 - สำเนา-240912-142822.png?versionId=yumOiSxXCNLvU83AiwBT9IfIplGkIufA)
จากตอนนี้นับถอยหลังอีก 2 ตอน jujutsu kaisen มหาเวทผนึกมาร ก็จะถึงตอนจบกันแล้ว โดยตอนที่เหลือต่อไปจากนี้จะเป็นการเคลียร์เรื่องราวต่าง ๆ ที่ค้างคาในเรื่องให้ครบและน่าจะมีบางอย่างซ่อนอยู่ (เดาล้วน ๆ) เพราะการเล่าตอนจบถึง 4 ตอนมันดูจะเยอะเกินไปสำหรับการบอกเล่าตอนจบของเรื่อง หลายคนจึงเดาว่ามันน่าจะมีอะไรซ่อนอยู่ก็ได้ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาดูสปอยล์ jujutsu kaisen ตอนที่ 269 กันเลย

เปิดเรื่องมาก็เป็นภาพย้อนอดีตเป็นภาพของเจ๊สาวผมเปียปิดหน้า เมเม มาที่ร้านขายของโชห่วยมุมถนนแห่งหนึ่ง และถามหญิงชราว่าอันนี้ราคาเท่าไหร่ ก่อนที่ภาพจะตัดมาที่ปัจจุบัน ตอนนี้คนที่ตะโกนโวยวายในตอนที่แล้วที่ทิ้งให้เราคนอ่านงงว่าใครเป็นคนตะโกน เราก็ได้รู้แล้วว่า มากิ ที่รอดชีวิตเป็นคนโวยวายใส่ ยูตะ ที่ตอนนี้ตัวของยูตะได้ร่างคืนเดิมกลับมาแล้วพร้อมรอยเย็บที่หัว (นึกว่าจะตุยในร่างอาจารย์ โกะโจ) มากิด่ายูตะว่า เข้าโง่ คืนร่างมาแบบนี้แกคิดว่าตัวเองไม่ผิดรึไงที่ทำแบบนี้ ส่านยูตะที่ถูกด่าก็นั่งจ๋อยไม่ตอบโต้อะไร
ในตอนนั้น เมงุมิ ยูจิ และก็ โนบาระ ก็มาถึงพอดีก็ทักทายรุ่นพี่มากิ จึงถามเมงูมิว่าไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม ทางเมงุมิก็บอกว่า ตอนนี้ยังงง ๆ อยู่ก่อนที่เมงุมิจะกล่าวขอโทษทุกคนที่ทำให้เดือดร้อน แต่มากิบอกว่าไม่ต้องขอโทษอะไรทั้งนั้นมันไม่ใช่ความผิดของนาย ยูจิก็ทำหน้าเอ๋อและบอกว่า พวกผมน่ะผิดกันเต็มคาราเมลเลยไม่ใช่หรอ ก่อนที่พรี่ คุซาคาเบะ (นึกว่าเฮียตุยไปแล้วซะอีก) บอกว่า ความผิดทั้งหมดในเรื่องนี้เป็นของ โกะโจ ที่ไม่ยอมฆ่า อิตาโดริ ที่เป็นภาชนะของสุคุนะตั้งแต่แรกที่เจอ และอิตาโดริเองก็ตกเป็นเหยื่อของ เคนจาคุในการเล่นเป็นผู้ก่อการร้ายในโลกคุณไสย ในตอนนั้นฉันก็เป็นคนหนึ่งที่สนับสนุนการประหารชีวิตของแก แต่ต้องขอบคุณ ผอ. ยากะ ล่ะนะที่ทำให้ฉันมาอยู่ตรงนี้ได้ ฉันไม่คิดว่าใครคนใดคนหนึ่งผิดหรอก ทุกคนต่างมีความคิดเป็นของตัวเอง และความจริงเหล่านั้นนำเรามาพบกันที่นี่ เด็ก ๆ น่ะไม่ต้องรู้สึกผิดไปหรอก นี่ก็เป็นหนึ่งในความรับผิดชอบของพวกผู้ใหญ่อย่างฉัน พูดอย่างเท่เลยลุง

ก่อนที่ภาพจะตัดมาที่ยูตะที่อธิบายถึงการรอดชีวิตของเขา ที่ยูตะบอกว่าที่ตนเองยังรอดและกลับมาที่ร่างตัวเองได้ ก็เพราะ ริกะจัง ได้ใช้ไสยเวทย้อนกลับในการรักษาร่างยูตะเอาไว้ (ภาพที่ริกะจังกอดยูตะและร้องไห้) ต่อมาตัวมากิก็หันมาทางยูตะและบ่นว่า ในการต่อสู้ครั้งนี้ยูตะผิดเต็ม ๆ ที่ไม่ทำตามแผนที่วางเอาไว้ ที่ถ้าทุกอย่างมันเป็นไปตามที่ทุกคนวางแผนตอนนั้น โทโด จะเป็นคนเข้าไปช่วยยูตะในการสังหารเคนจาคุทุกอย่างก็น่าจะผ่านไปได้ด้วยดี เพราะโทโดสามารถสลับตำแหน่งได้ มากิยังบอกอีกว่า จริง ๆ แล้วเธอควรเป็นคนที่รอดักซุ่มโจมตี เคนจาคุ แล้วให้ ฮิกุรุมะ เป็นคนที่มีเครื่องบันทีกเสียงวาจาคำสาปของ อินุมากิ ให้ทางนั้นชะงัก และให้ฮิกุรุมะใช้ดาบเพรฌฆาตในการฆ่า สุคุนะ ทุกอย่างคงจบไปแล้ว และเห็นแบบนี้ฮิกุรุมะ ยังไม่ตายนะแต่อาจารย์โกะโจเราตุย
ต่อมา แพนด้า ก็บอกว่าเหตุผลที่ทำไมไม่ให้ฮิกุรุมะพกเครื่องบันทึกเทปวางจำคำสาปเอามาใช้ เพราะการใช้วาจาคำสาปของอินุมากินั้นมีความเสี่ยง ที่คนใช้อาจจะโดนพลังคำสาปสะท้อนกลับมาหาคนใช้ได้ ยิ่งถ้าคนที่โดนวาจาคำสาปมีพลังสูงกว่าตัวเอง อินุมากิก็มีโอกาสที่จะตุยเพราะพลังสะท้อนกลับมา ฮิกุรุมะกล่าวต่อว่า วาจาคำสาปเป็นอาคมที่โดนโต้กลับได้ง่าย และตัวของฮิกุรุมะก็เป็นคนคิดแผนใช้เครื่องเสียงภายในการต่อสู้ของยูตะ ซึ่งมันดีกว่าให้ฮิกุรุมะเอามาใช้ตอนที่กางอาณาเขตอยู่ เพราะเขาต้องทำตามกฎในอาณาเขต แถมตอนที่อยู่ในอาณาเขตเขาจะไม่สามารถกระทำการใด ๆ ได้ ทางคุซาคาเบะบอกว่าเป็นเรื่องน่าทึ่งมามากที่ฮิกุรุมะยังรอดตายมาได้ ทั้งที่พึ่งเรียนรู้ไสยเวทแค่สองเดือน

มาคิก็บ่นต่อว่าทุกอย่างคงจะแตกต่างออกไปถ้า มิเกล และ ลารู อยู่ด้วยตั้งแต่แรก และโทษยูตะอีกครั้งเพราะยูตะบอกว่าทั้งคู่จะไม่มา ก่อนที่ยูจิจะพูดขึ้นมาว่า ถุงมือที่เขาสวมตอนนั้นคือเครื่องมือไสยเวทของยูตะ และที่ต้องขอบคุณยูตะที่สุด ก็คงจะเป็นตอนที่สุคุนะไม่สามารถกางอาณาเขตครั้งที่สองได้ ก็เป็นเพราะยูตะ ทาง ฮาคาริ ก็กล่าวเสริมว่า ต้องขอบคุณยูตะด้วยที่ให้พวกเขาอยู่ข้างในริกะ และซุ่มรอโจมตีสุคุนะเมื่อรู้ว่าโกะโจพ่ายแพ้ และแยกอุราอุเมะออกมาจากสุคุนะได้ ไม่อย่างนั้นการต่อสู้คงบานปลายยุ่งยากออกไปอีกอย่างแน่นอน ต่อมา โทโด ก็กล่าวด้วยความรู้สึกผิดว่า จะโทษเขาก็ได้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือ โจโซะ และ ยูจิ ได้ตอนที่สุคุนะกางอาณาเขต บอกตามตรงว่าอาณาเขตของสุคุนะนั้นแข็งแกร่งเกินไป ยิ่งไปอยู่ตรงกลางอาณาเขตทำให้ยากต่อการดึงตัวทั้งคู่ออกมา ทาง อิโนะ ก็กล่าวโทษด้วยเช่นกันและบอกว่า เขายังรอดอยู่ได้ก็เพราะ อุยอุย วาร์ปช่วยไว้ และโจโซะก็ควรจะรอดด้วยเหมือนกัน แต่ถ้าตอนนั้นโจโซไม่ตายคนที่ตายก็น่าจะเป็นยูจิ (เพราะโจโซช่วยยูจิไว้) เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ไม่มีใครผิดเลย
ทาง มิวะ กล่าวว่าเธอเองก็กังวลว่าถ้าเธอไปช่วยมาคิ เธออาจจะโดนส่งไปคนเดียวโดยไม่มีมาคิอยู่ด้วย โมโมะ บอกว่าขอโทษเช่นกันที่แทบไม่ได้ทำอะไรเลย ทาง ฮาคาริ ก็บอกว่า เขาตั้งใจจะไปร่วมสู้กับสุคุนะหลังจากจัดการกับอุราอุเมะได้สำเร็จ แต่อุราอุเมะแข็งแกร่งมาก (ตัดมาที่กี่ทีก็เห็นยืนคุยกันนี่นา) ทางด้าน โนบาระ กล่าวเสริมว่าเธอก็สลบไปจวบจนวินาทีสุดท้าย เพราะงั้นก็เลยไม่อยากพูดอะไรมาก ทางด้าน อุยอุย ที่ถูกชมก็ลุกขึ้นยืนด้วยความภูมิใจ และยกหางตัวเองว่าเขาคือ MVP ในการต่อสู้ครั้งนี้ คิราระ ก็พูดแทรกขึ้นมาว่า แต่อุยอุยทิ้งตนไว้กลางทาง อุยอุยก็ตะคอกกลับไปว่าก็คิราระตัวหนักเกินไง ทางคุซาคาเบะก็กล่าวว่า ในทางกลับกันเมเมเองก็สบายสุดเลย อุยอุยจึงสวนกลับว่าท่าพี่เมเมทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีแล้ว

ทางเมเมก็บอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า ชีวิตของเธอไม่สามารถแลกออกมาเป็นเงินได้ และสิ่งที่ไม่สามารถแลกเป็นเงินได้ก็ไม่คุ้มที่เธอจะต้องลงไปเสี่ยงชีวิตด้วย (มีเหตุผล) ทาง ฮาคาริ จึงถามเมเมเกี่ยวกับชินคาเงะ ริว อาณาเขตแบบง่าย ว่าจริง ๆ แล้ว มีแค่เฉพาะนักเรียนของสำนักนี้ไม่ใช่หรอที่สามารถใช้ได้ คุซาคาเบะจึงอธิบายว่าความจริงแล้วข้อจำกัดของวิชานี้ถูกสร้างขึ้นโดย อาชิยะ ซาดัตสึนะ เพื่อป้องกันไม่ให้เทคนิคนี้รั่วไหลออกไป เมเมจึงกล่าวเสริมว่าเมื่อเวลาผ่านไปหลายร้อยชั่วอายุ สำนักที่สอนวิชานี้สูญเสียผลประโยชน์ในโลกคุณไสยไป ทางนั้นจึงเก็บวิชาชินคาเงะ ริว อาณาเขตแบบง่าย ไว้เป็นเหมือนความลับทางการค้า และสร้างข้อผูกมัดที่ไม่สมเหตุสมขึ้นมาเพื่อไม่ให้คนอื่นใช้ได้
เมเมกับคุซาคาเบะอธิบายต่อว่า นักเรียนจากสำนักเงาไม่สามารถปฏิเสธคำสั่งการจากหัวหน้าสำนักได้ และยังมีปัญหาอื่น ๆ ภายในอีกเยอะ นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่าหัวหน้านักเรียนในสำนัก จะรับเอาอายุขัยของนักเรียนไป ซึ่งข่าวลือดังกล่าวอาจจะเป็นความจริง เพราะเดิมทีสำนักเงาถูกสร้างขึ้นเพื่อไม่ให้ใครรู้ว่าคนไหนคือหัวหน้า จึงไม่รู้ว่าใครขึ้นมาเป็นหัวหน้าสำนักและใช้วิธีไหน ทางคุซาคาเบะยังบอกอีกว่า มีนักเรียนที่อายุเยอะแล้วเหมือนกัน และถ้าหัวหน้าปัจจุบันตายคนที่อาวุโสคนต่อไปอาจจะขึ้นมาแทน ตราบใดที่คนในสำนักไม่ได้เปิดเผยตรง ๆ ก็ไม่มีใครรู้อยู่ดีว่าคนไหนคือหัวหน้า

จากนั้นคุซาคาเบะก็บอกว่าข้อผูดมัดที่ไม่ให้แพร่งพรายวิชาออกสู่ภายนอก จะลบล้างได้ด้วยหัวหน้าสำนักเท่านั้น และเขาก็ยอมรับว่าปัจจุบันเขาคือหัวหน้าคนใหม่ของสำนักเงา ซึ่งคุซาคาเบะไม่ได้สนใจข้อผูกมัดอะไรนั่นอยู่แล้ว เมเมจึงบอกว่าเธออยากให้อุยอุยเป็นหัวหน้าคนต่อไป เพราะเธอจะได้ส่วนแบ่งเงินเดือน เมเมยังแซวอีกว่านี่อาจจะเข้าสู่ยุคการสมัครสมาชิกเพื่อเป็นนักคุณไสยแล้วก็ได้ ก่อนที่ภาพจะตัดมาที่อดีต (ภาพที่เมเมมาที่ร้านโชห่วย) โดยหญิงชราที่ขายลูกอมคือหัวหน้าของสำนักเงา ซึ่งคนแก่คนนั้นสงสัยว่าเมเมรู้ได้ยังไงว่าแกคือหัวหน้า เมเมจึงตอบว่าเธอแค่ไปถามคนที่รู้มา และบอกว่าตอนนี้สำนักเงากลายเป็นพลังที่เท่าเทียมกับสามตระกูลใหญ่ และหวังจะฮุบโลกไสยเวทไว้ในมือเพื่อขึ้นเป็นแกนนำ คนแก่คนนั้นจึงตระหนักได้ว่า เท็นเง็น น่าจะเป็นคนบอกเมเมว่าใครคือหัวหน้าและปัจจุบันอยู่ทีไหน

เมเมกล่าวกับหัวหน้าสำนักเงาตอนนั้นว่า ผู้นำสำนักเงาควรจะมีวิสัยทัศน์ที่พวกเขาอยากจะเห็น แม้ต้องแลกด้วยอายุขัยของเหล่าสาวกก็ตาม เป็นความทะเยอทะยานอย่างมหาศาลที่แลกเป็นเงินทองไม่ได้ เมเมยังเสริมอีกว่า มีบางสิ่งบนโลกนี้ที่สำคัญกว่าเงิน แต่ไม่สามารถปกป้องไว้ได้ถ้าไม่มีเงิน ข้างนอกนั้นคงมีนักคุณไสยที่รอดตายเยอะแน่ ๆ ถ้าชินคาเงะ ริวไม่ถูกผูกขาดด้วยอำนาจจากสำนัก เมเมบอกต่อว่าตอนนี้ตระกูลเซนอิงพินาศแล้ว และถ้าตระกูลคาโมะ และ โกะโจพ่ายแพ้ล่ะก็มันก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดการแย่งชิความเป็นใหญ่ขึ้นมา เมเมจึงฆ่าหญิงชราคนนั้นก่อนจะจบตอน

ก็จบกันไปแล้วกับการเคลียร์ปมต่าง ๆ ที่ค้างคาในเรื่องที่เรียกว่าอ่านกันยาว ๆ กันเลยทีเดียว หวังว่าตอนนี้จะช่วยให้หลายคนที่กำลังงุนงงสงสัยได้คำตอบมากขึ้น และเวลาอีก 2 ตอนที่เหลือทางอาจารย์หุ่น เกะเงะ จะให้เรื่องราวดำเนินไปทางไหนต่อ สุคุนะจะกลับมาอีกไหมอาจารย์โกะโจตุยจริงแน่หรือ คงต้องมารอดูกันต่อในอีก 2 ตอนสุดท้าย และถ้าใครที่อ่านตรงนี้จบแล้วก็เตรียมไปอ่านฉบับเต็มแบบภาษาไทยได้ที่ MANGA Plus ได้เลย ที่อาจจะมาช้าหน่อยก็อ่านตรงนี้ไปก่อน พอตัวเต็มมาก็ไปอ่านแบบเก็บรายละเอียดอีกที จะได้ไม่ถูกคนอื่นสปอยล์ ส่วนอีก 2 ตอนที่เหลือก็รออ่านกันได้ในอาทิตย์ต่อไปติดตามเอาไว้ได้เลย