ตอนแรกก็คิดว่าข่าวเกม Concord คงจะจบลงตรงนี้ไปพร้อม ๆ กับน้ำตาของเหล่าเกมเมอร์ทั่วโลก ที่ต่างโห่ร้องโอดครวนด้วยความดีใจที่เกมนี้มันไปเสียที และคงไม่มีการพูดถึงเกมนี้อีกในหน้าสื่ออีก แต่แล้วก็เหมือนการซ้ำศพเมื่อมีสื่อเกมหลายที่ออกมาพูดตรงกันว่า ตอนนี้ใครที่ซื้อเกม Concord แบบดิจิตรอนมาคุณจะไม่เห็นรูปและชื่อเกมนี้ในเครื่องเกมของคุณอีกต่อไป เรียกว่า Sony ผิดหวังขนาดไม่อยากแม้แต่จะเห็นตัวเกมบนเครื่องตัวเองเลยทีเดียว
ก่อนหน้านี้ถ้าใครยังจำได้ ทาง Sony เคยออกมาประกาศว่าเกม Concord จะปิดตัวลง พร้อมกับการคืนเงินให้คนที่ซื้อเกมนี้แบบดิจิตรอน โดยที่คุณจะไม่สามารถเข้าถึงเกมนี้ได้อีกต่อไป ซึ่งเอาจริง ๆ เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องปกติที่เราเห็นกัน แต่ที่มันผิดปกติคือแม้แต่ตัวรูปเกมที่ควรอยู่ในเครื่องของเรา (ตรงห้องสมุด) ทาง Sony ก็ลบทิ้ง รวมถึงคนที่ยังติดตั้งเกม Concord ในเครื่องและยังไม่ได้ลบออก ทาง Sony ก็ใจดีลบเกมนี้ออกจากเครื่องให้คุณด้วย หรือพูดง่าย ๆ ก็คือหายสาบสูญไปจากเครื่องเรา เหมือนเป็นสัญญาบอกเราว่าทาง Sony ไม่คิดที่จะทำอะไรกับเกมนี้อีกต่อไปแล้ว ไม่เอามาทำเป็นเกมฟรีหรือเปลี่ยนแปลงอะไร แต่เลือกที่จะลบทิ้งมันให้หมดเหมือนไม่เคยมีเกมนี้อยู่ในระบบ
และถ้าคุณสงสัยว่าและค้านว่า มันก็ไม่น่าแปลกอะไรนี่นา เกมที่ไม่ให้บริการแล้วจะถูกลบออกไปจากเครื่องเกมก็ไม่น่าจะแปลกอะไร แต่ก็มีคนแย้งว่ามันแปลกและแปลกมาก ๆ เพราะยกตัวอย่างเกม Silent Hills PT ที่ทาง Konami ลบทิ้งจาก PlayStation ใครที่โหลดเกมนี้มาแล้วก็ยังคงสามารถเล่นได้ เพราะตัวเกมดังกล่าวถูกเก็บไว้ในไดรฟ์ของเครื่อง PS5 รวมถึงหลายเกมที่ปิดให้บริการไปแล้ว ก็มีรูปให้เราดูต่างหน้าในห้องสมุด แต่สำหรับ Concord ของ Sony นั้นพี่แกเล่นไปลบในไดรฟ์ของเครื่อง PS5 (บน PC ไม่รู้ว่าโดนด้วยไหมไม่มีรายงาน) ส่วนใครที่มีแผ่นก็สามารถโหลดเกมลงไปติดตั้งในเครื่องได้ แต่ไม่สามารถเล่นได้ (แหงอยู่แล้ว) และรูปกับข้อมูลเกมจะไม่ถูกลบเหมือนของดิจิตรอน
และที่เป็นประเด็นตามมาคือทาง Sony สามารถล้างคอนเทนต์ออกจากคอนโซลของเราเมื่อไหร่ก็ได้ นั่นจึงแสดงให้เห็นว่าผู้คนไม่ได้เป็นเจ้าของคอนเทนต์ดิจิทัลจริง ๆ แต่เพียงแต่ได้รับอนุญาตให้ใช้ (เหมือนเช่ามาเล่น) และต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่อย่าง Sony แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ Concord กำลังเตือนผู้เล่นให้ตระหนักถึงข้อเท็จจริงนี้ (เหมือนรู้อยู่แล้วแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรจนมาถึงตอนนี้) และเราก็หวังว่าค่ายเกมอื่น ๆ น่าจะเอา Concord เป็นตัวอย่างและปรับใช้เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้มาอีกในอนาคต