หนึ่งในความดีงามของการสมัครบริการช่องดูหนังต่าง ๆ อย่าง Netflix, HBO หรือ Disney+ นั่นคือการได้ดูหนังเก่า ๆ สนุก ๆ ที่เคยฉายในโรงภาพยนตร์แต่เราไม่ได้ไปดูหรืออยู่ต่างจังหวัดที่ไม่มีโรงหนังได้ดูแบบภาพชัด ๆ เต็มตาระบบเสียงชัดเจนและบางเรื่องก็มีพากย์ไทยให้เราได้ดู หนึ่งในนั้นคือภาพยนตร์สยองขวัญที่ฉายไปตั้งแต่ปี 2022 เรื่อง The Black Phone สายหลอนซ่อนวิญญาณ ที่เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยเห็นภาพโปรโมทที่เป็นชายสวมหน้ากากหน้าตาไม่เป็นมิตร ผ่านตามที่ต่าง ๆ แต่เราไม่รู้เลยว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างไร จนเมื่อทาง Netflix เอามาฉายและติดอันดับภาพยนตร์ที่คนดูเยอะอันดับที่ 4 ในไทย วันนี้เลยอยากจะหยิบภาพยนต์สยองขวัญเรื่องนี้มารีวิวแนะนำให้คนที่ยังไม่ได้ดูให้ไปดูกัน บอกเลยว่าของดีย์ที่แฟนหนังสยองขวัญต้องไม่พลาด
เรื่องราวของ The Black Phone สายหลอนซ่อนวิญญาณ จะเป็นเรื่องราวในช่วงยุค 80 ในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่มีคดีการหายตัวไปของเด็กผู้ชายในเมืองนี้ ซึ่งทางตำรวจก็ตามหาตัวไม่เจอและไม่มีเบาะแสใด ๆ ก่อนที่เรื่องราวจะมาเล่าถึงพี่น้องคู่หนึ่ง ที่น้องสาวมีพลังพิเศษในการฝันบอกเหตุต่าง ๆ กับพี่ชายที่เป็นคนธรรมดาที่ไม่ธรรมดา จนวันนึ่งเด็กชาย ฟินนีย์ ชอว์ ผู้เป็นพี่ก็เป็นเหยื่อรายล่าสุดของ ไอ้นักฉุด คนนี้ โดยในห้องขังจะมีโทรศัพท์ติดผนังที่พังแล้วติดอยู่ เรื่องราวหลอน ๆ ของเด็กชายที่ถูกโจรโรคจิตจับไปและวิญญาณอาฆาตที่เด็กชายต้องเจอ ที่มาพร้อมกับเสียงในโทรศัพท์ปริศนาที่นำพาความหลอนมาสู่คนดู นั่นคือเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้
เรื่องราวในช่วงต้นของภาพยนตร์จะให้เรารู้จักสองพี่น้องคู่นี้ ที่ตัวพี่ชายนั้นเป็นเด็กที่มักจะถูกเพื่อนแกล้งเป็นประจำ แต่เขาก็มีเพื่อนนักเลงสุดเท่คอยดูแล กับน้องสาวที่เธอจะมีพลังพิเศษเหมือนแม่กับพ่อที่ไม่อยากอยากให้ลูกสาวใช้พลังนี้ ก่อนที่ตัวของฟินนีย์จะถูกจับตัวไป เรื่องราวความหลอนจึงเริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น เมื่อเด็กชายต้องหาทางหนีออกมา ก่อนจะโดนเฉือดถ้าไม่เล่นตามที่โจรโรคจิตต้องการ แต่อย่าลืมว่าตัวของฟินนีย์เป็นเด็กชายตัวเล็ก ๆ ที่ไม่สู้คน คือคนมากระทืบตรูก็เก็บคองอเข่าให้กระทืบจนพอใจแล้วก็ไป ต่างกับน้องสาวที่วิ่งเข้าหาโดนกระทืบก็สู้ไม่กลัว พอเป็นแบบนั้นเราเลยไม่รู้ว่าฟินนีย์จะเอาตัวรอดอย่างไร
จนเมื่อเสียงโทรศัพท์ที่พังไปแล้วในห้องขังดังขึ้นมา นั่นละชนวนของความหลอนของเรื่องนี้ ที่มันไม่ใช่แค่ผีหลอกแต่มันวิญญาณหลอนที่ฟินนีย์จะต้องเจอ คือแบบตรูเจอโจรโรคจิตคนเดียวก็แย่แล้วนี่ต้องมาเจอผีในห้องขังอีกเรียกว่าสองเด้ง จนเราต้องลุ้นเอาใจช่วยว่าฟินนีย์จะรอดจากทั้งสองอย่างไหม ตัวเรื่องใช้เวลาช่วงต้นในการแนะนำตัวละครนานไปนิด ถ้าคุณไม่รู้อะไรเลยไม่ดูแม้แต่ตัวอย่างคุณจะคิดว่ามันปูนานไป แต่พอดูจนจบพอมานั่งคิดย้อนกลับไป การปูแบบนี้ก็ถูกต้องและสมควรแล้ว เพราะทุกสิ่งที่หนังบอกเราตอนแรกมันคือส่วนสำคัญที่จะเกิดขึ้นในช่วงหลังแทบทั้งสิ้น เรียกว่าดูจบแล้วรู้สึกโอเคกับตัวหนัง ส่วนระหว่างทางก็มีแอบลุ้นแอบเสียวจนปิดตาอยู่หลายครั้งสำหรับคนขวัญอ่อน ที่โดยรวมดูสนุกเรื่อย ๆ ไม่น่าเบื่อแต่ก็ไม่แปลกใหม่อะไรมาก
ส่วนทางด้านข้อเสียก็น่าจะเป็นตัวละครที่ดูอ่อนแอ กับสิ่งที่ผีมาหลอกมันดูเหมือนจะขัดแย้งในตัวเอง คือทำไมผีจำชื่อตัวเองไม่ได้ทั้งที่บางคนเพิ่งตายไปไม่นาน ผีบางตัวขี้โมโหเกินเบอร์ไปหน่อย และในตอนท้ายจู่ ๆ เด็กชายที่อ่อนแอดูสิ้นหวังกลับดูฉลาดเกินเบอร์ เหมือนจู่ ๆ น้องก็คิดได้ว่าต้องทำแบบนี้ซึ่งมันดูขัด ๆ แปลก ๆ ส่วนตัวร้ายก็ดูจะชิว ๆ ดูหลอนดูจิตแต่มันก็ไม่ได้ทำอะไรที่มันรุนแรงในเรื่องเลย เราจะรู้ว่ามันโหดมันโรคจิตผ่านวิญญาณที่บอกฟินนีย์เท่านั้น และทางตำรวจคือจะมีมาเพื่อไม่ช่วยแมวอะไรเลย บางฉากก็ดูขัดใจแต่โดยรวมก็ถือว่าโอเคไม่ถึงกับดีมากมายแต่ก็ไม่แย่ ดูได้เพลิน ๆ ตอนว่างได้เป็นอย่างดี
ใครกำลังอยากหาหนังสยองดูสนุกเพลิน ๆ ช่วงวันหยุดเรื่องนี้คือสิ่งที่เราแนะนำ ตัวเรื่องไม่ตุ้งแช่เน้นหลอนลุ้นเอาใจช่วยว่าฟินนีย์จะเอาตัวรอดอย่างไร ตัวนักแสดงที่เล่นเป็นไอ้นักฉุดก็มืออาชีพมาก ๆ ขนาดใส่หน้ากากยังส่งพลังทางแววตามาได้ ดูแล้วแอบขนลุกเหมือนกัน ส่วนคะแนนที่ให้เรื่องนี้คงจะเป็น 7.1 เต็ม 10 หักเรื่องราวตอนท้าย กับความโหดของไอ้นักฉุดที่เราไม่เห็นว่ามันเลวแค่ไหน กับตัวละครตำรวจที่มีเหมือนไม่มี ตัวน้องที่เหมือนจะมีบทแต่ก็ไม่สำคัญอะไรอย่างที่หวัง เสียงพากย์ไทยดีงามมากโดยเฉพาะน้องสาวฟินนีย์ที่พากย์ด่าได้อารมณ์มากชอบ ใครที่กำลังหาหนังดูยามว่าง เรื่อง The Black Phone สายหลอนซ่อนวิญญาณ เราขอแนะนำ