มาแบบต่อเนื่องไม่หยุดเลยทีเดียว กับภาพยนตร์ไคจูยักษ์ระดับตำนานอย่าง Godzilla ที่มีภาคต่อภาคเสริมภาคใหม่ทั้งแบบภาพยนตร์ไปจนถึงมังงะอนิเมะมากมายให้เราได้ดู โดยล่าสุดก็มี Godzilla x Kong The New Empire หรือชื่อไทยอย่าง ก็อดซิลล่า ปะทะ คอง 2 อาณาจักรใหม่ ที่เป็นทางต่างประเทศเป็นคนสร้าง ส่วนทางด้านประเทศแม่ผู้ให้กำเนิด Godzilla หลังจากการมาของ Shin Godzilla ที่สร้างความแปลกใหม่สมจริงก็ไม่ได้สร้างภาคใหม่ออกมาอีกเลย จนการมาถึงของภาคใหม่ของซีรีส์นี้อย่าง Godzilla Minus One ที่มาแบบเงียบ ๆ แต่ฟาด รางวัล ออสการ์ ปีล่าสุด สาขาวิชวลเอฟเฟกต์ยอดเยี่ยม ไปครองได้อย่างไม่น่าเชื่อ จนแฟน ๆ ต่างอยากดู แต่จนแล้วจนรอด Godzilla Minus One ก็ไม่ได้ฉายในโรงภาพยนตร์บ้านเรา แต่จู่ ๆ บน Netflix ก็มีภาพยนตร์เรื่องนี้ปรากฏออกมาแบบไม่บอกล่วงหน้า แถมมีพากย์ไทยด้วย เรามาดูกันดีกว่าว่า Godzilla Minus One ตัวนี้จะดีงามขนาดไหนมาดูไปพร้อมกัน
เรื่องราวใน Godzilla Minus One จะกล่าวถึงช่วงใกล้จบสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 1945 นักบินกามิกาเซ่ (เครื่องบินพุ่งชนแบบฆ่าตัวตาย) ชิกิชิมะ โคอิจิ ผู้กลัวตายก็ได้แอบเอาเครื่องบินมาลงบนเกาะแห่งหนึ่ง ซึ่งบนเกาะนั้นก็มีตำนานเกี่ยวกับสัตว์ประจำเกาะนามว่า ก็อดซิลลา อยู่ในน้ำ มันออกมาฆ่าทหารบนเกาะ ก่อนที่มันจะสะสมความโกรธและบุกขึ้นมาบนเกาะญี่ปุ่นที่กำลังบอบช้ำกับการแพ้สงครามโลก กับปมในใจของชิกิชิมะที่ไม่สามารถช่วยเหลือเพื่อนทหารบนเกาะได้ การต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับไคจูยักษ์ที่มีแต่ความโกรธจึงเริ่มขึ้น
เอาจริง ๆ เลยเนื้อเรื่องใน Godzilla Minus One มันแทบไม่มีอะไรเลย นอกจากปมของตัวพระเอกที่มีความฝังใจในอดีต กับการพบเจอกับก็อดซิลลาที่มาทำลายบ้านเมือง ผสมกับการต่อสู้ของเหล่ามนุษย์ที่หาทางฆ่าเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ แต่สิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าสนใจจนหลายคนต่างขนลุกตอนดูก็คือความสมจริงของเนื้อหา ที่บอกเล่าเรื่องราวหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ของญี่ปุ่นว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง รวมถึงตัวของก็อดซิลลาที่ทำออกมาได้ดูสวยน่ากลัวและสมจริงแบบสุด ๆ ซึ่งซีรีส์ภาพยนตร์ Godzilla ไม่เคยทำมาก่อนแม้แต่ Shin Godzilla ที่ว่าสมจริงมาก ๆ ก็ลืมเรื่องนี้ไป นั่นคือผลกระทบของการมาของเจ้าก็อดซิลลา ที่ถ้ามันมาเดินบนถนนมันจะเหยียบคนไปเท่าไหร่ และเมื่อมันปล่อยแสงออกมา ผลกระทบของพลังแสงจะรุนแรงขนาดไหน
ลองคิดภาพตามง่าย ๆ เหล่าผู้คนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ก็อดซิลลาที่กำลังปล่อยแสงออก (เกือบโดนเหยียบ) คุณคงคิดว่าคนคนเหล่านั้นต้องรอดแน่ ๆ เพราะแสงที่ปล่อยไปมันไกลมาก ๆ แต่เปล่าเลยเพราะแรงกระแทกจากคลื่นระเบิดจากแสงที่มันปล่อยออกมา ก็สร้างแรงลมมหาศาลจะเป่าตึกรอบ ๆ ตัวก็อดซิลลาจนปลิว ซึ่งคนที่อยู่ใกล้ ๆ ก็กระเด็นโดนซากตึกทับตุยกันหมด นี่ยังไม่นับความสมจริงเมื่อคนบนเรือรบโดยก็อดซิลลาทำลาย แบบมันสมจริงชวนหดหู่แบบสุด ๆ จนเราคนดูต้องถามตัวเองว่าจะฆ่ามันยังไง นี่ยังไม่นับความสมจริงของบาดแผลที่ก็อดซิลลาได้รับ ทั้งการโจมตีจากปืนใหญ่ไปจนถึงการปล่อยแสงของมัน ก็สร้างบาดแผลให้ตัวมันเองเหมือนกัน (ตอนก็อดซิลลาปล่อยแสงเท่มาก ๆ บอกเลย) ที่ดูไปลุ้นไปหดหู่ไปเลยทีเดียว
ข้อดีของเรื่องนี้ก็คือความเร็วของเนื้อหาที่มาเร็วมากไม่ปูเยอะ กับความสมจริงที่ชวนหดหู่ที่บอกให้เรารู้ว่าสงครามนั้นไม่เคยให้คุณค่าอะไรกับใคร แถมยังไม่สร้างความเดือดร้อนให้สิ่งมีชีวิตที่มันอยู่ของมันดี ๆ ก็ไปทำลายที่อยู่ของมัน จนมันต้องออกมาทำลายด้วยความโกรธ กับดราม่าชีวิตของพระเอกที่ยังไงก็ต้องมีเพื่อให้เรื่องมันมีมิติ กับเหล่าผู้คนที่ช่วยกันหาทางปราบก็อดซิลลา ส่วนทางด้านข้อเสียก็ดันมาอยู่ที่เนื้อเรื่องนั่นละ ที่มันตื้นเกินไปและเดาเนื้อเรื่องออกมาได้ง่ายมาก ๆ ที่ดูปุ๊บคุณจะรู้เลยว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น หรือภาษาคนอ่านคนดูการ์ตูนเรียกว่า พลังโชเน็น ที่หมายถึงการร่วมแรงร่วมใจในวินาทีที่กำลังสิ้นหวัง กับปมของพระเอกที่น่ารำคานลำไยแบบสุด ๆ คือรู้ละว่านายมีปมแต่ปมนายมันทำให้เรื่องน่าเบื่อ แต่พอก็อดซิลลาออกมาความน่าเบื่อก็หายไป และที่ต้องชมอีกอย่างแม่ลูกในเรื่องน่ารักทั้งคู่ ซึ่งพอตัดเลี่ยนพระเอกปมเยอะไปได้
สรุปคะแนน Godzilla Minus One ขอให้ที่ 7.7 เต็ม 10 หักคะแนนเนื้อเรื่องที่เรียบง่ายเดาทางง่ายและโชเน็นไปหน่อย กับตัวละครพระเอกที่ลำไยมากเกินไปจนน่ารำคาน เอะอ่ะก็แหกปากเอ็งจะอารมณ์ร้อนไปไหน (แต่นักแสดงเล่นดี) ส่วนคะแนนที่มีให้พี่ก็อดซิลลาไป 5 เพราะพี่แกน่ากลัวมาก ๆ มันให้ความรู้สึกของปีศาจที่พร้อมจะงับหัวเราตลอดเวลาจริง ๆ และนี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกกลัวก็อดซิลลานับตั้งแต่ดูซีรีส์นี้มาตั้งแต่ภาคแรก ที่เหลือคือความน่ารักของแม่ลูกในเรื่องที่ดูแล้วอดอมยิ้มไม่ได้ ใครอยากหาหนัง Godzilla สนุกดูเพลิน ๆ ไม่ควรพลาด