เมื่อพูดถึงหนังไทยกับเรื่องผีมันเป็นสิ่งคู่กันแบบเลี่ยงไม่ได้ เพราะไม่ว่าคุณจะทำหนังผีน่ากลัว ผีตลก ผีหักมุม ผีไม่ใช่ผี หรือผีน้อยน่ารัก มันก็ขายได้ขายดีในบ้านเรา เพราะเมื่อดูจากสถิติรายได้หนังไทยที่ทำเงินสูงสุดในบ้านเราอันดับต้น ๆ ก็เป็นหนังผีกวาดไปเกือบหมด จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะได้เห็นหนังผีออกมาเรื่อย ๆ และหนึ่งในหนังผีที่ทำออกมาได้ดีน่ารักดูแล้วชวนจิกหมอน ให้อารมณ์เหมือนดูภาพยนตร์ โปเยโปโลเย ฉบับหนังไทย ที่เกี่ยวกับความรักคนกับผี ภาพยนตร์เรื่อง อนงค์ ก็เป็นหนึ่งในหนังผีที่ชวนคนดูจิกหมอนได้เป็นอย่างดี วันนี้เรามาดูกันว่าภาพยนตร์เรื่องอนงค์ จะสนุกเหมือนอย่างที่ใคร ๆ พูดไหมมาดูไปพร้อมกันเลย
เริ่มจากเนื้อเรื่องกันก่อน เรื่องราวของภาพยนตร์ อนงค์ จะกล่าวถึง โจ ชายหนุ่มนักแคสเกมธรรมดา ๆ ที่กำลังจะได้รับมรดกจากคุณปู่สุดที่รัก แต่แล้วคุณปู่ก็เสียชีวิตก่อนให้มรดก ทางลูกพี่ลูกน้องเลยยกบ้านที่ตัวเองได้จากมรดกให้โจเป็นการปลอบใจ แต่บ้านที่ว่านี้เป็นบ้านร้างกลางทุ่งที่ไม่มีคนอยู่ พอโจมาที่บ้านเข้ามาในบ้านก็ได้รับการต้อนรับจาก ผีหัวขาดทองก้อน ผีไส้ไหลทองย้อย และผีคอบิดอนงค์ มาหลอก (อย่าเรียกหลอกเขาเรียกมาตายให้ดู) เพราะทุก ๆ เที่ยงคืนทั้งสามคนจะต้องตายซ้ำ ๆ วนเสียนแบบนี้มาตลอด 80 ปี โจที่โดนหลอกก็พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสเปิดบ้านผีสิง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปมันเกี่ยวกับโปเยโปโลเยตรงไหนไปดูกันได้ (แต่อ่านรีวิวนี้ให้จบก่อน)
ในส่วนของเนื่อเรื่องถ้าคุณดูหนังผีมาเยอะคุณจะทราบดีว่าในภาพยนตร์ 1 เรื่องจะมีแกนหลักอยู่ เพื่อให้เรื่องดำเนินไปเรื่อย ๆ โดยมีแกนที่ว่านั้นเป็นจุดให้เรื่องเดินไป แต่กับเรื่องอนงค์มันกลับต่างออกไป เพราะตอนแรกแกนหลักของเรื่องคือการหาเงินมาใช้หนี้ของโจที่กู้มา เพราะคิดว่าตัวเองจะต้องขายบ้านร้างนั้นได้ จนถูกเฮียหมาใจดีมาตามทวงหนี้ที่น่าจะเป็นตัวโกงประจำเรื่อง และเป็นแกนที่จะใช้ไปจนจบ แต่พอผ่านมาครึ่งเรื่องโจก็ใช้หนี้เสร็จแล้วบทเฮียหมากจบลงตรงนั้น และแกนหลักก็เปลี่ยนมาเป็นแกนของความรักระหว่าง โจ กับ อนงค์ แทน ซึ่งเราคนดูต่างก็รู้ดีว่าคนกับผีมันอยู่ด้วยกันไม่ได้ แล้วแบบนี้มันจะเป็นอย่างไรต่อไป อันนี้ละคือความดีงามของเรื่องที่เปลี่ยนแกนหลัก มาเป็นประเด็นที่ทำให้คนดูและตัวละครต่างคิดกันว่า เรื่องราวมันจะเป็นนอย่างไรต่อไป
มาในส่วนของแกนหลักที่สองที่เป็นเรื่องของความรัก คราวนี้เราจะได้เห็นการเดินทางของโจและอนงค์ ที่ต้องหาทางอยู่ด้วยกันในแบบคนกับผี ที่ดูแล้วก็แอบฟินจิกหมอนยิ้มตามตอนที่สองคนอยู่ด้วยกัน ด้วยความหน้ามึนของโจกับความน่ารักของอนงค์ แทนที่มันจะขัด ๆ แต่กลับไปกันได้อย่างลงตัว และพอถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของเรื่อง เราคนดูกับโจต่างก็คิดไปในทางเดียวกันว่าเรื่องราวจะจบลงอย่างไร และสองคนนี้จะรักกันได้ถึงขั้นไหน ซึ่งเรื่องนี้มีคำตอบและเรียกว่าจบได้ดีคนดูโอเคพอใจเลยทีเดียว
คราวนี้มาดูนักแสดงกันบ้าง ที่บอกเลยว่าพระนางคู่นี้ดูเข้ากันจริง ๆ โดยเฉพาะ อนงค์ ที่ดูน่ารักสดใสจนหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้าเจอผีน่ารัก ๆ แบบนี้มาหลอกยังไงก็ไม่กลัว แต่นั่นคือร่างปกติของนาง เพราะตอนที่น้องแกแปลงร่างเป็นผีก็แอบน่ากลัวเหมือนกัน แต่ยังไงความน่ารักของอนงค์ก็เอาชนะทุกอย่าง จนเรียกว่าเป็นจุดขายของเรื่องเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะตอนที่อนงค์ยิ้มมันคือรอยยิ้มที่สดใสซึ่งหนุ่ม ๆ หลายคนต่างก็อยากได้รอยยิ้มแบบนี้จากคนที่เรารัก จนรู้สึกอิจฉาโจกันเลยทีเดียว
มาดูที่ข้อเสียกันบ้าง นั่นคือความสมจริงที่ถูกตัดทิ้งแบบไม่มีชิ้นดี ผีที่มาหลอกมาคุยกับพระเอกมาเป็นผีในบ้านผีสิง ดูยังไงมันก็แฟนซี๊แฟนตาซีเกินจริง แถมมันไม่มีตัวร้ายไม่มีแกนที่น่าสนใจ นอกจากแค่เราสงสัยว่าพระนางจะอยู่ด้วยกันได้อย่างไรเท่านั้น ที่ถ้าคนดูไม่อินไม่ชอบแนวนี้ก็มีทางเทกลางทางได้เลย เพราะกว่าที่เราจะรู้บทสรุปที่ว่า เราต้องทนดูความรักน้ำตาลขึ้นจอกันอยู่นานเป็นชั่วโมงกว่าจะเข้าสู่เนื้อหาหลัก อีกอย่างที่ไม่ค่อยโอเคคือการพูดของเหล่าผี ที่รู้ว่าเธอเป็นคนยุคเก่าเมื่ 80 ปีก่อน แต่สำเนียงการพูดไม่นับผีหัวขาดทองก้อนที่พูดได้สมยุค ผีสาวสองคนกลับพูดด้วยสำเนียงคนรู้ใหม่มันเลยแอบดูขัด ๆ อีกเรื่องคือความน่ารักแบบน่ารักเกิ๊นของอนงค์ จนบางทีเราก็ลืมไปว่านั่นผีนะเว้ย แต่ผีน่ารักแบบนี้ยอมให้หลอกทุกวันเลยจ้า
สรุปโดยรวม ภาพยนตร์ อนงค์ ก็ทำออกมาได้ดีในแนวหนังผีที่เน้นความรักตลกซึ่งกินใจ ตัวเรื่องไปเรื่อย ๆ ความรักของคนกับผีที่ชวนให้คนดูฟินและอยากมีแบบนี้บ้าง แม้เนื้อหาบางส่วนมันจะดูโอเว่อร์เกินไปหน่อย แต่รวม ๆ ก็ดูสนุกอมยิ้มไปกับความน่ารักของอนงค์ที่ขโมยหัวใจหนุ่ม ๆ ที่ดูเรื่องนี้ ในส่วนของคะแนนของให้ 7.8 เต็ม 10 ให้ความน่ารักของอนค์ 5 เนื้อเรื่องภาพผีตอนองค์หลอกน่ากลัวชอบ ส่วนที่หักก็อย่างที่บอกไป มันไม่ได้ดีแบบว๊าวดีงามแต่มันคือดูสนุกเพลิน ๆ ยิ่งนั่งดูกับแฟนจะยิ่งอินบอกเลย แล้วคุณจะรู้ว่ารักแท้มันมีอยู่จริง และความรักไม่ใช่แค่เรื่องเซ็กส์อย่างที่หลายคนคิด แต่มันคือความสุขใจที่ได้อยู่กับคนที่เรารักเท่านั้นก็พอ นั่นคือสิ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องการบอก