ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาอยากให้คุณผู้อ่านที่อยู่วงการเกม โดยเฉพาะวงการเกมคอนโซลช่วยยืนเงียบ ๆ และเงี่ยหูฟังเสียงรอบ ๆ ตัวคุณตอนตอนนี้ ได้ยินกันไหมมันเป็นเสียงแว่ว ๆ ที่ลอยมาตามลมเป็นเสียงร้องโหยหวนของเหล่าผู้คนที่เรียกตัวเองว่า พ่อค้าแม่ค้ารีเซล ที่กำลังโอดครวนร้องอย่างทรมานเพราะคิดว่า PS5 Pro ที่ออกมาจะต้องปังคนแห่กันซื้อ จนทาง Sony ผลิตเครื่องออกมาน้อยจนขาดตลาด เลยซื้อเครื่อง PS5 Pro มาเก็งกำไรหวังจะฟันแบบนิ่ม ๆ แบบสมัย PlayStation 5 รุ่นแรกที่ขายได้ขายดี แต่ตอนนี้กลับตรงข้าม จนพ่อค้าแม่ค้ารีเซลหลายคนต้องยอมขาดทุนขายต่ำกว่าต้นทุนราคาขายปกติ เพื่อให้ของที่ซื้อมาตุนออกไปจะได้คืนทุนให้เร็วที่สุด น่าสงสาร (หัวเราะ) เขานะครับ
จากรายงานบอกว่าตอนนี้บรรดานักเก็งกำไรหรือที่เรารู้จักในชื่อพ่อค้าแม่ค้ารีเซล ที่ต้องการหากำไรจาก เครื่องเล่นเกม PS5 Pro ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานนี้ ต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อทำกำไรจากเครื่องเล่นเกมดังกล่าว เพราะคาดหวังว่าเหล่าเกมเมอร์จะต้องสนใจแห่กันไปซื้อเครื่องเกมนี้ตัวนี้อย่างบ้าคลั่ง เหมือนสมัยที่ PlayStation 5 รุ่นแรกออกมา เพราะ PS5 Pro ต่างกับ PlayStation 5 Slim ที่ไม่ใช่แค่เครื่องย่อขนาด แต่มันคือเครื่องรุ่นใหม่ที่ดีกว่าเดิม พอเป็นแบบนั้นเหล่าพ่อค้าแม่ค้ารีเซลต่างก็ลูบมือยิ้มกรุ่มกริ่มสั่ง PS5 Pro มาเก็บไว้เพื่อหวังเก็งกำไร แต่พอเครื่องเกมออกมามันกลับไม่ได้ปังอย่างที่คิด จนกลายเป็นการเก็งกำไรมาเป็นชักเกร็งตาตั้งแทน และเป็นแบบนี้ทั่วโลก
โดยทาง VideoGamesChronicle ได้ไปตามดูอาการของโรคชักเกร็งของเหล่าพ่อค้าแม่ค้ารีเซลตามแหล่งขายสินค้าชั้นนำอย่าง eBay นับเฉพาะใน UK ตอนนี้ก็มีเหล่าพ่อค้าแม่ค้ารีเซลเอาเครื่อง PS5 Pro ที่มีราคาต่ำกว่าราคาขายปลีกในสหราชอาณาจักรที่ขายราว ๆ 700 ปอนด์ (30,922 บาท) แต่พ่อค้าแม่ค้ารีเซลหลายรายขายในราคา 680-700 ปอนด์ (30,922 - 30,038 บาท) ในขณะที่บางเจ้าฉลาดใช้การประมูลแทนการขายเพื่อหวังยอดมากกว่าเดิมนิดหน่อย ก็จบประมูลที่ 510-670 ปอนด์ (22,529 - 29,597 บาท) เรียกว่าหนักกว่าเดิมอีก หรือบางคนโชคดีได้เกินราคาทุนมานิดหน่อย แต่ส่วนมากจะเจ๊งชัยกันเกือบหมด
และดูเหมือนสถานการณ์ชักเกร็งของพ่อค้าแม่ค้ารีเซลก็เกิดขึ้นในญี่ปุ่นเช่นกัน ตามรายงานจาก Otaku Research Institute รายงานว่า PS5 Pro ดูเหมือนจะขายหมดในร้านค้าปลีกส่วนใหญ่ในญี่ปุ่น แต่ร้านค้าต่าง ๆ ก็มีเครื่อง PS5 Pro มาลงตลอดโดยที่ไม่ต้องจองไม่ต้องจับฉลากซื้อแบบสมัยก่อน และเมื่อเราไปสอบถามอาการชักเกร็งในเว็บไซต์ขายต่อของญี่ปุ่นอย่าง Mercari ก็มีรายการขาย PS5 Pro อยู่ที่ 134,800 (30,239 บาท) แต่ราคาเครื่อง PS5 Pro ตามร้านขายอยู่ที่ราคา 119,980 เยน (26,914 บาท)
ซึ่งคนที่ต้องการขายที่นี่ต้องบวกเพิ่มไปอีก 10,000-20,000 เยน (2,243-4,486 บาท) ซึ่งมากกว่าราคาของ PS5 Pro ที่ขายตามร้านในญี่ปุ่น เพราะทาง Mercari จะหักส่วนลด 10% และค่าขนส่งด้วย ทำให้ผู้ขายที่นี่ต้องขายแบบเสมอทุนหรือขายแบบขาดทุนยอมเข้าเนื้อ ซึ่งผู้ขายจำนวนมากใน Mercari ยังขายในราคาต่ำกว่าราคาขายปลีกเพราะไม่มีทางเลือก และพอคนส่วนมากเจอราคาแบบนี้ไปหลายคนเลยเลือกจะเดินไปซื้อตามร้านทั่วไป แทนการเพิ่มเงินกว่า 2,000 บาทแถมต้องรอหลายวันกว่าของจะมาส่งอีก เรียกว่าชักเกร็งกันทั่วหน้าเลยทีเดียว
และถ้าคุณสงสัยว่า PS5 Pro มันขายไม่ดีหรอพวกรีเซลถึงได้ขายไม่ออก ก็คงต้องบอกว่าไม่ใช่เพราะเสียทีเดียว เพราะถ้าเราย้อนกลับไปสมัย PlayStation 5 Slim ตัวนั้นก็ไม่ได้ขาดตลาดเพราะทาง Sony ผลิตเครื่องมาเพียงพอต่อการวางจำหน่าย ไม่เหมือนสมัย PlayStation 5 ตัวแรกที่ปัญหาเรื่องไมโครชิพที่ขาดตลาดบวกกับไวรัสโคหวิด 19 มาซ้ำ เลยทำให้ผลิตเครื่องออกมาได้น้อยไม่เพียงพอต่อความต้องการ มันเลยเป็นช่องทางให้เหล่าพ่อค้ารีเซลได้ใจ และคิดว่ามันจะเป็นแบบเดิมโดยลืมคิดถึงสองปัจจัยที่ว่านี้ไป และเราก็หวังว่าอนาคตจะได้พ่อค้ารีเซลช้ำใจแบบนี้อีกเมื่อ Nintendo Switch 2 ออกมาแล้วมันไม่ขาดตลาด เราคงจะได้เห็นข่าวแบบนี้อีกครั้งแน่นอน เตรียมรออ่านกันได้เลย