
ย้อนเวลากลับไปเมื่อปี 1984 ที่ภาพยนตร์คนเหล็กไล่ล่ามนุษย์อย่าง The Terminator คนเหล็ก 2029 ภาคแรกออกฉาย ก็สร้างปรากฏการณ์สั่นสะเทือนวงการภาพยนตร์สมัยนั้น เพราะไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่องฉากการนำเสนอและเนื้อหาต่าง ๆ มันช่างดูสมจริงล้ำสมัย แถมยังออกแนวสยองขวัญที่ผสมกับการระเบิดภูเขาเผากระท่อมในเรื่องเดียว จนเวลาผ่านไปภาพยนตร์ The Terminator ก็ถูกสร้างออกมาอีกหลายต่อหลายภาค ที่เรียกว่ากระจัดกระจายเนื้อเรื่องมั่วไปหมด จนหลายคนไม่รู้จะเรียนช่วงเวลาอย่างไร จนกระทั่งผู้สร้างต้นฉบับ The Terminator อย่าง เจมส์ แคเมอรอน มาลงมือสร้าง The Terminator 3 อย่างเป็นทางการที่น่าจะมาขมวดปมเนื้อเรื่องให้จบครบ แต่กลับออกทะเลมั่วเข้าไปอีก และล่าสุดมีการประกาศสร้างอนิเมะ Terminator Zero ขึ้นมา ที่หลายคนไม่อยากจะคาดหวังความสนุก แต่พอได้ดูจนจบมันคืออนิเมะที่มาขมวดปมอุดรูช่องโหว่ของจักรวาลภาพยนตร์ทุกภาค ให้รวมกันเป็นจักรวาลเดียวกันได้เสียอย่างนั้น เรามาดูกันว่าอนิเมะเรื่องนี้มันทำได้อย่างไร
เริ่มจากเนื้อเรื่องของ Terminator Zero จะเกิดขึ้นในช่วงปี 1997 ซึ่งเป็น 1 วันก่อนจะถึงวันพิพากษาที่ทาง Skynet ปล่อยจรวดนิวเคลียร์ไปทั่วโลกก่อนจะส่งหุ่นมากวาดล้างมนุษย์จนหมด ในโลกอนาคตมีหญิงสาวคนหนึ่งถูกส่งมาในปีนี้ เพื่อตามหานักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งที่ในอนาคต เขาจะเป็นคนสร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่จะเปลี่ยนชะตากรรมของโลก ซึ่งทาง Skynet ก็รู้เรื่องนี้เลยส่งหุ่นมาฆ่าชายคนนี้ โดยจะจับลูกทั้ง 3 คนของเขาเป็นตัวประกัน การต่อสู้ปกป้องลูก ๆ ของชายที่จะเป็นกุญแจสู่อนาคตโลกจึงเริ่มขึ้น นั่นคือเรื่องราวคร่าว ๆ ที่อนิเมะบอกกับเรา
อ่านเรื่องย่อมาถึงตรงนี้ หลายคนคงจะคิดว่าอนิเมะเรื่องนี้ก็เหมือนกับภาพยนตร์คนเหล็กเรื่องอื่น ๆ ที่มีการส่งคนย้อนเวลามาสู้กับคนเหล็กอีกแล้วมุกเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ทำไม่เบื่อหรอ แถมตัวอย่างก็มีอย่างที่บอกในเรื่องย่อจริง ๆ ถ้าคุณคิดแบบนี้ (คนเขียนก่อนดูก็คิดแบบนี้) แปลว่าคุณกำลังถูกหลอกเข้าอย่างจัง เพราะตลอด 8 ตอนที่ดูมานั้น เรื่องราวที่เล่ามาทั้งหมดนั้นมันเป็นแค่เนื้อเรื่อง 3 ตอนแรกเท่านั้น เพราะอีก 5 ตอนที่เหลือมันคือเนื้อเรื่องใหม่ที่สานต่อเรื่องราว และอุดช่องโหว่ที่หลายคนสงสัยในจักรวาลคนเหล็กทุกภาคให้เอามารวมกันได้ อย่างคำถามที่ว่าทำไมคนเหล็กไม่ส่งหุ่นมาอีกตอนที่ฆ่า ซาร่า คอนเนอร์ ไม่ได้ แต่ส่งมาตอนที่ จอห์น คอนเนอร์ เกิดแล้วในหนัง The Terminator 2 หรือที่ จอห์น คอนเนอร์ ตุยไปใน The Terminator 3 จักรวาลถึงเปลี่ยนเป็นคนอื่นมากู้โลกแทน รวมถึงเหตุผลที่ทำไมจักรวาลภาพยนตร์ที่สร้าง ๆ กันมาถึงได้ออกทะเลมั่วไปหมด อนิเมะเรื่องนี้ก็มีคำตอบ เรียกว่าสรุปจบครบให้คุณได้รู้เลยทีเดียว

ในส่วนของเนื้อหาจะบอกเล่าผ่านตัวละครหลาย ๆ ตัวที่อยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาวจากอนาคต หุ่น Terminator ที่ถูกส่งมา ลูก ๆ ของนักวิทยาศาสตร์ทั้ง 3 คนกับพี่เลี้ยง และตัวนักวิทยาศาสตร์ที่กระจายบทได้อย่างดี ที่ถ้าคุณผ่าน 3 ตอนแรกไปได้คุณจะค้นพบเรื่องราวที่สนุกน่าติดตามอย่างไม่น่าเชื่อ โดยสิ่งที่เราจะบอกคุณได้ก็มีแค่การย้อนเวลามาแก้ไข้อดีตของตัวละครในเรื่องนี้ มันไม่ใช่การไปแก้ไขอนาคต เพราะต่อให้ตัวละครย้อนอดีตมาแก้ไขจนสำเร็จอนาคตก็ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แต่อดีตที่ถูกเปลี่ยนจะสร้างเส้นเวลาใหม่ขึ้นมาแทน นั่นก็หมายความว่าตอนที่ Terminator ตัวแรกถูกส่งมาเส้นเวลาก็ถูกเปลี่ยนไปแล้ว 1 ทาง พอ ไครีส พระเอกที่เป็นมนุษย์ถูกส่งมาเส้นเวลาก็จะแยกไปอีกทาง พอมาหนังภาค 2 เส้นเวลาก็ถูกเปลี่ยนอีก 2 ครั้ง จึงไม่น่าแปลกที่จะมีภาพยนตร์ The Terminator ออกมาหลายภาคเพราะทั้งหมดคือเส้นเวลาที่แยกออกมาจากหนัง 2 ภาคแรก (งงไหมถ้างงไปอ่านใหม่อีกรอบ) เพราะสิ่งที่เราพูดมาทั้งหมดนั้นมันคือหัวใจของอนิเมะเรื่องนี้

มาต่อกันที่เรื่องราวของ Terminator Zero ซึ่งอย่างที่เราได้บอกไปว่า ตัวเรื่องจะบอกเล่าผ่านหลายตัวละคร ที่เราสามารถเล่าได้แค่ช่วง 3 ตอนแรกจากทั้งหมด 8 ตอนเท่านั้น เพราะเล่ามากกว่านี้จะเป็นการสปอยล์มากเกินไป โดยในช่วง 3 ตอนแรกมันก็คือการก๊อปภาพยนตร์ The Terminator มาแบบทั้งชุด ทั้งคำพูดประโยคเด็ดในหนังอย่าง "มากับฉันถ้าไม่อยากตาย" ฉากบุกโรงพักแบบในภาคแรก ตัวคนเหล็กใส่ชุดตำรวจ หรือการกล่าวถึงหนัง The Terminator ทั้ง 2 ภาคแบบอ้อม ๆ ที่คนดูหนังมาทุกภาคน่าจะชอบ และอีกเรื่องที่ต้องชมคือตัวละครที่ดูเป็นมนุษย์ แบบโดนนั่นนิดนี่หน่อยก็เจ็บก็ไปไม่ไหว (แต่ตอนแรกเจ๊แกโคตรเทพแต่พอย้อนอดีตมาดูเหมือนจะถูกลดความแกร่งลง) ตัวปริศนาของตัวละครที่ดูเหมือนจะเป็นแค่ตัวประกอบแต่กลับมีบทเด่น หรือจะเป็นการดำเนินเรื่องที่ไปแบบจุด เอ ไปจุด บี ต่อด้วยจุด ซี ที่ทุกตัวละครจะดำเนินไปพร้อมกันแม้จะอยู่คนละที่ ซึ่งดูแล้วไม่งงแถมยังเอาใจช่วยทั้งหมดอีกด้วย
และที่ต้องชมอีกเรื่องคือการวางปมตัวละครที่ให้เราสงสัย ว่าตัวละครพวกนี้มันรู้เรื่องได้ไง ตัวละครนี้คือใครและทำไมตัวละครนี้มันถึงทำแบบนี้ ในตอนแรกที่เราดูเราจะสงสัยและพยายามเชื่อมโยงไปว่าอันนี้ต้องเกี่ยวกับอันนี้ เรื่องนี้กับเรื่องนั้นต้องเป็นแบบนี้ เพราะตัวอนิเมะมันให้เราเห็นแบบนี้ ที่เหมือนคนสร้างคนเขียนบทจงใจสับขาหลอกพวกที่ชอบเดาเนื้อเรื่องล่วงหน้า ก่อนที่จะเฉลยว่าที่เราคิดมาทุกอย่างผิดเกือบหมด แบบเฮ้ยจริงดิพอมาย้อนดูอีกรอบมันก็สมเหตุสมผลกับที่เฉลยมาจริง ๆ อันนี้ต้องชม

มาที่ข้อเสียกันบ้าง กับอย่างแรกเลยคือเนื้อเรื่อง 3 ตอนแรกที่ทางคนสร้างจงใจหลอกเรา ว่านี่คือหนังคนเหล็กคนที่มีการย้อนเวลามาปกป้องคนในโลกอดีตที่บอกเลยว่าจืดสนิท ไหนจะต้องปูตัวละครให้เรารู้จักทุกคนว่าใครคือใครแบบน่าเบื่อมาก แถมฉากแอ็กชันก็งั้น ๆ ไม่น่าตื่นเต้นอะไรเลยไปนั่งดูหนังคนเหล็กภาคแรกยังสนุกกว่า ที่ถ้าใครไม่โอเคคือปิดทิ้งได้เลยนะ แต่พอผ่านตอน 3 มามันคือของจริงซึ่งมันเสี่ยงที่ให้คนเลิกดูเพราะความซ้ำจำเจของ 3 ตอนแรก ที่ดันเป็นข้อเสียมากกว่าข้อดี อีกเรื่องที่ชวนหงุดหงิดคืออีลูกชายคนโตของบ้านที่ลำไยมาก ๆ โดยในตอนแรกพี่ชายคนโตจะเป็นพวกบ้าหุ่นชอบหุ่นมาก ๆ แต่พอหลัง ๆ กลับเป็นคนแรกที่เกลียดที่กลัวหุ่น แถมทำอะไรโง่ ๆ ที่ตัวเรื่องต้องการจะบอกว่าคนที่ฉลาดที่สุดในบ้าน ก็คือคนที่โง่ที่สุดและไม่มีหัวใจ ขณะที่น้องคนรองกับคนเล็กที่ดูโง่ ๆ บื้อ ๆ กลับมีหัวใจและเข้าใจคนอื่นและหุ่นยนตร์
อีกเรื่องคือการตัดความเก่งของตัวละคร ที่ในอนาคตเจ๊ที่ถูกย้อนเวลามาคือเก่งเว่อร์ พอมาปัจจุบันคือโดนลดความเก่งลงจนเป็นแค่ตัวประกอบทั่วไป ที่แบบโดนอัดทีเดียวก็เจ็บหนักลุกไม่ไหว จนสุดท้ายคนที่ถูกช่วยต้องดิ้นรนเอาเอง (หวังพึ่งไม่ค่อยได้) และที่แบบขัดใจสุด ๆ คือเจ๊เอาปืนของเล่นในสวนสนุกไปยิง Terminator เนี้ยนะ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เจ๊รู้วิธีละลายโลหะกับเผาหุ่น แต่หลัง ๆ เจ๊เอาปืนของเล่นมายิงแบบเอาจริงดิ ซึ่งต่อให้เจ๊แกไม่รู้ว่านั่นคือปืนของเล่น น้องที่มาด้วยก็น่าจะบอกเจ๊แกหน่อย (ยิงคนยังไม่เจ็บเลย) รวมถึงตอนจบที่พอดูจบครบเราต้องมานั่งคิดว่าอันนี้คืออันนั้น ที่มาจากอันนู้นอันนี้อีกจนปวดหัวเข้าไปอีก ทั้งที่น่าจะสรุปให้ครบน่าจะดีกว่า

สรุปตัวอนิเมะ Terminator Zero ถูกทำมาเพื่อแฟน The Terminator ที่ถ้าคุณเคยดูบางภาคมาหรือไม่เคยดูเลยก็สามารถสนุกกับเรื่องราวในอนิเมะนี้ได้ แต่คุณต้องผ่าน 3 ตอนแรกที่น่าเบื่อไปให้ได้ ส่วนใครที่ดูภาพยนตร์ The Terminator มาทุกภาคยิ่งต้องดูภาคนี้ เพราะมันคิอการอุดรูรั่วในภาพยนตร์ทุกเรื่องที่เราบอกไป ส่วนคะแนนก็ขอให้ 8.8 เต็ม 10 ข้อดีที่ชมไปข้อเสียที่หักก็มาจากที่ว่า ตัวภาพยนตร์มีพากย์ไทยที่บอกเลยว่าดีงามมาก ๆ นักพากย์จัดหนักใส่เต็มสมมาตรฐาน ไปหามาดูรับรองไม่ผิดหวังแน่นอน