เคยมีคนกล่าวว่ายิ่งเราโตขึ้นเราจะยิ่งเพื่อนน้อยลง ไม่ว่าจะเป็นเพราะการงานชีวิตหรือสิ่งต่าง ๆ จะทำให้เราเลือกเพื่อนที่อยู่ด้วยโดยไม่รู้ตัว เหมือนกับในโลกของวิดีโอเกมที่ว่ากันว่าเมื่อคุณโตขึ้นคุณก็คงอยากจะเข้าสังคมในเกมน้อยลง อยากนั่งเล่นเกมแบบผู้เล่นคนเดียวในบ้านไม่ต้องต่อออนไลน์ไปเจอผู้คน ตรงข้ามกับสิ่งที่ประธานค่ายเกมค่ายหนึ่งเคยคิดวิเคราะห์เเยกเเยะบอกว่า ในอนาคตเกมแนวเล่นคนเดียวหรือ Single Player ไม่ต่อออนไลน์จะหมดไป ทุกเกมจะกลายเป็นเกมออนไลน์ Multiplayer และ Live Service ที่เราต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เล่นคนอื่นแทน ซึ่งจากตอนนั้นจนถึงตอนนี้เกมแนวเล่นคนเดียวก็ยังขายได้ขายดีตรงข้ามกับเกมออนไลน์ที่เจ๊งเป็นว่าเล่นสวนทางกันคนละทิศ ซึ่งแบบสำรวจล่าสุดได้ออกมาบอกว่า 53% ของผู้เล่นเกมชอบเล่นคนเดียวไม่ชอบต่อออนไลน์เล่นกับคนอื่น
โดยรายงานดังกล่าวมาจากทาง GamesIndustry.biz ที่เอาผลการสำรวจมาจากทาง Midia Research ที่แสดงให้เห็นว่า 53% ของผู้เล่นวิดีโอเกมชอบเล่นคนเดียวและไม่ต้องการเล่น PvP ออนไลน์หรือโหมด co-op กับคนอื่น ตามข้อมูลของ Midia ในปี 2023 และ 2024 การสำรวจได้สอบถามผู้เล่นจากสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี โปแลนด์ บราซิล แอฟริกาใต้ และ ตุรกี เกี่ยวกับความชอบในวิดีโอเกมต่าง ๆ และใช่แล้ว ปรากฏว่าคนส่วนใหญ่ชอบเล่นเกมแบบผู้เล่นคนเดียวมากกว่าต่อออนไลน์
และที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือผลสำรวจดังกล่าวบอกว่า ยิ่งคุณอายุมากขึ้นคุณก็จะยิ่งหลีกเลี่ยงเกมออนไลน์และยึดติดกับการผจญภัยแบบผู้เล่นคนเดียวมากขึ้น โดยร้อยละ 74 ของนักเล่นเกมที่อายุมากกว่า 55 ปีบอกกับ Midia ว่าพวกเขาชอบเกมแบบผู้เล่นคนเดียวมากกว่าแบบ Co-op หรือ PvP ออนไลน์ และในผลสำรวจก็ชี้ให้เห็นว่ายิ่งคุณอายุน้อย คุณก็ยิ่งมีแนวโน้มที่จะอยากเล่นเกมกับคนอื่น โดยผู้เล่นที่อายุต่ำกว่า 19 ปีเพียงร้อยละ 30 เท่านั้นที่ชอบเล่นคนเดียว ด้วยเหตุผลที่ว่ามันไม่สนุกเท่าเล้่นกับเพื่อน ๆ และคนอื่น ๆ ซึ่งท้าทายมากกว่าเล่นเกมแบบผู้เล่นคนเดียว
ทาง Midia ยังกล่าวต่อว่าผู้เล่นที่อายุน้อย (ตามกราฟ) ที่จะชอบเล่นเกมกับเพื่อน ๆ เพราะคนช่วงอายุนี้ยังไม่มีเวลาว่างเยอะ และมีเพื่อนคนรู้จักสนิททั้งในเกมนอกเกมอยู่มาก (เหมือนที่เราพูดไปเมื่อตอนต้น) ในขณะที่ผู้คนที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไปอาจจะมีชีวิตที่ยุ่งวุ่นวายกว่า จึงไม่มีเวลามานั่งเล่นเกมออนไลน์ แต่อยากเล่นเกมชิว ๆ คนเดียวเบื่อก็หยุดเล่นไปทำอย่างอื่น รวมถึงการอยากรู้จักคนในเกม แต่นั่นก็ไม่ใช่ผลสำรวจที่เราจะเอามาอ้างอิงได้แบบ 100% เพราะเมื่อดูจากประเทศที่มีการสำรวจมันคือฝั่งยุโรบอเมริกาไม่ใช่โซนเอเชียของเรา ที่ไม่แน่ฝั่งบ้านเราอาจจะต่างออกไปก็ได้
แต่เมื่อมองในแง่ของสิ่งที่ทาง Midia ไปสำรวจ ก็ชวนให้คิดเหมือนกันว่าตอนนี้เราเล่นเกมอะไรมากกว่ากัน ระหว่างเกมแนวเล่นคนเดียวไปเรื่อย ๆ กับเกมออนไลน์ที่ต้องเล่นกับผู้อื่น หรือเล่นเกมออนไลน์กับคนอื่นแต่ไม่แชทไม่เปิดไมค์ไม่คุยกับใคร เล่นตามภารกิจของตัวเองหรือเป้าหมาย นั่นก็จะถูกแยกไปเป็นอีกแบบเช่นกัน ซึ่งถ้าถามว่าอายุมันเกี่ยวไหมก็อาจจะมีส่วน เพราะบางคนก็ให้เหตุผลที่เลิกเล่นเกมออนไลน์เพราะไม่มีเพื่อนเล่น หรือเล่นกับเพื่อนสนุกกว่าเล่นกับคนที่ไม่รู้จัก หรือคุณอาจจะเป็นคนส่วนน้อยที่ชอบเล่นเกมกับคนอื่น มากกว่านั่งเล่นเกมผู้เล่นคนเดียวก็ได้ เพราะไม่ว่าจะเล่นคนเดียวเล่นกับคนอื่นมันก็ไม่มีถูกไม่มีผิดทั้งนั้นเพราะมันคือความชอบและพอใจของเรา