![](https://img.4gamers.com.tw/ckfinder-th/image2/auto/2024-08/Screenshot_2-240812-133710.png?versionId=6u.UMQt.zU9dSkKrTd4ISsL22vPjKrIj)
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาถ้าใครเล่นสื่อโซเชียลมาคงจะได้เห็นการพูดถึง และกล่าวชมภาพยนตร์อินเดียเรื่องหนึ่งว่ามันทั้งสนุกดีงามยอดเยี่ยมมาก ๆ ชนิดที่เรียกว่าชีวิตนี้คุณต้องได้ดูหนังเรื่องนี้ไม่อย่างนั้นคุณจะพลาดบางอย่างไป อ่านดูเหมือนประชด (ตอนแรกก็คิดว่าประชดแหละ) แต่พอเห็นคนที่ไปดูมาแล้วต่างก็พูดทำนองเดียวกันว่าหนังเรื่อง Maharaja เรื่องนี้มันดีจริง ๆ ไม่ได้ประชดหรืออวย พอเป็นแบบนี้เลยรีบไปหาดูบน Netflix ว่ามันสนุกสมคำกล่าวอ้างมารึเปล่า และนี่คือรีวิวจาก 4Gamers ที่ทีมงานไปนั่งดูมาแล้วจึงเอามาบอกคุณให้รู้ ว่ามันยอดเยี่ยมสนุกจริงไหมมาอ่านไปพร้อมกันเลย
เริ่มจากเนื้อเรื่องกันก่อน เรื่องราวจะกล่างถึงประเทศอินเดียในปัจจุบัน ที่กล่าวถึง มหาราชา ชายวันกลางคนที่ทำงานอยู่ร้านตัดผมใช้ชีวิตกับครอบครัวอย่างมีความสุข วันหนึ่งระหว่างที่มหาราชากำลังซื้อตุ๊กตาที่ร้านขายฝั่งตรงข้าม จู่ ๆ ก็มีรถสิบล้อเลี้ยวมาชนภรรยากับลูกสาวที่บ้าน จนภรรยาเสียชีวิตแต่ลูกสาวรอดเพราะถังขยะเหล็กที่อยู่บนชั้นวางของหล่นมาคลุมลูกสาวเอาไว้ สองคนพ่อลูกเลยเคารพถังขยะใบนี้มาก ๆ และตั้งชื่อถังขยะว่า ลักษมี (ไม่ได้สปอยล์แต่มันบอกตั้งแต่ต้นเรื่อง) และวันหนึ่งระหว่างที่ลูกสาวไปเข้าค่ายฝึกกีฬา ที่บ้านของ มหาราชา ก็ถูกปล้นและหนึ่งในสิ่งที่โจรเอาไปก็คือถึงขยะที่ชื่อลักษมี การออกตามหาถึงขยะ ไม่ใช่สิ ลักษมี จึงเริ่มขึ้นกับความเป็นอินเดี๊ยอินเดีย (เสียงสูง) จึงเริ่มขึ้นก่อนจะบานปลายเป็นเรื่องใหญ่
![](https://img.4gamers.com.tw/ckfinder-th/image2/auto/2024-08/Screenshot_7-240812-141042.png?versionId=omzCe5BXBk4L3vbYdUqa3D2ku2gcfnPP)
เริ่มจากข้อดีของหนังกันก่อน นั่นคือสิ่งที่ตัวภาพยนตร์นำเสนอมันคือวิถีชีวิตชาวบ้านอินเดียจริง ๆ ที่เรามักจะเห็นบ่อย ๆ ถ้าคุณดูหนังอินเดียมาเยอะ แต่กับเรื่องนี้มันอินเดียกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นระบบชายเป็นใหญ่ เรื่องฉ้อฉลของตำรวจ โจรขโมย นักเลง ระบบการศึกษา และวิถีชีวิตแบบชาวบ้านธรรมดา ที่ดูไปก็ถึงกับอุทานว่านี่มันอินเดี๊ยอินเดียจริง ๆ คราวนี้มาดูในส่วนของเนื้อเรื่องจะบอกเล่าผ่านมหาราชาชาย ที่เคยสูญเสียเมียไปเพราะอุบัติเหตุ เลยเปลี่ยนเขาจากคนที่เงียบเก็บตัวไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว มาเป็นคนที่นิ่งเงียบเก็บตัวและเก็บกดยิ่งกว่าเดิม ซึ่งก็มีลูกสาวและลักษมีที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของเขาให้ยังเป็นคนปกติ แต่พอลักษมี ถูกขโมยไปและกลัวว่าลูกสาวจะเสียใจเมื่อรู้ว่าลักษมีหายไป ทางมหาราชาเลยร้อนรนรีบตามหาลักษมีจนยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ลักษมีคืนมา
โดยเนื้อเรื่องจะเริ่มจากจุดเล็ก ๆ อย่างการไปแจ้งความ และเสนอเงินรางวัลให้กับตำรวจ (ก่อนจะโดนตำรวจตบหน้าหาว่าติดสินบนตำรวจ และโดนด่าว่าต้องไปแอบให้โดยที่คนไม่รู้ถึงจะถูกต้อง) ซึ่งเมื่อมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวตำรวจที่แย่อยู่แล้วก็ยิ่งเริ่มแผนชั่วเพื่อเอาเงินของมหาราชา ขณะที่โจรที่ขโมยลักษมีไปก็มีเรื่องราวปมชีวิตของตน ทั้งเรื่องลูกครอบครัวที่ต้องหาเลี้ยง และเรื่องของเหล่านักเลง ที่เมื่อทั้งหมดมาเกี่ยวกันจากชายเก็บกดก็กลายเป็นชายที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเอาสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจคืนมา กับตอนจบที่ถือว่าโอเคนะจัดเป็นตอนจบที่ดีเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว (เดาว่าคำชมทั้งหลายน่าจะมาจากตอนจบนั่นละ)
![](https://img.4gamers.com.tw/ckfinder-th/image2/auto/2024-08/Screenshot_6-240812-141056.png?versionId=lo1_mLMZScFfcc.kFL6kOAU8GWUFERLK)
ชมมาพอและคราวนี้มาที่จุดไม่ชอบชองหนังเรื่องนี้กันบ้าง เริ่มจากเนื้อเรื่องที่ออกไปทางตลกร้ายมีการยิงมุกคำพูดที่ก็มีแอบขำเหมือนกัน (เพิ่งรู้อินเดียมีมุกดึงเสื้อขาดด้วย) ก่อนที่เนื้อหาจะเริ่มจริงจังขึ้นเรื่อย ๆ และมีฉากแอ็กชันต่อสู้พอให้ตื่นเต้น แต่เนื้อเรื่องที่ไม่ต้องมีก็ได้ก็ดันมีแถมเยอะด้วย เหมือนต้องการยืดเนื้อเรื่องให้ยาวเพราะเนื้อหาจริง ๆ แทบไม่มีอะไรเลย อย่างโจรที่มาปล้นบ้านคนแบบให้แอร์ไทม์นานมาก เหมือนต้องการให้รู้ว่าโจรคู่นี้มันชั่วนะแต่ก็ไม่ต้องนานขนาดนั้นก็ได้ และฉากที่ควรมีก็ดันไม่มีแต่ไอ้ฉากที่ไม่ควรมีดันใส่ซะเยอะ อย่างฉากที่มหาราชาโดนปล้นบ้านลักษมีโดนเอาไป ก็เข้าใจว่าที่หนังไม่เล่าเพื่อจะเอามาใช้เป็นมุกให้มหาราชาเอามาพูดเล่าซ้ำ ๆ หลายรอบ แต่มันก็ควรฉายให้ดูป่ะไม่ใช่จู่ ๆ ตัดฉากมหาราชานอนบนพื้นงูเห่าเลื้อยมาแค่เนี้ย (กราฟิกงูดีมากอันนี้ขอชม)
นี่ยังไม่นับฉากที่นักเลงขโมยแว่นตา ก่อนที่นักเลงเจ้าของแว่นจะโดนกระทืบเอง โดยฉากนี้เล่านานมากพร้อมฉากแอ็กชันจัดเต็ม ที่เอาจริง ๆ ไม่ต้องมีก็ได้มั้ง ก็รู้นะว่าฉากเหล่านี้จะเอาไปโยงให้มหาราชาไปจับตัวนักเลงคนนั้นมา แต่ถ้าคุณตัดฉากที่ว่านี้ไป แล้วให้นักเลงที่เป็นเจ้าของแว่นบอกว่า "ไอ้นั่นมันมาทำร้ายข้าที่ร้านเหล้าเมื่อวันก่อน เอ็งไปจัดการมันให้หน่อยเดี๋ยวข้าจะช่วยเอ็งตอบแทน" แค่นี้ก็พอป่ะ ทำไมต้องเล่าว่าข้าเอารถมาซ่อนแว่นตาของสำคัญข้าหาย จนบานปลายเป็นการกระทืบกันในร้านเหล้าเพื่อการปูมาแค่นี้
![](https://img.4gamers.com.tw/ckfinder-th/image2/auto/2024-08/Screenshot_5-240812-142053.png?versionId=2pWE.R8W7YhKB_4TCh3ZGn_EhlCyaHn4)
ยังไม่หมดนี่ยังไม่นับฉากที่ดูเยิ่นเย้อไม่ต้องมีก็ได้ อย่างฉากในโรงพักที่แค่มาแจ้งความและให้เราเห็นความหัวดื้อของมหาราชาว่าหนักขนาดไหนก็พอ ไม่ต้องเอาตัวละครตำรวจมาถูกตี (โจรชื่อตำรวจ มุกนี้ฮาให้ผ่าน) หรือฉากที่พี่แกถืองูให้ดูเท่ รวมถึงฉากที่ตำรวจให้โจรไปขโมยของและจับโจรเพื่อจะแอบเปลี่ยนของกลางโดยที่เจ้าทุกข์เอาผิดตำรวจไม่ได้ เพื่อจะบอกคนดูว่าตำรวจกลุ่มนี้แย่ขนาดไหน 2 - 3 ฉากพวกนี้ไม่ต้องมีก็ได้ (ร้องเพลงไม่นับอันนี้ต้องมีในหนังอินเดีย) ซึ่งเอาจริง ๆ เนื้อเรื่องแทบไม่มีอะไรเลย คุณสามารถดูตอนต้นและกดข้ามดูเป็นฉาก ๆ จนจบคุณก็รู้เนื้อเรื่องทั้งหมดได้ เพราะเนื้อหาจริง ๆ มันอยู่ช่วงท้ายเรื่องที่เป็นจุดประทับใจ
ที่ถ้าถามว่าท้ายเรื่องมันน่าประทับใจไหมก็บอกเลยว่าใช่และดีมากด้วย เพราะตัวเรื่องบอกเราว่ามหาราชานั้นเป็นพวกเก็บกดไม่ยอมและจะทำทุกทางเพื่อให้สิ่งที่ตนต้องการ (หัวดื้อแบบสุด ๆ แบบยอมหักไม่ยอมงอชนิดสุดโต่ง) ขณะที่ลูกสาวของมหาราชาจะตรงข้ามกับพ่อที่เป็นคนอ่อนโยน และเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเรื่อง ซึ่งในท้ายที่สุดเรื่องก็จบไปในแบบที่มันควรเป็น โดยมีลูกสาวของมหาราชาเป็นตัวแปรสุดท้าย
![](https://img.4gamers.com.tw/ckfinder-th/image2/auto/2024-08/Screenshot_8-240812-142904.png?versionId=YQ6SDpTvgN_3J2.3TsH03XQoGbeO8vhv)
มาถึงตรงนี้ก็คงต้องมาสรุปกันว่าภาพยนตร์ Maharaja ดีจริงไหม ก็คงบอกว่าดีสมกับที่หลายคนชม แต่กว่าจะไปถึงจุดที่เรียกว่าดีมันมีอะไรเยอะเกินแถมเวิ่นเว้อเยอะมาก ๆ อันที่ต้องเวิ่นเว้อเพื่อปูตัวละครอันนี้เข้าใจ (ฉากครูใหญ่ ฉากที่ดึงเสาในโรงพัก) แต่ฉากโจรที่นาน ฉากนักเลงสู้กัน ฉากตำรวจโกงกิน มันนานไป ที่ถ้าตัดหรือลดฉากพวกนี้ไปจะดีมาก ๆ แต่นั่นก็จะเหลือเนื้อเรื่องนิดเดียวเลยต้องเพิ่มฉากพวกนี้ให้หนังมันยาว ในส่วนของคะแนนก็ขอให้ 5.3 เต็ม 10 ใครมีเวลาว่างก็ลองไปหาดูตัวหนังเป็นซับไทย และมันไม่ได้ยอดเยี่ยมขนาดที่คุณต้องดูขนาดนั้น ไม่เชื่อลองไปหามาดูแล้วคุณจะรู้ว่าเราพูดจริงไหม