
คุณเคยได้ยินคำว่าไม่เหมือนตรงไหนเอาปากกามาวงคำ ๆ นี้เรามักใช้กับบางสิ่งที่เหมือนกันมาก ๆ จนกล้าท้าว่าไม่เหมือนตรงไหนให้เอาปากกามาวงได้เลย ซึ่งสิ่งนี้มันก็เกิดขึ้นในซีรีส์ The Last Of Us Season 2 ที่เพิ่งปล่อยตัวอย่างแรกออกมาเมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา (ในเวลาต่างประเทศที่บ้านเรายังมืดอยู่) โดยวันที่ 26 กันยายนนั้นก็ถือเป็นวันสำคัญของเกม The Last of Us เนื่องจากเป็นวันที่ไวรัส Cordyceps ระบาดเป็นครั้งแรก (วันที่ โจเอล เสียลูกสาวก็วันนั้น) และสิ่งที่ทำให้แฟนเกมตื่นเต้นที่สุด ก็คือตัวอย่างที่ปล่อยออกมานั้นมันตรงตามในเกมแทบทุกอย่าง เรามาดูกันว่าฉากในตัวอย่างมันเหมือนในเกมขนาดไหนกันบ้าง เรามาดูมาแกะไปพร้อมกันเลย
เปิดตัวอย่างมาเราจะได้เห็น โจเอล นั่งคุยกับจิตแพทย์ซึ่งตรงนี้ไม่มีในเกม แต่แฟน ๆ เกมก็พอจะเดาได้ว่าฉากนี้มันคล้ายกับในเกมตอนแรก แค่เปลี่ยนจากหมอจิตแพทย์เป็น ทอมมี่ น้องชายของเขาเท่านั้น (บทพูดเดียวกันเป๊ะ) ก่อนจะตัดฉากมาที่ เอลลี่ ที่เดินกำลังเดินในเมืองซึ่งก็ตรงกับเกมตอนแรก ที่บอกเลยว่าตรงตามในเกมแบบสุด ๆ ต่อด้วยฉากที่ใส่จดหมายที่เป็นนามสกุลของโจเอล ที่คนเล่นเกมเท่านั้นจะรู้ว่าฉากนี้มันต้องการสื่อถึงอะไร โดยในส่วนนี้ยอมใจคนตัดต่อจริง ๆ แปลว่าคนตัดต่อรู้จักเกมนี้ดีพอ ๆ กับคนเล่นเกมจึงเอาฉากนี้ใส่เข้ามา ส่วนคนที่ไม่รู้ก็ไปรอดูในซีรีส์เองเราจะไม่บอกอะไรคุณทั้งนั้น

ต่อด้วยฉากกีตาร์ที่มีลายผีเสือกลางคืนที่เป็นรูปเดียวกับรอยสักที่แขนของเอลลี่ กับฉากของโจเอลที่กำลังสอนกีตาร์เอลลี่ตามในเกมช่วงแรกที่เราได้เล่น ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่สองพ่อลูกมีความสุขที่สุด ก่อนที่การเดินทางครั้งใหม่จะเริ่มต้นขึ้น คู่ขนานไปกับตัวละครตัวเอกคนใหม่ที่จะมีบทบาทในอนาคต ฉากต่อมาคือฉากขี่ม้าท่ามกลางหิมะ ซึ่งเป็นตอนที่ เอลลี่ กับ ดีน่า แฟนสาวขี่ม้าสำรวจตามจุดต่าง ๆ ตามหน้าที่ ซึ่งเป็นเรื่องราวช่วงแรกของเกมเช่นกัน

ต่อมาเป็นฉากที่เอลลี่กำลังนั่งเล่นกีตาร์ในตึกร้าง โดยมีดีน่าที่ร่วมเดินทางมากับเอลลี่ในภารกิจครั้งใหม่ ก่อนที่เราจะได้เห็นใบหน้าของดีน่าชัด ๆ ครั้งแรกคราวนี้ แต่แอบตินิดหน่อยตรงที่ตัวละครน่าจะมัดผมตามในเกม เพราะถ้ามองตามหลักความเป็นจริงผมที่ไม่ได้มัดมันจะไปเกะกะตอนต่อสู้ การมัดผมของตัวละครคือเหตุผลแบบนี้ (เรามีรูปในเกมเทียบ)

ภาพต่อมาคือรูปของโจเอลที่กำลังนั่งดีดกีตาร์ก่อนที่โจเอลจะทำท่าตกใจเพราะเอลลี่มาหา โดยฉากนี้จะเป็นเรื่องราวก่อนการเดินทางของเอลลี่ ที่เธอจะไปทำภารกิจพร้อมกับดีน่า กับอีกหนึ่งตัวละครใหม่ที่เปิดตัวในเกมและซีรีส์นี้ นั่นคือตัวละครที่ชื่อว่า เจสซี่ อดีตแฟนหนุ่มของดีน่า ที่เขาก็คือหนึ่งในคนที่เดินทางในครั้งนี้เหมือนกัน (แต่ไม่ได้ไปพร้อมกับทั้ง 2 คน)

ฉากต่อมาคือรูปของมีดพกที่เอลลี่พกติดตัวมาตั้งแต่ภาคแรก ต่อด้วยภาพของ ทอมมี่ หนึ่งในตัวละครอีกคนที่เดินทางในครั้งนี้เช่นกัน (แต่ไม่ได้ไปพร้อมกับเอลลี่และเจสซี่) ตามมาด้วยฉากของซอมบี้ที่เป็นเหมือนผู้ติดเชื้อกำลังคลาน ที่น่าจะเป็นภาพย้อนอดีตของโจเอลกับเอลลี่สมัยที่มาที่นี่ใหม่ ๆ

และก็มาถึงภาพหน้าเต็ม ๆ ของ แอบบี้ ตัวละครใหม่อีกหนึ่งคนที่จะบอกเล่าเรื่องราวคู่ขนานไปกับเรื่องราวของเอลลี่ ที่แม้ทั้งคู่จะอยู่คนละที่กันแต่ทั้งสองคนก็มีเรื่องราวที่เกี่ยวโยงกันอย่างไม่น่าเชื่อ ตามด้วยฉากของเหล่าผู้ติดเชื้อที่มาเป็นกองทัพ (ในเกมมันมีน้อยกว่านี้นะ) ตามมาด้วยฉากที่แอบบี้กำลังหนีตายที่ตรงกับในเกมแบบสุด ๆ

ภาพต่อมาคือคนหัวโล้นที่มีแผลเป็นที่แก้มกับสัญญาลักษณ์เลือดที่วาดบนกำแพง ที่บอกเราถึงกลุ่มคนที่จะมาเป็นศัตรูในการเดินทางของเอลลี่และก็แอ็บบี้ในครั้งนี้ โดยคนกลุ่มนี้จะมีชื่อว่า เซราไฟต์ หรืออีกชื่อคือ สกา ที่เป็นกลุ่มคนคลั่งศาสนา ตัดมาอีกรูปเป็นชายหัวโล้นมีหนวดท่าทางเหมือนทหาร ที่เป็นคนอีกกลุ่มซึ่งจะเป็นศัตรูกับเอลลี่และแอ็บบี้เช่นกัน โโยคนกลุ่มนี้คือกลุ่มทหารเก่าที่เรียกตัวเองว่า WLF บอกเลยว่างานนี้เอลลี่เจอศึกหนักมาก ๆ

ปิดท้ายด้วยฉากแอ็กชันที่ใส่มาแบบรัว ๆ ที่มีทั้งฉากการไล่ล่าของซอมบี้หัวเห็ด ฉากของพวก WLF ไล่ล่าพวกเอลลี่ และฉากสู้กับพวกเซราไฟต์ ก่อนจะตัดมาที่ฉากโจเอลที่ร้องไห้น้ำตาไหลที่คนเล่นเกมรู้เลยว่าฉากโจเอลร้องไห้มันคือตอน และปิดท้ายด้วยฉากการสอนกีตาร์ของโจเอลและเอลลี่อีกครั้ง ซึ่งถ้าใครอยากรู้ว่ามันเหมือนในเกมขนาดไหนก็ไปดูวิดีโอข้างล่างนี้เลย
เรียกว่าจัดหนักจัดเต็มกันเลยทีเดียว จนแฟน ๆ ที่เล่นเกมต่างโห่ร้องออกมาด้วยความดีใจ ส่วนใครที่ไม่ได้เล่นเกมก็ไม่ต้องไปถามหรือดูคนเล่นเกมภาคนี้เดี๋ยวจะเสียอรรถรสในการดู ไปรอลุ้นในซีรีส์ทีเดียวไปเลย บอกเลยจะดีกว่า ว่างานนี้สู้กันเยอะหนีตายมากกว่าภาคก่อน เพราะนอกจากซอมบี้หัวเห็ดแล้วยังมีกองทหาร 2 ฝ่ายที่จ้องจะฆ่าเอลลี่กับแอ็บบี้ที่สนุกสะใจแน่นอน และถ้ามีความคืบหน้าเกี่ยวกับซีรีส์นี้เราจะเอามารายงานให้ทราบทันทีติดตามเอาไว้ได้เลย