หลังจากที่รอคอยมานานถึง 7 วันสปอยล์ One Piece ตอนที่ 1129 มาเป็นที่เรียบร้อยแล้วจ้า และก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาเรามาสรุปเนื้อหาตอนที่แล้วเล็กน้อยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง โดยในตอนที่ 1128 นั้นพวกกลุ่มหมวกฟางที่นำโดยกลุ่มหลักของโจรสลัดหมวกฟางอย่าง ลูฟี่ นามิ อูซป ซันจิ โซโล ก็ได้เจอ ช็อปเปอร์ อีกคนที่ถูกขังที่นี่ โดยสถานที่ที่พวกหมวกฟางอยู่นั้นความจริงแล้วมันคือตู้กระจก ที่เป็นเหมือนกรงเลี้ยงสัตว์ของเทพตะวันหรือคนยักษ์ปริศนาที่จับทุกคนมาเลี้ยงเหมือนสัตว์ ก่อนที่ทั้งกลุ่มหมวกฟางจะเผาห้องและทำร้ายสัตว์เลี้ยงในห้องนั้น และขี่เจ้าเหมียวยักษ์หนีมาได้นั่นคือเรื่องราวในตอนที่ผ่านมา
ต่อเนื่องจากตอนที่แล้วช่วงที่เกิดไฟไหม้ในห้อง ชาวเมืองที่เป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงของเทพตะวันก็เห็นรอยร้าวบนกระจก ทุกคนมีท่าทางตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ขณะที่เทพตะวันก็รีบเดินผ่านมาดูกรงของตน ก็เห็นโครงกระดูกของเทพหูสัตว์ที่เลี้ยงไว้แต่ถูกพวกลูฟี่จับกิน โดยมันมีชื่อน่ารัก ๆ ว่า Gluttobunny เป็นกระต่ายที่ดุร้ายมากและกินเนื้อเป็นอาหาร (เหมือนมนุษย์ในนี้จะเป็นอาหารของกระต่าย) เทพตะวันโกรธมากที่เห็นสัตว์เลี้ยงของตนอยู่ในสภาพนี้ จนเทพตะวันตะโกนออกมาเสียงดังว่า "พวกแกกล้าดียังไงทำลายห้อง... วิหาร และข้ารับใช้ของข้า"
ทางด้านลูฟี่ที่เป็นคนขี่เจ้าเหมียวก็บอกให้แมวยักษ์พยายามหลบอาคารต่าง ๆ ที่กำลังพังทลายลงมา เพราะเขาไม่อยากทำลายชิ้นส่วนเลโก้ของเทพตะวัน ส่วนนามิก็จำแผนที่ได้ทั้งหมดแล้วก็โยนมันทิ้งไป และเริ่มอธิบายแผนผังของห้องยักษ์ทั้งหมด นามิบอกทุกคนว่า "ถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นเมฆที่จริง ๆ แล้วเป็นแค่ปุยฝ้าย เราแค่ต้องวิ่งตรงไปเรื่อย ๆ ก็ผ่านอาณาจักรนี้ไปได้เพราะเมืองมีมีแค่ครึ่งเดียว" ในแผนที่ (รูปด้านล่าง) เราเห็นจุดที่พวกลูฟี่อยู่และห้องของเทพตะวัน ที่ความจริงแล้วมันก็คือของจำลองเมืองขนามย่อมเท่านั้น ซึ่งเมืองจำลองนี้ครอบคลุมพื้นที่ 2 ใน 3 ของห้อง และที่ต้นไม้ใหญ่ก็เป็นกระจกเท่านั้น
เทพตะวันพยายามจับพวกลูฟี่ด้วยตาข่ายยักษ์ที่ออกมาจากคฑาของตัวเอง แต่โซโลและซันจิก็ทำลายมันได้อย่างง่ายดาย พวกลูฟี่ขี่แมววิ่งมาจนถึงอีกฝากของอาณาจักรเลโก้ อุซปใช้กระสุนเขียวของเขาทำลายกระจกแต่กระจกก็ไม่เป็นอะไร เทพตะวันที่เห็นก็พูดขึ้นมาว่า สิ่งที่พวกแกทำมันน่าสนุกมาก เพราะพวกแกรับบทเป็นทั้งปีศาจชั่วร้ายและเป็นวีรบุรุษ แถมยังสร้างเรื่องราวการต่อสู้ในโลกจำลองอีก เทพตะวันเลยต้องการให้พวกหมวกฟางอยู่ที่นี่ และเป็นตุ๊กตาสะสมของเขาต่อไป และมีวงเล็บแถมด้วยว่า สำเนียงการพูดของคนยักษ์คนนี้เหมือนพวกซามูไรที่แคว้นวาโนะมาก ๆ
เทพตะวันบอกว่า "ตุ๊กตาที่ไร้พลังในการต่อสู้แต่พยายามต่อสู้กับโชคชะตา นี่มันสตอรี่ชั้นยอดไปเลย ข้าคิดถูกแล้วที่รับพวกแกเข้ามาในประเทศนี้ ลูฟี่ทาโซ โซโลทาโซ อุโซทาโซ ซานทาโซ โชทาโซ คนยักษ์เรียกเรียกชื่อทุกคนอย่างพออกพอใจ นามิที่ได้ยินก็ตกใจว่าคนยักษ์รู้จักชื่อพวกเขาได้อย่างไร ส่วนช็อปเปอร์ที่สงสัยเลยถามนามิว่า ทาโซ คืออะไร (มันคือคำทิ้งทายชื่อที่แสดงความเคารพต่อคน ๆ นั้น) ทางลูฟี่ที่เห็นแบบนี้ก็ค้นไม้คันมือตะโกนออกมาว่า "เดี๋ยวฉันจะเปิดรูนั่นด้วยเกียร์ 4 แล้วกัน" ลูฟี่เปิดร่างเกียร์ 4 แต่เปิดใช้เพียงแค่เเขนข้างเดียวเท่านั้น
ในขณะที่นามิหงุดหงิดกับเทพตะวันมากจึงเริ่มหันไปคุยกับอุซปแล้วบอกว่า "นี่อุซปปกติภัยพิบัติทางธรรมชาติ ไม่ใช่ความผิดใครถูกต้องไหม" อุซปที่ได้ยินก็แอบงงไปแป๊บก่อนจะคิดได้และบอกว่า "ก็ใช่ล่ะ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหวน้ำท่วมฟ้าผ่า ปกติแล้วไม่มีใครมานั่งโทษกันเรื่องนั้นหรอก" นามิจึงพูดต่อว่า "ไอ้หมอนั่นทำให้พวกเราต้องผ่านภัยพิบัติแบบนั้นทั้งหมดมา บอกตามตรงมันทำให้ฉันโกรธมาก" อุซปจึงพูดต่อว่า "ก็ใช่นะ แต่นั่นมันคนยักษ์นะ" อูซปยังพูดไม่ทันจบ ซันจิที่อยู่กลางบทสนทนาก็เริ่มทำหน้าตาเหมือนจะร้องไห้ ซันจิบอกว่าเขาเห็นด้วยกับนามิมาก ๆ และโกรธมากเหมือนกันที่พอคิดได้ว่า ไอ้เทพตะวันน่าจะเป็นคนเปลี่ยนชุดในคุณนามิ (คนละโกรธแล้วเพ่) ซันจิบอกว่าเขาจะแตะเทพองค์นี้ให้เป็นชิ้น ๆ
ภาพตัดมาที่อดีตก่อนหน้านี้ เราจะได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเทพตะวันก็คือต้นหนเรือของกลุ่มนักรบยักษ์รุ่นใหม่ ที่มีชื่อว่า โร้ด โดยเราจะเห็นอีกายักษ์พาเรือซันนี่มาหาโร้ด พอโร้ดเห็นว่านี่คือกลุ่มหวกฟางโร้กก็ตกใจเพราะรู้ว่าพวกลูฟี่สามารถผ่านเกาะเอ็กเฮด ผ่านหมอกนั่นมาได้ โร้ดนึกถึงช่วงเวลาที่ ฮัจรูดิน กัปตันเรือของเขาตัดสินใจจะเป็นพันธมิตรกับพวกหมวกฟาง โร้ดบ่นกับตัวเองว่าเอาจริงเขาก็ไม่เคยมีความสุขเลย ตั้งแต่ที่ไอ้โง่ฮัจรูดินเป็นพวกกับไอ้หมวกฟาง มันทำให้เขาต้องคอยฟังคำสั่งของลูฟี่ โร้ดยังบ่นต่อว่าเขาภูมิใจที่ได้เป็นนักรบยักษ์แห่งกลุ่มโจรสลัด แต่ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองต้องมาอยู่ใต้พวกหมวกฟาง พวกเขาเป็นถึงนักรบเเห่งเอลบัฟผู้ยิ่งใหญ่ แต่มาจนตรอกยอมจำนนต่อมนุษย์ที่อ่อนแอตัวกระจิ๊ด ทำให้เขาดูไม่มีศักดิ์ศรี
โร้ดหยิบลูฟี่กับนามิขึ้นมาบนฝ่ามือ โร้ดในตอนนี้เริ่มชอบนามิเมื่อเห็นรูปร่างของเธอ โร้ดพูดกับตัวเองด้วยความโรคจิตว่า "ดูร่างกายเล็ก ๆ พวกนี้สิ ผู้หญิงคนนี้อาจจะเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดในชีวิตข้าก็ได้นะ" ในตอนนั้นนามิและคนอื่น ๆ ก็จะตื่นขึ้น แต่ก็โดนก๊าซนอนหลับของโร้ดทำให้หลับต่อ กลับมาปัจจุบัน โร้ดตะโกนคุยกับพวกหมวกฟางบอกว่า "ฉันทนไม่ได้ที่จะอยู่ใต้แกมาตลอดลูฟี่ และตอนนี้ฉันจะอยู่เหนือแกบ้างลูฟี่ !!" จังหวะนั้นนามิก็เตรียมการกับ ซุส เพื่อสร้างเมฆฝนขนาดใหญ่ขึ้นมา และโจมตีด้วยสายฟ้าใส่โร้ดอย่างรุนแรง ในตอนนั้นชาวเมืองตกใจที่เทพตะวันโดนโจมตี
ในขณะเดียวกันทางลูฟี่ก็ทำลายกำแพงลงได้ด้วยหมัดเกียร์ 4 ลูฟี่ตะโกนออกมาว่า "น่าเศร้าจังนะที่ต้องจากกันเร็วแบบนี้อาณาจักรเลโก้" โซโล "ในที่สุดก็ออกมาได้สักที" ซันจิ "สมน้ำหน้าไอ้ยักษ์วิตถาร" อุซป "ข้างนอกนั่นได้โปรดเป็นเอลบัฟทีเถอะ" ในภาพสุดท้ายเราจะเห็นใบหน้ายิ้มแย้มของลูฟี่เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่หลังกำแพง
ยิ่งอ่านยิ่งสนุกจนเราอยากรู้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปเลยทีเดียว ข้างนอกจะเป็นอาณาจักรเอลบัฟที่เหล่าหมวกฟาง (โดยเฉพาะอูซป) ตามหารึเปล่า เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปก็รอติดตามได้เพราะอาทิตย์หน้าไม่มีงด (ดีใจ) ส่วนใครที่อ่านตรงนี้จบก็รออ่านแบบเห็นภาพแบบภาษาไทยได้ที่เว็บไซต์ MANGA Plus ได้เลย แบบอ่านสปอยล์ตรงนี้ก่อน พอตัวเต็มมาก็ไปอ่านต่อได้ (จะได้ไม่ถูกคนอื่นมาสปอยล์) แล้วพบกันใหม่ตอนหน้า