
เมื่อพูดถึงอาจารย์นักเขียนที่จากไปก่อนวัยอันควรอย่างน่าเสียดาย หนึ่งในนั้นก็คืออาจารย์ นามิ ซาโนะ นักเขียนสาววัย 36 ปีที่เสียชีวิตด้วยมะเร็ง ซึ่งเธอนั้นมีผลงานสร้างชื่อมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือมังงะแนวตลกที่ดูแล้วหลายคนต้องหลงรักอย่าง I'm Sakamoto หรือที่บ้านเรารู้จักกันในชื่อ เทพศาสตร์ ซากาโมโต้ มังงะแนวตลกเฮฮาของหนุ่มแว่นสุดเทพที่ทำอะไรก็สมบูรณ์แบบไปหมดจนน่าอิจฉา ทำให้มีคนมาแกล้าแต่สุดท้ายก็ไม่มีใครสามารถแกล้งพี่แกได้ กับผลงานอีกเรื่องอย่าง Migi to Dali มิกิกับดาริ ที่ก็โด่งดังจนถูกเอามาสร้างเป็นอนิเมะในปีนี้ แต่ทางอาจารย์ นามิ ซาโนะ ก็เสียชีวิตก่อนจะได้เห็นผลงานอนิเมะชิ้นนี้ของตัวเอง และเพื่อเป็นการไว้อาลัยแด่อาจารย์ ทางนิตยสาร Harta ของ Kadokawa ฉบับที่ 115 ได้ประกาศโปรเจ็กต์บันทึกความทรงจำของอาจารย์ นามิ ซาโนะ ผู้สร้างมังงะผู้ล่วงลับให้เราได้หายคิดถึง

โดยโครงการนี้อาจจะไม่เกี่ยวกับบ้านเราเพราะจะจัดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น ทั้งนิทรรศการศิลปะผลงานของอาจารย์ที่บ้านเกิดของแก ไปจนถึงการรวมเล่มผลงานเรื่องสั้นของอาจารย์ นามิ ซาโนะ ให้แฟน ๆ ได้ตามอ่านและสะสมที่บ้านเราคงจะไม่มีเอามาขาย แต่สิ่งที่เราอยากจะเอามาบอกในบทความข่าวนี้ ก็คือการแนะนำมังงะอนิเมะทั้งสองเรื่องของอาจารย์ ที่บอกเลยว่าใครชอบการ์ตูนเก็กที่ดูสนุกเฮฮาต้องไม่พลาดอนิเมะทั้งสองเรื่องนี้ โดยเฉพาะเรื่อง เทพศาสตร์ซากาโมโต้ ที่บอกเลยว่าคนอะไรมันจะสมบูรณ์แบบได้ขนาดนั้น (ยกตัวอย่างพระเอกจะมานั่งแต่ถูกเพื่อชักเก้าอี้ออก พี่แกก็ไม่ล้มแต่นั่งเก้าอี้อากาศค้างท่านั้นได้ อีกวันเพื่อนหมั่นไส้เอาโต๊ะนักเรียนไปทิ้ง พี่แกก็นั่งเรียนเท่ ๆ ที่หน้าต่าง แบบคนอะไรเท่เกิ๊น)
โดยตัวอาจารย์แกวาดและคิดเนื้อเรื่องออกมาได้โอเว่อร์จนน่าหมั่นไส้ แต่ก็เกลียดตัวละครนี้ไม่ลง ซึ่งมันคือเสน่ห์ของอาจารย์ที่หาไม่ได้จากมังงะเรื่องอื่น ๆ ในตลาด จนมันเป็นเอกลักษณ์ติดตัวอาจารย์แกมาจนถึงผลงานชิ้นอื่น ๆ ที่พอเห็นลายเส้นดูชื่อคนเขียน คนดูคนอ่านมังงะอนิเมะก็เตรียมตัวฮากันได้อะไรแบบนั้นเลยทีเดียว เหมือนตอนที่แฟน ๆ เห็นผลงานใหม่ของอาจารย์ในเรื่อง มิกิกับดาริ คนอ่านก็รู้เลยว่าเราจะได้เจอกับเรื่องราวสนุกเฮฮาอย่างแน่นอนซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ (ลองไปหาอ่านดูบอกเลยว่าโคตรฮา)

มาถึงตรงนี้ก็ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของอาจารย์ นามิ ซาโนะ อีกครั้ง และถ้าใครอ่าานมาถึงตรงนี้และสนใจอยากไปหางานของอาจารย์แกมาดูมาอ่าน ก็มีทั้งแบบอนิเมะพากย์ไทยตามช่องลิขสิทธิ์ที่บอกเลยว่าฮาสนุกถูกใจแน่นอน ส่วนมังงะก็มีทั้งแบบ E-Book และแบบหนังสือเล่มให้ตามสะสมทั้งสองเรื่อง ที่พอมาคิดถึงผลงานของอาจารย์แล้ว ก็อดเสียดายไม่ได้ที่วงการมังงะต้องเสียนักเขียนดี ๆ ไปอีกคนแบบนี้ หวังว่าปีนี้และปีหน้าจะไม่มีข่าวร้ายแบบนี้อีกนะ เท่านี้ก็เสียใจสะเทือนใจพอแล้ว