
ถ้าพูดถึงตำนานหนังซอมบี้ที่ขึ้นหิ้งจนแฟน ๆ หนังซอมยี้ต้องกราบงาม ๆ สามครั้งก่อนดู หนึ่งในนั้นต้องมีหนังซอมบี้เรื่อง Dawn of the Dead ของปู่ จอร์จ เอ โรเมโร ติดอยู่อันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน เพราะหนังซอมบี้เรื่องนี้มันไม่ใช่แค่หนังซอมบี้ไล่กินคนทั่วไป แต่มันคือหนังที่เสียดสีสังคมตีค่าความเป็นมนุษย์ และความคิดความรู้สึกของคนที่เอาชีวิตรอดออกมาได้อย่างลงตัวในยุคนั้น (1978) โดยบอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มคนที่หนีมาใช้ชีวิตในห้าง ที่ถ้าคุณเอามานั่งดูตอนนี้คงจะหาวสามครั้งก่อนหลับตั้งแต่เริ่มเรื่อง เมื่อเป็นแบบนั้นทางค่ายหนังเลยเอา Dawn of the Dead นี้มาทำใหม่เปลี่ยนเรื่องราวเนื้อหาให้กระชับและตื่นเต้นลงไป จนออกมาเป็น Dawn of the Dead รุ่งอรุณแห่งความตาย ที่ฉายในปี 2004 ที่ได้ แซ็ก สไนเดอร์ มากำกับ และได้ เจมส์ กันน์ มาเขียนบท ซึ่งพอดีกับที่ทาง Netflix เอาเรื่องนี้มาฉายพอดี เลยขอหยิบเอาเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้มาแนะนำให้ทุกคนได้ดูกัน
ซึ่งก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาเรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับจักรวาลซอมบี้ใน Dawn of the Dead เรื่องนี้กันก่อน ว่าถ้าใครที่ถูกซอมบี้กัดไม่ถึง 5 นาทีคุณจะกลายร่างเป็นซอมบี้วิ่งเร็วแบบสี่คูณร้อยในทันที ต่างกับต้นฉบับที่เดินแบบช้า ๆ ไม่น่ากลัวแต่เน้นจำนวนในล่าเหยื่อ แต่ของ Dawn of the Dead ปี 2004 แค่ตัวเดียวก็สู้ยากแล้ว กับเรื่องราวของ อานา พยาบาลสาวที่ใช้ชีวิตปกติกับสามี พอเช้าทั้งคู่ก็เห็นเด็กสาวข้างบ้านมีเลือดเต็มตัวเดินเข้ามาในบ้าน ก่อนที่เด็กสาวจะกัดสามีเธอจนกลายเป็นซอมบี้ อานาที่หนีตายก็มาเกิดอุบัติเหตุจนเดินมาเจอกับผู้รอดชีวิตคนอื่น ๆ ทั้งหมดเลยเพากันมาที่ห้างสรรพสินค้าที่ยังไม่เปิด พวกเขาจึงได้ใช้ชีวิตในห้างนี้อย่างปลอดภัย แต่มันจะปลอดภัยจริง ๆ รึเปล่ามารอดูกัน

ตัวเรื่องในช่วงแรกจะพาเราไปรู้จักกับความวุ่นวายของหายนะที่ผู้คนต่างหนีตายเอาตัวรอด ก่อนที่คนอื่น ๆ จะเข้ามาในห้างสรรพสินค้าที่มีเหล่ายามคอยดูแลอยู่ และพวกเขาไม่อยากมีคนเพิ่มแต่สุดท้ายเมื่อไม่มีทางเลือกทุกคนก็ต้องอยู่รวมกัน โดยตัวเรื่องนั้นแตกต่างกับต้นฉบับมาก ๆ จนเรียกว่าคนละเรื่องได้เลย แต่ตัวภาพยนตร์ในปี 2004 ก็ยังใส่กลิ่นอายของต้นฉบับเอาไว้ ทั้งเรื่องการเหยียดเชื้อชาติ ความเป็นมนุษย์ที่ทำต่อกัน อาชีพความคิดการกระทำ (สันดาน) ในคน ๆ นั้นที่ไม่เคยเปลี่ยน หรือบางคนก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีจากสิ่งที่เกิดขึ้น ไปจนถึงมองของคนที่มีต่อกันเมื่อโลกล่มสลาย แค่มันไม่ชัดเท่าต้นฉบับเท่านั้น
และเมื่อพวกเขาอยู่ในที่ที่ปลอดภัยมีอาหารน้ำให้กินแบบยาว ๆ ก็น่าจะไม่มีอะไร แต่เนื้อเรื่องก็จะพาตัวละครออกไปนอกห้างเพื่อทำภารกิจบางอย่าง ที่บางอันก็พอจะเข้าใจว่ามันควรทำ แต่บางอันก็อยากจะขยำหัวตัวละครกับคนเขียนบทเหมือนกันว่าใส่แบบนี้ไปเพื่อ (ไม่บอกว่าเรื่องไหนไปดูเอง) หรือบางทีก็งงกับผู้กำกับว่าใส่ซอมบี้ที่ขาดครึ่งตัวแต่ห้อยไปมาข้างบนเพื่อให้มันมากัดตัวละคร มันดูไม่สมเหตุสมผลเอาเลยในแง่เนื้อเรื่อง นี่ยังไม่นับการตัดตัวละครในช่วงท้ายที่น่าจะให้ตัวละครตุยดีกว่านี้ สงสัยผู้กำกับกับคนเขียนบทไม่อยากให้ถูกซอมบี้กัดตายทุกคนเลยให้ตุยแบบนี้ แต่ถ้าพี่ให้ตัวละครหลายตัวตุยแบบนี้ก็ให้ซอมบี้กัดจะดีกว่า

และเห็นด่า ๆ บ่น ๆ แบบนี้แต่ตัวเรื่องก็ทำสนุกน่าติดตามมาก ๆ จนเราอยากรู้ว่าเรื่องราวมันจะไปจบตรงไหน ส่วนเหล่านักแสดงก็เล่นได้ดี ตัวเรื่องไม่มียืดหรือดราม่าอะไรมาก (มีดราม่าแต่พอสมควร) ตัวหนังดูได้เรื่อย ๆ จนสามารถติดอันดับหนังซอมบี้ในดวงใจใครหลาย ๆ คนได้เลย ใครที่สนใจลองไปหามาดูกันได้ตอนนี้มีฉายบน Netflix แบบซับไทย (น่าจะเอาแบบพากย์มาด้วย) ลองไปหามาดูแล้วคุณจะรู้ว่า การหนีซอมบี้เข้าห้างมันคือสวรรค์หรือนรกกันแน่ไปดูเอาเอง