ย้อนกลับไปในอดีสมัยที่เกมซีรีส์ Pokemon กำลังโด่งดังเป็นโรงงานพลุระเบิด ทางค่ายเกมต่าง ๆ ก็พยายามจะสร้างเกมแนว Pokemon ออกมาเพื่อเกาะกระแส หนึ่งในค่ายเกมที่ทำแบบนั้นก็คือ Enix (ในตอนนั้นยังไม่รวมกับ Square) เอาตัวละครมอนเสตอร์ของตัวเองมาสร้างเป็นเกมที่ชื่อว่า Dragon Quest Monsters ลงบนเครื่อง Game Boy Color ในปี 1998 ซึ่งมันก็โด่งดังจนทำให้มีภาคที่ 2 ออกมาในปี 2001 หลังจากนั้น 1 ปีทางค่ายก็เอาเกม Dragon Quest Monsters ทั้งสองภาคของตนเองมา Remake ทำใหม่บนเครื่อง Playstation 1 ในชื่อยาว ๆ ว่า Dragon Quest Monsters 1+2 Hoshiori no Yuusha to Bokujou no Nakamatachi ซึ่งวันที่ 30 พฤษภาคม 2002 ก็ครบรอบ 22 ปีเกม Remake 2 ภาคนี้ เรามาย้อนอดีตดูความทรงจำเกี่ยวกับเกมนี้ไปพร้อม ๆ กันเลย
สำหรับคนที่ไม่ทราบมาก่อนตัวเกม Dragon Quest Monsters 1+2 Hoshiori no Yuusha to Bokujou no Nakamatachi (ต่อไปจะเรียกแค่ Dragon Quest Monsters 1+2 พอมันยาวเกิน) คือการหยิบเอาเกมซีรีส์ Dragon Quest Monsters ทั้ง 2 ภาคบนเครื่อง Game Boy Color มาทำใหม่เปลี่ยนกราฟิกให้ดูสวยสมยุค กับระบบการเล่นเนื้อเรื่องสิ่งต่าง ๆ ที่ยังคงเหมือนต้นฉบับเปลี่ยนแค่กราฟิกเท่านั้น ซึ่งความแปลกของเกมนี้คือ ตัวเกม Dragon Quest Monsters 1+2 นี้ถูกสร้างขึ้นหลังจากที่ Dragon Quest Monsters 2 บนเครื่อง Game Boy Color เพิ่งวางจำหน่ายไปแค่ปีเดียวเท่านั้น นับเป็นเกมที่ถูก Remake เร็วที่สุดเลยก็ว่าได้
โดยเนื้อเรื่องของ Dragon Quest Monsters ภาคแรก จะบอกเล่าเรื่องราวสมัยเด็กของ เทอร์รี่ ตัวละครนักล่ามอนสเตอร์ผู้เก่งกาจใน Dragon Quest Vl (มันดูย้อนแย้งที่เทอร์รี่สมัยเด็กเป็นผู้ใช้มอนสเตอร์ แต่พอโตกลับเป็นนักล่ามอนสเตอร์) ที่เรื่องราวมันเริ่มต้นจากคืนหนึ่งที่ มิเรยุ พี่สาวของเทอร์รี่ถูกตัวประหลาดจับตัวไป เทอร์รี่ที่ร้อนใจก็จะไปช่วยพี่สาว จนได้รับการช่วยเหลือมอนเตอร์ปริศนา ที่พาเขามายังดินแดนแห่งหนึ่ง ซึ่งที่นี่จะมีการชักชวนมอนเตอร์มาเป็นเพื่อนได้ โดยเทอร์รี่ต้องไปรวบรวมมนสเตอร์เพื่อไปแข่งขันชิงแชมป์ ซึ่งผู้ชนะจะสามารถขออะไรก็ได้การตามหาพี่สาวจึงมีวิธีนี้วิธีเดียว นั่นคือเรื่องราวของ Dragon Quest Monsters ภาคแรก
ส่วน Dragon Quest Monsters 2 จะเป็นเรื่องราวใหม่ที่ตัวเกมจะมี 2 ตลับแบบ Pokemon ที่แยกชายหญิงและมีมอนเสตอร์ที่ต่างกัน โดยคราวนี้จะเป็นเรื่องราวการช่วยเหลือเกาะของตนที่กำลังจะจมน้ำ ซึ่งเราสองคนพี่น้องคือนักควบคุมมอนเสตอร์ที่เพิ่งย้ายมาที่นี่ และด้วยการเล่นซนของลูกชายเจ้าของเกาะที่ดันไปทำลายสะดือของเกาะจนพัง ทางมอนเตอร์ที่มากับเราเลยใช้ตัวเองไปอุดรูชั่วคราว หน้าที่ของเราคือการไปตามหาของวิเศษที่จะมาอุรูตามมิติต่าง ๆ ผ่านกุญแจที่เราจะได้หลังจากจบด่าน โดยทั้งสองตลับจะมีเนื้อเรื่องเดียวกันต่างแค่ตัวละครชายหญิงเท่านั้น
มากันที่ระบบการเล่น ตัวเกม Dragon Quest Monsters ทั้งสองภาคจะมีระบบการเล่นที่เหมือนกัน ที่เมื่อเราเดินเจอศัตรูก็จะเข้าสู่การต่อสู้แบบมุมมองบุคคลที่ 1 แต่เราจะไม่ได้สู้เอง จะให้มอนสเตอร์สู้แทนโดยที่มีเราเป็นคนสั่งการและใช้ไอเทมช่วยสนับสนุน พอชนะหรือระหว่างสู้คุณโยนแอาหารให้มันกิน พอสู้จบมันจะยอมมาเป็นพวกคุณ ซึ่งถ้าคุณเคยเล่น Dragon Quest V มาก่อน ที่มีระบบชวนมอนสเตอร์มาเป็นพวกมันคือแบบนั้นเลย และพอได้มอนเสตอร์มาที่มีตัวผู้ตัวเมียมา เราก็สามารถเอาทั้งสองชนิดที่ต่างกันหรือเพ่าพันธุ์เดียวกันมาผสมพันธุ์ เพื่อออกลูกมาเป็นมอนสเตอร์ชนิดใหม่ที่มีความสามารถของพ่อแม่ติดมาด้วย
ซึ่งนั่นคือความสนุกของเกมนี้ ที่เราจะต้องออกเดินทางไปหามอนสเตอร์ตามที่ต่าง ๆ ตามที่เกมกำหนดมาผสมพันธุ์ เพื่อให้ได้มอนสเตอร์สายพันธุ์สูง ๆ เพื่อใช้ในการต่อสู้ ซึ่งเราสามารถผสมเป็นราชาปีศาศบอสใหญ่ของเกมภาคต่าง ๆ ได้ด้วย แต่เงื่อนไขการผสมนั้นยุงยากแบบสุด ๆ แต่มันก็คือความท้าทายที่คนเล่นเกมนี้ชอบ (หนังสือบทสรุปสมัยนั้นเล่มหนามาก) จนทำให้เกมซีรีส์ Dragon Quest Monsters ออกมามากมายอีกหลายภาค จนภาคล่าสุดอย่าง Dragon Quest Monsters The Dark Prince ที่ลงบน Nintendo Switch ที่ผ่านมา
อ่านมาถึงตรงนี้ใครสนใจ Dragon Quest Monsters 1+2 ก็ต้องไปหาเครื่องหาแผ่น Playstation 1 มาเล่นเอา ตัวแผนมีขายราคาหลักร้อยต้น ๆ เท่านั้น แต่ถ้าจะให้แนะนำก็ไปเอาภาคใหม่อย่าง Dragon Quest Monsters The Dark Prince ที่ลงบน Nintendo Switch มาเล่นดีกว่า อันนั้นจะมีกราฟิกที่สวยงามระบบการเล่นที่ดีกว่าภาคเก่านี้เยอะ และถ้าคุณชอบเกมซีรีส์ Dragon Quest Monsters ก็มีอีกหลายภาคให้คุณได้ย้อนกลับไปเล่น ที่เผลอ ๆ ออกมามากกว่าภาคหลักด้วยซ้ำ ใครสนใจก็ไปหามาเล่นกันได้