เมื่อพูดถึงแอนิเมชั่นไทย (เรียกว่าอนิเมะแล้วกันเป็นกันเองดี) เราก็มักจะคิดถึงเรื่องราวในวรรณคดีต่าง ๆ ที่ถูกเอามาสร้างเป็นอนิเมะให้เราได้ดู ตั้งแต่ สุดสาคร เมื่อปี 2522 เรื่อยมาจนถึงตอนนี้ก็มีแอนิเมชั่นทำการ์ตูนแนวกราฟิก และแบบอนิเมะ 2D ออกมามากมาย ที่ล้วนแล้วแต่ใส่ความเป็นไทยแบบจ๋า ๆ จัด ๆ ชนิดที่เรียกว่าคนไทยด้วยกันดูยังแอบบ่นว่า ไม่ต้องใส่ความเป็นไทยกู้ชาติปกป้องประเทศหรือเอาวรรณคดีมาสร้างก็ได้ แม้บางเรื่องจะฉีกออกไปเป็นแนวอนาคตแต่ก็ยังใส่ความเป็นไทยจ๋าอยู่ดี จนหลายคนบอกว่าคราวนี้ขอแบบอนิเมะ 2D ที่ไม่ต้องไทยจ๋าบ้าง จนล่าสุดก็มีอนิเมะเรื่อง Howl From Beyond อนิเมะสัญชาติไทยจะฉายในโรงภาพยนตร์ โดยมีการเปิดตัวอย่างแรกให้เราได้ดูเรียบร้อย
ในส่วนของเนื้อเรื่อง Howl From Beyond จะกล่าวถึงโลกในอนาคตที่มนุษย์และแวมไพร์แบ่งดินแดนกันอย่างชัดเจน แต่เมื่อแวมไพร์ไม่สามารถเพิ่มจำนวนประชากรได้เหมือนมนุษย์ พวกเขาจึงจัด วันล่า ขึ้นทุกปีเพื่อจับมนุษย์มาเสริมทัพและลดจำนวนศัตรู โดยในปีนี้ความหวังของมนุษยชาติอยู่ในมือของแวมไพร์ฮันเตอร์จากทั่วทุกมุมโลกที่มารวมตัวกัน เพื่อหวังปิดฉากสงครามเลือดอันยาวนานนี้ การต่อสู้ครั้งสุดท้ายกำลังจะเริ่มต้นขึ้น
ในส่วนของเนื้อเรื่องค่อนข้างน่าสนใจมาก ๆ และพอดูใจตัวอย่าง เราจะได้เห็นกลุ่มหนุ่มสาวที่ต่อสู้กับแวมไพร์ ที่เดาว่าฝั่งแวมไพร์น่าจะเป็นพวกมีพลังพิเศษ ส่วนฝั่งมนุษย์ก็น่าจะมีอาวุธหรือไพ่ตายบางอย่างในการต่อกรกับแวมไพร์ ซึ่งเท่าที่ดูในตัวอย่างตัวละครภาพที่แสดงออกมาก็ถือว่าทำออกมาได้ดี ที่เหลือก็แค่เนื้อเรื่องแล้วว่าจะทำออกมาได้ดีขนาดไหน เพราะหัวใจหลักของอนิเมะก็คือเนื้อเรื่อง ที่ต่อให้ภาพสวยกราฟิกงามขนาดไหนถ้าเนื้อเรื่องแย่ก็จบ คงต้องมารอดูในตัวอย่างต่อไปว่าเราจะได้เห็นอะไรเพิ่มมาจากนี้บ้าง
ในส่วนของทีมสร้างอนิเมะก็จากสตูดิโอไทยอย่าง ทีละเฟรม สตูดิโอ และ AKAMU และในปี 2025 เราจะได้ดูอนิเมะที่เป็น 2D ของสตูดิโอ ทีละเฟรม สตูดิโอ อีกเรื่องนั่นคือ SYNCHRONIZE โดยอนิเมะไทยทั้งสองเรื่องนี้ดูแลการสร้างโดยผู้สร้างภาพยนตร์ ขุนพันธ์ และ Bangkok Breaking Heaven And Hell อย่างคุณ โขม ก้องเกียรติ โขมศิริ ซึ่งตัวอนิเมะ SYNCHRONIZE ยังไม่มีภาพหรือข้อมูลใด ๆ ออกมา แต่ก็นับว่าเป็นเรื่องดีที่เราจะได้เห็นอนิเมะไทยสร้างออกมาติด ๆ กันพร้อมฉายในโรงภาพยนตร์
จากข้อมูลบอกว่าอนิเมะ Howl From Beyond จะฉายในปี 2025 ในโรงภาพยนตร์ คงต้องมารอลุ้นกันว่าอนิเมะไทยจะสามารถเอาตัวรอดในบ้านเราได้ไหม เพราะอย่าลืมว่าก่อนหน้านี้แอนิเมชั่นไทยถ้าไม่นับ ก้านกล้วย ที่พอจะอยู่ได้นอกนั้นเรียกว่าเจ๊งกันหมด โดยเฉพาะอนิเมะ 2D ที่ตายสนิททั้งรายได้และคนรู้จัก แต่ก็ยังมีคนที่กล้าลองกล้าทำ เราในฐานะผู้ชมก็พร้อมสนับสนุนและช่วยบอกคนอื่น ๆ ให้รับรู้ว่ายังมีอนิเมะแบบไทย ๆ ให้เราได้ดู ที่ถ้ามีความคืบหน้าเราจะเอามารายงายให้ทราบแน่นอน