![](https://img.4gamers.com.tw/ckfinder-th/image2/auto/2024-06/Screenshot_6-240609-150810.png?versionId=WIYs9.pIi_UvSP.bKJgQv4mAUO_o9ZXO)
เมื่อพูดถึงตำนานคนเมืองมันหมายถึงตำนานเรื่องเล่าที่บอกต่อกันมาในยุคสมัยใหม่ ที่หลายเรื่องก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อและแทบจะเป็นไปไม่ได้ จนมีคนบางส่วนที่สนใจเกี่ยวกับตำนานคนเมืองเลยพยายามไปหาคำตอบเรื่องนั้น ๆ กัน ซึ่งหนึ่งในตำนานคนเมืองที่ถูกพิสูจน์จนรู้ความจริง ก็คือ ตำนานการฝังกลบเกม E.T. the Extra-Terrestrial หรือเรียกสั้น ๆ ว่า เกม E.T. บนเครื่อง Atari 2600 ที่วางจำหน่ายในปี 1982 ที่ต้องอธิบายสำหรับคนที่ไม่ทราบก่อนว่า การค้นพบนี้ไม่ใช่ข่าวใหม่แต่อย่างใด แต่มันเป็นข่าวเก่าที่พูดถึงเมื่อนานมาแล้วตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งสำหรับคนที่อยู่ในวงการเกมมานานก็น่าจะเคยอ่านข่าวนี้มาแล้ว แต่สำหรับคนที่ไม่รู้เรามาย้อนอดีตความทรงจำนี้กัน
เรื่องราวนี้ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 1982 ในตอนนั้นภาพยนตร์เรื่อง E.T. the Extra-Terrestrial หรือ อี.ที. เพื่อนรัก กำลังโด่งดังในความน่ารัก (น่ารักตรงไหนเอามาปากกามาวง) ของเจ้ามนุษย์ต่างดาวขาตุ้นแขนยาว กับเหล่าเด็กน้อยที่จะเอานิ้วชี้จี้ใส่ใส่กันเพื่อแสดงความเป็นเพื่อน (ใครอยบากเป็นเพื่อนกับตัวแบบนี้บ้าง) และด้วยกระแสความโด่งดังนี้เลยทำให้ทางบริษัท Warshaw ไปซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์นี้มาทำเป็นเกม เพื่อลงบนเครื่องเกม Atari 2600 ซึ่งเป็นเครื่องยอดนิยมในยุคนั้น โดยข้อมูลบอกว่าทาง Warshaw ใช้เวลาเพียงแค่ 5 สัปดาห์ในการพัฒนาเกม เพื่อให้ทันวางจำหน่ายช่วงเทศกาลคริสต์มาสใน 1982 โดยหวังกระแสหนังให้เด็ก ๆ ดิ้นเร่า ๆ หน้าร้านขายของเล่นเพื่อซื้อเกมนี้ไปเล่นที่บ้าน แต่พอเด็ก ๆ ที่ได้เกมนี้ไปเล่นทั้งเด็กและพ่อแม่ก็ดิ้นเร่า ๆ หน้าจอทีวี เพราะเกมนี้มันไม่สนุกและเล่นไม่รู้เรื่องจนถูกรุมด่าจากคนเล่นในยุคนั้น
โดยระบบการเล่นของเกมนี้เราจะได้รับบท E.T. ที่ต้องหนีการตามล่าจากเหล่าชายชุดดำเพื่อไปเก็บจุดในฉากต่าง ๆ ซึ่งมันก็มีอยู่แค่นั้นจริง ๆ ตลอดทั้งเกม และถ้าคุณเคยเล่นเกมหรือรู้จักเกมเครื่อง Atari 2600 ในยุคนั้น คุณจะรู้ว่าตัวเกมในยุคนั้นแม้มันจะดูไม่น่าสนุก แต่มันก็ยังมีความท้าทายมีการแข่งขันเก็บคะแนน แต่ภายในเกมนี้ E.T. เกมนี้แค่คุณขยับตัวก็จะได้คะแนน แถมชายชุดดำที่มาไล่จับคุณก็เหมือนจะไม่ตั้งใจจับ จุดที่วางบนจอก็จุดเดิมเล่นแบบเดิมซ้ำไปซ้ำมาไม่สนุกเอาเลย (ดูวิดีโอด้านล่างประกอบคุณจะเข้าใจ)
และด้วยความมั่นหน้ามั่นโหนกของบริษัท Warshaw ที่คิดว่าเกมนี้ต้องขายดีเด็ก ๆ ต้องให้พ่อแม่ไปซื้อเกมนี้มาเล่น ปรากฏว่ามันขายไม่ออกซึ่งถ้ามันขายไม่ออกก็ยังพอว่า เพราะเกมอื่น ๆ ก็เป็นไม่ใช่เรื่องน่าแปลก แต่ทางบริษัท Warshaw ดันผลิตเกมนี้ออกมากว่าล้านตลับ (เป็นล้านเลยหรอเพ่ !!!) และพอมันมีเป็นล้านเลยหรอเพ่ !!! ทางบริษัท Warshaw เลยไม่รู้ว่าจะเอายังไงดีกับเกมที่มีอยู่เป็นล้านตลับเลยหรอเพ่ !! เลยแอบเอาเกมนี้ไปฝังกลบที่ เมืองแอละโมกอร์โด (Alamogordo) รัฐนิวเม็กซิโกแบบเงียบ ๆ แต่ก็มีคนนอกคนในรู้เรื่องนี้เลยเอามาเล่าแบบปากต่อปาก จนมันกลายเป็นตำนานคนเมืองแบบลูกเทพขยับได้ การเชื่อมจิตมีอยู่จริงเรื่อยมา
วันเวลาผ่านมากว่า 30 ปีจนล่าสุดก็มีคุณ แอนดรูว์ ไรน์ฮาร์ด นักโบราณคดีหัวหน้าทีมการขุดค้นพร้อมผู้คนท้องถิ่นราว 200 คน และเกมเมอร์ผู้สนใจมารวมตัวกันบริเวณไซต์งาน ตรงจุดที่ตำนานบอกเอาไว้พร้อมกับทีมทำสารคดีที่มาถ่ายทำเกี่ยวกับตำนานคนเมืองครั้งนี้ ซึ่งเมื่อลงมือขุดไม่นานทุกคนก็พบกับกล่องตลับเกม E.T. the Extra-Terrestrial อยู่ในนั้นจริง ๆ ซึ่งด้วยความที่มันถูกหุ้มด้วยพลาสติกเลยทำให้บางกล่องหลายอันยังอยู่ในสภาพดี แต่ส่วนมากจะพังยับเยินตามกาลเวลา เป็นการบอกให้รู้ว่าตำนานฝังตลับเกมที่ขายไม่ออกมีอยู่จริงไม่ใช่เรื่องจ้อจี้
ใครที่สนใจอยากเป็นเจ้าของตลับเกมในตำนานเกมนี้ ในบ้านเราอาจจะหายากหน่อยแต่ทางต่างประเทศบอกเลยว่าเพียบ ตั้งแต่ราคา 3.99 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 146 บาทไปจนถึง 13.96 ดอลลาร์ ราว ๆ 513 บาทเท่านั้น ซึ่งเดาว่าในวันนั้นคงมีคนไปเก็บมาปัดฝุ่นเอามาขายแน่ ๆ มันเลยมีเกลื่อนขนาดนี้ ส่วนใครที่สนใจอยากลองเล่นก็น่าจะมีอีมูเลเตอร์ให้ได้ลอง ใครลองแล้วสนุกไม่สนุกยังไงเอามาบอกด้วย และถ้าคราวหน้ามีตำนานเกมอะไรน่าสนใจอีก เราจะเอามาบอกให้อ่านกันติดตามเอาไว้ได้เลย