
เมื่อพูดถึงตำนานเกมที่คนทั้งรักหมดหัวใจและเกลียดจนอยากหักแผ่นทิ้ง คงต้องยกให้ซีรีส์เกม เหลือเพียงเราสองอย่าง The Last of Us เกมที่ทำให้เราคนเล่นได้รู้ว่าความรักนั้นมันเกิดขึ้นได้เสมอ แม้มันจะเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดบนโลกนี้ก็ตาม กับเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่สูญเสียลูกสาวไปในวันที่โรคเชื้อเห็ดระบาดเปลี่ยนคนเป็นซอมบี้ กับเด็กสาวคนหนึ่งที่เกิดและเติบโตมาโดยที่ไม่รู้เลยว่าพ่อแม่ของตนคือใคร จนเมื่อทั้งสองคนที่ขาดในสิ่งเดียวกันได้มาเจอกัน ความรักระหว่างพ่อลูกสาวจึงเกิดขึ้น นั่นคือสิ่งที่เกม The Last of Us ภาคแรกบอกกับเรา และวันที่ 14 มิถุนายน 2013 คือวันวางจำหน่ายเกมนี้บน PlayStation 3 เรามาย้อนอดีตดูความทรงจำเกี่ยวกับเกมนี้ไปพร้อม ๆ กันเลย
คงไม่ต้องอธิบายอะไรกันมากสำหรับแฟนเกมนี้ เพราะทุกคนน่าจะเคยผ่านตาผ่านมือกันมาแล้ว โดยการพัฒนาเกม The Last of Us เริ่มขึ้นในปี 2009 หลังจากเกม Uncharted 2 Among Thieves วางจำหน่าย ทางหมาซน Naughty Dog ก็ไม่ปล่อยให้ตัวเองว่างก็จัดการสร้างเกมต่อมาทันทีในชื่อ The Last of Us โดยเมื่อเกมเปิดตัวในปี 2011 ตัวเกมก็ได้รับความคาดหวังจากแฟน ๆ ทั่วโลก เพราะคราวนี้เราจะได้เล่นเป็นชายวัยกลางคนที่ออกเดินทางในโลกที่ล่มสลายพร้อมกับสาวน้อย ที่มีซอมบี้หน้าตาประหลาดให้เราเอาชีวิตรอดไปพร้อมกับมนุษย์คนอื่นที่พร้อมจะฆ่าเรา (ตัวอย่างข้างบน)
จนเมื่อเกมออกมาก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง เพราะตัวเกมรีดพลังเครื่อง PlayStation 3 ออกมาได้ทุกหยาดหยด จนกราฟิกในเกมนี้จัดว่าสวยงามทั้งรายละเอียดของฉากตัวละครการเคลื่อนไหวระบบต่อสู้ และที่เป็นจุดเด่นที่สุดคือเนื้อเรื่องที่เป็นหัวใจสำคัญของเกมนี้ โดยมีธีมสำคัญของเกมภาคนี้คือ ความรัก พ่อลูก และความเห็นแก่ตัว ขณะที่ภาค 2 ของเกมนี้จะใช้ธีม ความเกลียดชัง การแก้แค้น และผลที่ตามมาของความแค้น ซึ่งต่างกันชัดเจนของเกมทั้งสองภาค โดยตัวเกม The Last of Us บน PS3 ขายได้มากกว่า 1.3 ล้านชุดในสัปดาห์แรกและ 17 ล้านชุดภายในเดือนเมษายนปี 2018 พร้อมรางวัล Game of the Year จากทั้งสื่อนักวิจารณ์และคนเล่นแบบไม่มีข้อโต้แย้ง

และนอกจากตัวเกมที่กราฟิกสวยเนื้อเรื่องยอดเยี่ยมแล้ว ตัวเกมยังมีระบบออนไลน์ให้เล่นอีกด้วย ตามด้วย DLC ที่บอกเล่าเนื้อเรื่องช่วงที่ เอลลี่ ถูกกัดและไม่ติดเชื้อได้อย่างไรมาเพิ่มอีก จนแฟน ๆ ต่างเต็มอิ่มกับเรื่องราวเนื้อหาของเกมนี้ และนอกจากสิ่งต่าง ๆ ที่เรากล่าวมาแล้ว อีกสิ่งที่ต้องพูดถึงคือตอนจบของเกมนี้ ที่ทำเอาคนเล่นเกมต่างถามตัวเองว่า ถ้าคุณเป็น โจเอล คุณจะทำแบบนั้นไหม ? ซึ่งหลายคนก็มีหลายคำตอบ และเราต้องมาถกเถียงกันต่อว่า สุดท้ายแล้วสิ่งที่โจเอลทำมันถูกหรือผิด ? ซึ่งนั่นคือความงดงามของเกมนี้ ที่ไม่ใช่แค่เกมแต่มันคือสิ่งที่คนเล่นต้องมาพูดคุยกันต่อหลังจากที่เล่นเกมนี้จบไปแล้ว

นี่เรายังไม่นับความดีงามของซีรีส์ฉบับคนแสดงที่ทำออกมาได้กินใจแฟนเกมแบบสุด ๆ อีกด้วย ใครไม่เคยเล่นก็แนะนำให้ไปซื้อเกม The Last of Us Part I ที่เป็นของเครื่อง PlayStation 5 มาเล่นเลยจะดีกว่า เพราะภาคนี้จะเอาตัวเกมภาคแรกมาทำกราฟิกใหม่ แต่เนื้อเรื่องฉากระบบการเล่นยังเหมือนเดิม หรือถ้าคุณมีแค่ PlayStation 4 ตัวเกม The Last of Us ก็เอามาปรับกราฟิกใหม่ให้คุณได้หามาเล่นกัน ไม่ต้องซื้อ PlayStation 3 มาเล่นให้เสียเวลา แต่ถ้าใครอยากได้แผ่นมาสะสมตัวเกมก็มีขายราคาไม่แรง ลองไปหามาเล่นดูแล้วคุณจะรู้ว่าเกมนี้มันดีงามขนาดไหน