
ถ้าพูดถึงเกมน่ากลัวสยองขวัญโดยเฉพาะเกมผี เราก็มักจะคิดถึงบรรยากาศที่น่ากลัวผีที่ออกมาหลอก โดยเน้นบรรยากาศเป็นจุดขายมากกว่าตัวละคร แต่ก็มีอยู่หนึ่งซีรีส์เกมที่คิดใหม่ทำใหม่ว่าเกมผีมันต้องน่ากลัวแต่เราก็สู้มันได้และต้องมีสาวน่ารัก ๆ มาตัดเลี่ยนความน่ากลัวด้วย ตัวเกม Fatal Frame หรือ Project Zero จึงถือกำเนิดขึ้นมา โดยในภาคแรกนั้นเราจะได้รับบทเป็นสาวน้อยที่รอพี่ชายอยู่ในรถ ระหว่างที่พี่ชายกับคณะออกไปล่าท้าผี เพราะต้องการพล็อตในการเขียนนิยายสยองขวัญเรื่องใหม่ โดยเราจะได้รับบทเป็นสาวน้อยที่ไร้ทางสู้ในบ้านร้างขนาดใหญ่ทรงญี่ปุ่นโบราณ จนเราไปเจอกับกล้องถ่ายวิญญาณที่ทำให้เราสู้ผีได้ การล่าท้าผีจึงเริ่มขึ้นจนดำเนินมาถึงภาคที่ 3 ที่คราวนี้มันก็เกี่ยวกับภาคแรกแถมเป็นเรื่องราวดราม่าแบบสุด ๆ ที่หลายคนจดจำ และวันที่ 28 กรกฎาคม 2005 ครบรอบ 19 ปีคือวันวางจำหน่าย Fatal Frame III บน PlayStation 2 เรามาย้อนอดีตดูเรื่องราวเหล่านี้กัน
เริ่มจากเนื้อเรื่องกันก่อน ซึ่งอย่างที่เราได้บอกไปในตอนต้นว่าตัว Fatal Frame III นี้จะเชื่อมโยงกับ Fatal Frame III ภาคแรก (เอาจริง ๆ ทุกภาคมันก็เชื่อมกันหมดนั่นละ แต่ภาค 1 กับภาค 3 มันมีตัวละครเดิมจากภาคแรกมาด้วย) โดยเรื่องราวในภาคนี้จะกล่าวถึง คุโรซาวะ เรย์ ช่างภาพอิสระที่รอดชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซึ่งทำให้คู่หมั้นของเธอ อะโซ ยู เสียชีวิต โดยที่เรย์ยังคงเศร้าเสียใจและจมกับความทุกข์แต่คนมันต้องกินต้องใช้เธอเลยต้องทำงานต่อไป โดยมี ฮินาซากิ มิกุ ตัวเอกจากภาคแรกที่เสียพี่ชายก็ทำงานเป็นผู้ช่วยของเรย์ จนวันหนึ่งเธอได้ไปถ่ายภาพที่ซากปรักหักพังของศาลเจ้าคุเซะ ตั้งแต่นั้นเรย์ก็เห็นภาพนิมิตของยูตามที่ต่าง ๆ และพอหลับฝันก็จะไปอยู่ที่คฤหาสน์แห่งการหลับใหลที่มีแต่ผี พอเธอตื่นขึ้นมาก็มีรอยสักขึ้นบนร่าง ที่ถ้ารอยสักนั้นขึ้นครบทั้งตัวคน ๆ นั้นจะตายและวิญญาณจะไปอยู่ในคฤหาสน์แห่งการหลับใหลตลอดไป เรย์เลยต้องหาความจริงและหาทางรอดจากฝันร้าย นั่นคือเรื่องราวของเกมนี้

ในส่วนของระบบการเล่น Fatal Frame III จะต่างกับเกม Fatal Frame 2 ภาคก่อนหน้านี้ ที่เราจะอยู่ในสถานที่ผีสิงตลอดทั้งเกม แต่ในภาค 3 เราจะได้อยู่ในโลกแห่งความจริงสลับกับความฝัน โดยในโลกแห่งความจริงเราจะอยู่ในบ้านเพื่อรับรู้ข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับความฝัน ซึ่งบอกเลยว่าจะในความฝันหรือในบ้านก็น่ากลัวหมด พอเข้าสู่ความฝันเราจะถูกส่งไปตามที่ต่าง ๆ ในคฤหาสน์แห่งการหลับใหลเพื่อแก้ไขปริศนาและต่อสู้กับผีผ่านกล้อง ที่พอผ่านถึงจุดเกมกำหนดเราจะตื่นพร้อมรอยลักที่มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งบอกเลยว่าทั้งบรรยากาศในตัวคฤหาสน์ไปจนถึงตัวผีน่ากลัวขนหัวลุกแบบสุด ๆ
ส่วนจุดเด่นจุดขายของเกมนี้ที่นอกจากสาว ๆ สุดน่ารักที่มาสู้กับผีและบรรยากาศที่น่ากลัวแล้ว เนื้อเรื่องเกมนี้ก็เต็มไปด้วยปริศนา ว่าคู่หมั่นของเรย์ไปเกี่ยวอะไรกับคำสาปรอยสักและวิญญาณอาฆาตที่ตามหลอกหลอนเรย์ ที่พอเราได้เล่นไปจนถึงช่วงกลางเกมเราจะได้เล่นเป็นมิกุตัวละครจากภาคแรก ที่จะเป็นการเฉลยปมที่ค้างคาในภาคแรกที่มาเฉลยในภาคนี้ และมันจะเชื่อมไปสู่ภาคที่ 5 ในอนาคต ซึ่งพอทุกอย่างเฉลยออกมาทั้งเรื่องคำสาปรอยสักเรื่องของเรย์ไปจนถึงเรื่องของมิกุ พอเล่นจนถึงตอนจบคุณจะน้ำตาซึมกับเนื้อหาที่เกมใส่ให้เราได้เล่น ที่บอกเลยว่าภาคนี้คือภาคที่มีเนื้อเรื่องดีที่สุดของซีรีส์ก็ว่าได้
โดยในสัปดาห์เปิดตัว Fatal Frame III ได้อันดับที่ห้าในชาร์ตยอดขายของญี่ปุ่น เกมดังกล่าวขายได้มากกว่า 69,000 ชุดภายในสิ้นปี 2005 และติดอันดับเกมขายดีที่สุด 200 อันดับแรกในช่วงเวลาดังกล่าว ในรายงานทางการเงินที่เผยแพร่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2006 ทาง Tecmo กล่าวว่าเกมนี้ทำผลงานได้ตามที่คาดหวัง และเป็นหนึ่งในภาคที่หลายคนบอกว่ามันน่ากลัวที่สุด เพราะมีการตัดฉากมาโลกแห่งความจริงเพื่อให้เราสบายใจไม่ใช่กดดันเราตลอดทั้งเกมแบบภาคก่อน (แต่อยู่ในโลกความจริงก็ยังเจอผี) เลยทำให้ตัวเกมน่าสนใจและทุกคนก็ชมเนื้อเรื่องว่าแต่งออกมาได้ดีไม่แพ้ภาค 2 เลยทีเดียว

ใครที่สนใจอยากเล่นเกม Fatal Frame III เกมนี้คงต้องทำใจเพราะตัวเกมไม่เคยไปลงเครื่องไหนเลยนอกจาก PlayStation 2 เครื่องเดียว ส่วนราคาแผ่นก็ไม่ต้องไปหาให้เสียเวลาเพราะราคาไปดวงจันทร์แล้ว แต่ถ้าใครสนใจอยากเล่นเกมซีรีส์ Fatal Frame ภาคใหม่ ๆ อย่างภาค 4 กับ 5 (ในภาค 5 มิกุได้กลับมาอีกครั้งพร้อมลูกสาว) ที่เนื้อเรื่องความโหดกับสาวสวยสู้ผียังเหมือนเดิมบนเครื่อง PlayStation 4 กับ Nintendo Switch ใครสนใจไปจัดมาหลอนกันได้เลย โดยเฉพาะภาคหลัง ๆ มีชุดน่ารัก ๆ ให้เปลี่ยนเพียบของดีย์แบบนี้เราอยากแนะนำให้คุณได้ลอง