหม่
- Yoshi P ได้รับความเห็นจากผู้เล่นมาว่า "อย่าปรับเปลี่ยนอนิเมชันของสกิล Fell Cleave" ดังนั้น สกิล Fell Cleave จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรตามคำขอ
Dark Knight (DRK)
- เพื่อลดภาระผู้เล่นที่ต้องกดสกิลจำนวนมาก จากการ Burst สกิล เมื่อกดใช้ Blood Weapon จะถูกอัปเกรดเป็น Delirium แทน ซึ่งผลของ Blood Weapon จะยังคงอยู่
- เพิ่มสกิลใหม่หลังจากกดใช้งานสกิล Living Shadow
Gunbreaker (GNB)
- หลังใช้งาน Fated Circle จะมีสกิลใหม่ที่เป็นสกิลแบบ Continuation เพิ่มเข้ามาให้ใช้งาน
- จะมีสกิลคอมโบใหม่ 3 สกิล เพิ่มเข้ามา หลังจากใช้สกิล Bloodfest ซึ่งสกิลใหม่ที่ว่าจะไม่มีการเสียลูกกระสุน
การเปลี่ยนแปลงความสามารถตำแหน่ง Melee DPS
MonK, Dragoon, Ninja, Samurai, Reaper และ Viper
- สกิล Second Wind จะเพิ่มปริมาณ Healing Potency มากขึ้นตั้งแต่เลเวล 90 เป็นต้นไป
- สกิล Feint เพิ่มระยะเวลาจาก 10 วินาที เป็น 15 วินาที ตั้งแต่เลเวล 90 เป็นต้นไป
Monk (MNK)
- สกิลคอมโบและวิธีเล่นพื้นฐานใหม่ จากเดิมที่ต้องคอยเลี้ยงบัฟและ DoT จะเปลี่ยนให้สกิลเรียงตามลำดับคอมโบ และเพิ่มความรุนแรงของสกิลให้มากขึ้นตามลำดับ ซึ่งแม้ว่าจุดนี้จะเปลี่ยนไป แต่ความรู้สึกในการเล่นจะยังคงเหมือนเดิม
- บัฟ Brotherhood สามารถเก็บสแต็ก Chakra ได้สูงสุด 10 เม็ดแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้สแต็ก Chakra ล้นเหมือนที่ผ่านมานั่นเอง
Dragoon (DRG)
- ลดเงื่อนไขการโจมตีตามตำแหน่งของสกิลคอมโบตีเป้าหมายเดี่ยวลง โดยคอมโบที่ 5 จะถูกเปลี่ยนเป็นสกิล Drakesbane แทน ซึ่งไม่จำเป็นต้องอาศัยตำแหน่งในการตี (ด้านข้าง, ด้านหลัง) แล้ว นั่นหมายความว่า สกิล Fang and Claw กับ Wheeling Thrust จะถูกเปลี่ยนเป็น Drakebane โดยที่ผลของสกิลยังเหมือนเดิม
- ปรับให้สามารถ Burst dmg ช่วงแรกได้ดีขึ้น โดยสามารถเข้าสถานะ Life of the Dragon ได้ทันทีโดยไม่ต้องมี Dragon Gauge แล้ว
- บางสกิลจะถูกนำออกและมีการปรับเปลี่ยนบางอย่าง เพื่อลดภาระการกดสกิลในช่วง Burst
Ninja (NIN)
- ผลเอฟเฟกต์ของ Huton จะถูกย้ายไปอยู่ในหมวดสกิล Trait แทน ซึ่งจะแสดงผลอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นสัญลักษณ์กังหันลมบน Job Gauge ถูกเอาออกจาก UI ด้วย
- Huton ถูกเปลี่ยนเป็นสกิลแบบ AoE อันใหม่แทน ซึ่งจะได้ผลเอฟเฟกต์ของ Hidden
- สกิลที่เพิ่มระยะเวลา Huton ก็จะถูกปรับเปลี่ยนใหม่ด้วย
Samurai (SAM)
- สกิล Tsubame-gaeshi จะใช้ต่อจาก Meikyo Shisui เท่านั้น เพื่อลดความซับซ้อนในการกดสกิล
- Hakaze, Tenka Goken และ Midare Setsugekka จะได้รับการอัปเกรดเป็นสกิลใหม่
Reaper (RPR)
- Plentiful Harvest's จะไม่เพิ่ม Shroud Gauge 50 หน่วยอีกต่อไป ทำให้ผู้เล่นสามารถเข้าสู่สถานะ Enshroud ได้เลย เพื่อลดการเสียเปล่าของแต้มเกจ (ปัญหาเกจ 51 แล้วเกจทะลุ 100)
- Enshrouded จะมีสกิลใหม่หลังใช้งานเพิ่มเข้ามา
- Hell's Igles และ Hell's Egress จะลดคูลดาวน์เมื่อสกิล Enhanced Harpe แสดงผลอยู่
Viper
- เป็นอาชีพที่โจมตีได้อย่างรวดเร็ว และสามารถเปลี่ยนการใช้งานอาวุธได้ 2 แบบ คือ Dual Blade และ Double Blade
- หลัก ๆ แล้ว คอมโบจะบัฟเพิ่มความเร็ว บัฟโจมตี และติดดีบัฟแก่ศัตรู ซึ่งสกิลจะเป็นการเลือกใช้บัฟ หรือ ดีบัฟให้เหมาะกับสถานการณ์
- คอมโบสามารถเปลี่ยนการโจมตีเป้าหมายเดี่ยว เป็นแบบ AoE ได้อย่างอิสระ หรือ จะใช้อย่างใดอย่างหนึ่งไปตลอดการต่อสู้ก็ได้
- จะมีจำนวนสกิลใกล้เคียงกับอาชีพอื่น ๆ และมีปุ่มกดค่อนข้างน้อยเพื่อไม่ให้ Hotbar รก
การเปลี่ยนแปลงความสามารถตำแหน่ง Ranged DPS
Bard, Machinist และ Dancer
- สกิล Second Wind เพิ่ม Healing Potency มากขึ้น ตั้งแต่เลเวล 90 เป็นต้นไป
- สกิลป้องกันที่ช่วยลดความเสียหาย เพิ่มเป็น 15% ตั้งแต่ช่วงเลเวล 90 เป็นต้นไป
Bard (BRD)
- สกิล Mage's Ballad, Army's Paeon และ Wanderer's Minuet กลายเป็นสกิลประเภท Buff ไม่ทำดาเมจกับศัตรูอีกต่อไป
- สกิล Straight Shot Ready และ Shadow Bite Ready จะถูกมัดรวมเป็นสกิลกัน
- Pitch Perfect เปลี่ยนเป็นสกิลแบบ AoE จากเดิมที่เป็นเป้าหมายเดี่ยว เพื่อรับมือกับศัตรูจำนวนมากได้ดีมากยิ่งขึ้น
Machinist (MCH)
- Barrel Stabilizer จะไม่เพิ่ม Heat Gauge 50 หน่วยอีกต่อไป ทำให้สามารถเข้าสู่สถานะ Hypercharge ได้เลย เพื่อป้องกันไม่ให้เกจล้นและเสียเปล่า
- มีสกิล Trait ใหม่ที่จะช่วยสะสมชาร์จ Drill เพิ่มเข้ามา
- จะมีสกิล Charge เพิ่มเข้ามาอีกหลายสกิล
Dancer (DNC)
- จะมีการปรับให้สามารถใช้สกิลได้โดยไม่ต้องผ่าน Standard Step
- หลังใช้งาน Flourish จะมีสกิลใช้งานใหม่เพิ่มเข้ามา
- จะมีสกิลใหม่ที่ใช้ค่า Esprit เพิ่มเข้ามา ซึ่งจะใช้ได้หลังจากใช้งานสกิล Technical Finish
การเปลี่ยนแปลงความสามารถตำแหน่ง Magical Ranged
Black Mage, Summoner, Red Mage และ Pictomancer
- สกิล Swiftcast ปรับลดคูลดาวน์จาก 60 วินาที > 40 วินาที ตั้งแต่เลเวล 90 เป็นต้นไป
- สกิล Addle เพิ่มระยะเวลาดีบัฟจาก 10 วินาที > 15 วินาที ตั้งแต่เลเวล 90 เป็นต้นไป
Black Mage (BLM)
- ปรับเปลี่ยนการฟื้นค่า MP เมื่ออยู่ในสถานะ Umbral Ice จากแต่เดิมฟื้นฟูแบบ overtime > ฟื้นฟูทันที
- เพิ่มสกิลใหม่ที่สามารถเลื่อนตำแหน่งของ Ley Lines มาที่ตำแหน่งของผู้ใช้ ซึ่งไม่เคยทำได้มาก่อน แต่จะสามารถใช้ได้เพียง 1 ครั้ง ต่อ Ley Line 1 วงที่ร่ายในปัจจุบัน
Summoner (SMN)
- เพิ่มสัตว์อัญเชิญตัวใหม่ "Solar Bahamut" ซึ่งจะเป็นการซัมมอนต่อจาก Bahamut และ Phoenix
- สกิลใหม่หลังใช้งาน Searing Light ถูกเพิ่มเข้ามา
- ปรับเปลี่ยนลำดับการอัญเชิญใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้ ตามลำดับดังนี้ Solar Bahamut > 3 Elements > Bahamut > 3 Elements > Solar Bahamut > 3 Elements > Phoenix
- ทีมงานกำลังพิจารณา เรื่องการเอาสกิล Raise ออกในอนาคต แต่ติดที่ว่าถ้าเอาสกิลชุบออก อาจจะทำให้เอกลักษณ์ของอาชีพ Summoner หายไปด้วย
Red Mage (RDM)
- Manafication จะไม่เพิ่ม Black Mana และ White Mana 50 หน่วยอีกต่อไป
- สามารถใช้งานสกิล Enchanted และ Swordplay ได้เลย โดยไม่ต้องใช้ Black mana กับ White mana และไม่เสียเกจ
- Enchanted Moulinet ปรับลดการใช้ Black และ White mana ลง จากเดิม 60 หน่วย > 50 หน่วย
- หลังใช้สกิล Embolden จะมีสกิลใหม่ให้ใช้งาน
Pictomancer
- การร่างรูป Motif ทั้ง 3 แบบ Creatures, Weapon, Landscape สามารถดูได้จาก Job Gauge 3 ช่อง
- Motif สามารถใช้งานได้ทั้งนอกและในการต่อสู้ หากร่ายนอกการต่อสู้จะเป็นการร่ายทันที แต่ถ้าร่ายในขณะต่อสู้จะมีหลอดร่ายตามปกติเหมือนอาชีพ caster อื่น ๆ
- Creature เป็นสกิลประเภทสร้างดาเมจ โดยจะวาดขึ้นทีละส่วนแล้วกลายเป็นตัวออกมา ยิ่งวาดเยอะก็จะยิ่งทรงประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ
- Weapon เป็นสกิลประเภทดาเมจ ด้วยการเรียกค้อนออกมาทุบ ซึ่งตัวเราจะยังสามารถเคลื่อนที่ไปมาระหว่างใช้สกิลได้ และมี 3 คอมโบ
- Landscape เป็นสกิลประเภทบัฟ โดยจะสร้างพื้นที่ที่มอบบัฟให้กับปาร์ตี้ ซึ่งยังคงสามารถโจมตีได้ แต่มีระยะเวลาคูลดาวน์ที่นาน
- สกิลบัฟมีทั้งแบบที่ใช้กับตัวเอง หรือ มอบให้ปาร์ตี้
- สกิลอื่น ๆ จะเป็นการใช้สีต่าง ๆ โดยการกดเพียงปุ่มเดียว
- เมื่อใช้คอมโบสี จะได้รับ Rainbow Gauge ซึ่งเราจะสามารถใช้ 50 หน่วยเพิ่มดาเมจให้กับคอมโบได้
- สกิล Smudge จะเป็นสกิลเคลื่อนที่ แบบพุ่งไปข้างหน้าและได้รับบัฟเพิ่มความเร็วเคลื่อนที่ในระยะเวลาหนึ่ง
การเปลี่ยนแปลงความสามารถตำแหน่ง Healer
White Mage, Scholar, Astrologian และ Sage
- สกิล Swiftcast ปรับลดคูลดาวน์จาก 60 วินาที > 40 วินาที ตั้งแต่เลเวล 90 เป็นต้นไป
White Mage (WHM)
- จะได้รับสกิลใหม่ที่สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วมากขึ้น
- ได้รับสกิลโจมตีใหม่ที่เป็นแบบ AoE ที่จะใช้ได้ 3 ครั้ง หลังใช้งานสกิล Presence of Mind
- Tetragramaton สามารถสะสมได้ 2 สแต็ก
Scholar (SCH)
- มีสกิลใหม่จะเปลี่ยนผู้ใช้ให้กลายเป็น Seraphism ซึ่งจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ตัวละคร และเพิ่มความสามารถในการฮีลมากยิ่งขึ้น
- จะมีสกิลโจมตีใหม่ที่เป็นแบบ AoE ที่จะใช้ได้หลังใช้งานสกิล Chain Stratagem
- จะได้รับสกิล Trait ใหม่ ที่ช่วยลดคูลดาวน์สกิล Recitation และสกิลอื่น ๆ
Astrologian (AST)
- เปลี่ยนระบบจั่วการ์ดใหม่ จะไม่มีการสุ่มอีกต่อไป (ไม่ต้องเจอกับ RNG แล้ว) โดยจะจั่วการ์ดเป็น Offensive, Defensive, และ Curative แทน ซึ่งการปรับเปลี่ยนนี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกในอนาคต เนื่องจากผู้เล่นหลายคนชื่นชอบแบบเดิมมากกว่า ซึ่งทีมงานแจ้งว่า "เล่นไปก่อน แล้วค่อยดูฟีดแบ็คกลับมาปรับปรุง"
- การ์ดจะมีทั้งหมด 8 ใบ แบ่งออกเป็น 2 ชุด แต่ละชุดมีการ์ด 4 ใบ ซึ่งจะทุกครั้งที่จั่วการ์ดจะจั่วเป็นชุด 4 ใบ
- การ์ดแบบใหม่จะมีทั้งเพิ่มดาเมจโจมตี, เพิ่มฮีล และเพิ่มพลังป้องกัน แต่บางใบจะยังคงความสามารถเดิมไว้
- สกิล Astrodyne ถูกเอาออก
- Essential Diginity มีการปรับใหม่ ให้สะสมสแต็กได้
Sage (SGE)
- Eukrasia จะเปลี่ยนสกิล Dyskrasia II ให้กลายเป็น Eukrasian Dyskrasia ซึ่งจะกลายเป็นสกิลแบบ AoE DoT แทน
- เพิ่มสกิลใหม่ที่เป็นประเภทบัฟปาร์ตี้ ทำให้เพื่อนในปาร์ตี้ที่อยู่ในระยะได้รับการฮีล เมื่อร่ายสกิลสำเร็จ
- สกิล Soteria จะได้สกิล Trait ใหม่ ที่ช่วยลด Recast Time ลง
และนี่คือรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงของอาชีพและตำแหน่งต่าง ๆ ของ Final Fantasy 14 Dawntrail ที่กำลังจะมาเร็ว ๆ นี้แล้ว ซึ่งทีมงานเองก็พยายามปรับเปลี่ยนเพื่อให้ผู้เล่นสามารถเล่นได้อย่างสะดวก และเป็นไปตามที่ผู้เล่นร้องขอกันเข้ามา งานนี้จะดีขึ้นแค่ไหน ต้องรอพิสูจน์กันในวันที่ 2 กรกฎา 2024 นี้!