
ย้อนกลับไปก่อนปี 2000 ไม่นาน การติดตามข่าวสารวงการเกมทั้งหมดในตอนนั้น ต้องพึ่งนิตยสารเกมเพียงอย่างเดียว และในตอนนั้นก็มีการเปิดตัวของเกม Dragon Quest Vll ที่สร้างเสียงฮือฮาให้กับแฟน ๆ สาวก ดารเก้ (แฟนตัวจริงเขาเรียกชื่อนี้) ให้ติดตามข่าวสารแบบฉบับต่อฉบับ เพราะแค่การเปิดรูปตัวเอกที่เป็นเด็กผู้ชายหัวโตชุดสีเขียว กับเพื่อนอีก 2 คนที่เป็นนักดาบและสาวน้อยหน้าตาเบื่อหน่าย ก็สร้างความตื่นเต้นให้แฟน ๆ เพราะตามปกติตัวเอกในซีรีส์นี้จะเป็นชายนักรบเท่ ๆ ดูสมเป็นผู้กล้า ซึ่งกว่าที่เกมจะออกวางจำหน่ายแฟน ๆ ก็ต้องรอนานกันเป็นปีกว่าจะได้เล่นเกมนี้ (เกือบ 2 ปี) ที่ในยุคนั้นเกมภาคต่อที่ประกาศผ่านสื่อแล้วจะไม่รอนานขนาดนี้ และพอได้เล่นมันก็สมการรอคอยจริง ๆ และวันที่ 26 สิงหาคม ปี 2000 ครบรอบ 24 ปี วันวางจำหน่าย Dragon Quest VII ในญี่ปุ่น เรามาย้อนอดีตดูความทรงจำของเกมนี้ไปพร้อม ๆ กันเลย
ตัวเกม Dragon Quest VII ถูกพัฒนาขึ้นโดยค่าย Heartbeat และ ArtePiazza จัดจำหน่ายโดยบริษัท Enix และ Nintendo ที่เดิมทีตัวเกมมีกำหนดจะลงในเครื่อง Nintendo 64DD แต่ก็ได้ถูกเลื่อนกำหนดวางจำหน่ายออกไปหลายครั้ง จนในที่สุดได้ตัดสินใจย้ายไปลงบน PlayStation 1 แทน เพราะอย่างที่แฟน ๆ Dragon Quest จะทราบดีว่า ตัวเกมซีรีส์นี้จะเลือกลงให้กับเครื่องเกมคอนโซลที่ขายดีที่สุดในตอนนั้นเพียงเครื่องเดียว จึงนับเป็นการฉีกสัญญาที่มีต่อ Nintendo ไปอย่างไม่ไว้หน้า โดยจากข้อมูลบอกว่าทีมงานที่สร้างเกม Dragon Quest VII นี้มีเพียง 35 คนเท่านั้น
ในส่วนของเรื่องราวในเกม Dragon Quest VII จะบอกเล่าถึงโลกที่มีเกาะโดดเดี่ยวกลางทะเล ที่ตัวเอกของเรานั้นเป็นเพียงลูกชาวประมงของหมู่บ้าน ที่อยากจะออกทะเลไปกับพ่อแต่พ่อยังไม่ให้เขาไปเพราะยังขาดประสบการณ์ ขณะที่ตัวเอกของเราก็มีเพื่อนสนิทเป็นเจ้าชายที่ชื่อว่า คีฟา ที่มักชวนตัวเอกไปเล่นและสะสมแผ่นหินปริศนาที่เจอบนเกาะ โดยมา มารีเบล ลูกสาวหัวหน้าหมู่บ้านคอยแอบตามทั้งสองคน จนวันหนึ่งทั้งสามคนก็ได้เอาแผ่นหินปริศนาไปวางบนแท่นในวิหารโบราณบนเกาะ ทั้งสามจึงถูกส่งมาที่ดินแดนปริศนาที่ตัวเองไม่รู้จัก ซึ่งที่นี่มีทั้งมอนสเตอร์และปีศาจทั้งสามจึงช่วยเหลือดินแดนนั้น ที่พอช่วยได้และกลับมาที่เกาะบ้านเกิด ก็มีเกาะใหมม่เกิดขึ้นมาทั้งสามจึงออกเดินทางรวบรวมแผ่นหินเพื่อช่วยดินแดนต่าง ๆ ที่มีบางอย่างซ่อนอยู่ นั่นคือเรื่องราวของเกมภาคนี้

ในส่วนของตัวเกมจะเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ๆ เพราะเกมภาคนี้ถูกเปลี่ยนมาเป็นเครื่อง PlayStation 1 จึงสามารถสร้างฉากที่เป็น 3 มิติขึ้นมาได้ แต่กราฟิกของตัวละครยังคงเป็น 2 มิติ ส่วนฉากต่อสู้ก็ยังคงเอกลักษณ์ของ Dragon Quest VII ภาคเก่าเอาไว้แบบครบถ้วน ทั้งหน้าเมนูระบบการเล่นที่เอามาจาก Dragon Quest VI แบบทั้งชุด เพิ่มเติมอาชีพและท่าต่าง ๆ นั่นนิดนี่หน่อย แต่ด้วยเนื้อเรื่องที่สนุกน่าติดตาม (แม้ช่วยแรกจะน่าเบื่อ) กับความยากชนิดที่เรียกว่าคุณปั๊มเลเวลมาขนาดไหนบอสก็จะเก่งกว่าคุณหนึ่งขั้นเสมอ มันเลยเป็นการท้าทายคนเล่นที่อยากเอาชนะเกมนี้

และจากข้อมูลบอกว่าตัวเกม Dragon Quest VII เป็นเกมที่คนญี่ปุ่นอยากเล่นมากที่สุดในปี 2000 ซึ่งพอเกมนี้วางจำหน่าย มันก็ได้สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของญี่ปุ่นกว่าห้าหมื่นล้านเยน ที่พอบริษัท Square รับทราบถึงวันวางจำหน่ายของเกม Dragon Quest VII ผ่านสื่อ จึงรีบย้ายตัวเกม Final Fantasy lX ที่จะวางจำหน่ายท้ายปี 2000 ให้วางจำหน่ายเร็วขึ้นเป็นเดือนกรกฎาคม เพื่อตัดหน้าเกม Dragon Quest VII และเป็นการท้าชนกันแบบซึ่ง ๆ หน้า (ในสมัยนั้นทั้งคู่ยังเป็นคู่แข่งกันอยู่) จนเมื่อเกม Dragon Quest VII วางจำหน่ายก็กลายเป็นหนึ่งในภาคที่ประสบความสำเร็จสูงสุด โดยในปี 2000 ปีเดียวก็สามารถทำยอดขายได้ถึง 3.78 ล้านชุดเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังสามารถกวาดรางวัลต่าง ๆ ได้มากมาย และในปี 2006 นิตยสารเกม Famitsu โหวตให้เกม Dragon Quest VII เป็นวิดีโอเกมที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลอันดับ 9 อีกด้วย

อ่านมาถึงตรงนี้ใครที่สนใจอยากเล่นตัวเกม Dragon Quest VII ฉบับภาษาญี่ปุ่นบน PlayStation 1 ก็มีขายทั่วไปราคาหักสิบถึงร้อยต้น ๆ ส่วนฉบับภาษาอังกฤษอย่าง Dragon Warrior VII ราคาไปไกลมาก ๆ ไม่ต้องไปหาเลย ส่วนใครที่มีเครื่อง Nintendo 3DS ก็ซื้อมาเล่นได้เพราะเกม Dragon Quest VII ได้เอามาทำใหม่เปลี่ยนกราฟิกระบบการเล่นใหม่ยกชุด จนสนุกและง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก ๆ ลองไปหามาเล่นดูคุณอาจจะชอบเกมภาคนี้ก็ได้ใครจะรู้