ย้อนกลับไปในอดีตสมัยที่เครื่อง PlayStation 1 กับ 2 เป็นผู้นำวงการเกมในคอมโซล ที่แม้แต่ Nintendo ยังสู้ไม่ได้ ซึ่งไม่ว่า Sony จะทำเครื่องรุ่นเล็กรุ่นบางออกมากี่เครื่อง มันก็ดูดีดูเจ๋งถูกอกถูกใจพ่อยกแม่ยกไปหมด จนทาง Sony กระหยิ่มยิ้มย่องได้ใจคิดว่าต่อให้ทางนั้นจะผลิตเครื่องเกมแบบไหน ราคาเท่าไหร่มาขายเหล่าสาวกแฟน ๆ ก็ต้องแห่มาซื้ออย่างแน่นอน จนการมาถึงของ PlayStation 3 ที่ทำเอาแฟน ๆ แม้แต่เหล่าสาวกยังต้องชะงัก เมื่อเห็นราคาของเครื่องเกมตัวนี้ รวมถึงปัญหาต่าง ๆ ที่ตามมาในเครื่องรุ่นอ้วนของ PlayStation 3 นี่ยังไม่นับความยากลำบากของเหล่านักพัฒนาเกมที่ทำเกมบน PlayStation 3 ได้ยากกว่าเครื่องเกมในตลาดตอนนั้นมาก ๆ รวมถึงปัญหาการผลิตที่ล่าช้าเรียกว่าเป็นตราบาปครั้งใหญ่ของ Sony เลยทีเดียว และวันที่ 11 พฤศจิกายน 2006 ก็เป็นวันครบรอบ 18 ปีวันวางจำหน่าย PlayStation 3 เป็นจุดเริ่มต้นของความผิดพลาดนั้น เรามาย้อนอดีตดูเรื่องราวนี้ไปพร้อม ๆ กันเลย
จุดเริ่มต้นของ PlayStation 3 เริ่มพัฒนาในวันที่ 9 มีนาคม 2001 เมื่อ คุตารากิ เคน ซึ่งขณะนั้นเป็นประธานของ Sony Computer Entertainment ได้ประกาศว่า Sony, Toshiba และ IBM จะร่วมมือกันพัฒนาไมโครโพรเซสเซอร์ Cell ตัวใหม่ พร้อมกลุ่มโปรแกรมเมอร์ภายในทีมฮาร์ดแวร์ เพื่อการสร้างเกมรุ่นต่อไปในช่วงต้นปี 2005 และได้ประกาศเปิดตัวผ่านสื่อในเดือนกันยายน 2004 ทาง Sony กล่าวว่า PlayStation 3 จะใช้ Blu-ray และเครื่องคอนโซลยังสามารถเล่น DVD และ CD ได้ด้วย โดยทาง Sony เปิดตัว PlayStation 3 อย่างเป็นทางการต่อสาธารณชนเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2005 ในงาน E3 2005 พร้อมกับต้น คอนโทรลเลอร์ทรงบูมเมอแรงในตำนาน และตัวเครื่อง PlayStation 3 สีเงิน
PlayStation 3 วางจำหน่ายครั้งแรกในญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2006 เวลา 07:00 น. (1 ทุ่ม) ตามข้อมูลของ Media Create บอกว่าเครื่อง PlayStation 3 ขายได้ 81,639 เครื่องภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากเปิดตัวในญี่ปุ่น มีรายงานว่าเครื่องจำนวนมากถูกซื้อโดยนักธุรกิจ ที่จ่ายเงินให้กับชาวจีนเป็นหลัก เพื่อนำไปขายต่อบน eBay (พวกรีเซลถือกำเนิดในช่วงนี้) ส่วนเกมที่ขายดีที่สุดในวันเปิดตัวคือเกม Ridge Racer 7 ที่วางจำหน่ายพร้อมเครื่องในวันนั้น และนั่นคือจุดเริ่มต้นของปัญหาที่ตามมาในอนาคต
เริ่มจากการศึกษาวิจัยในปี 2009 โดยทาง SquareTrade ซึ่งเป็นผู้ให้บริการการรับประกัน พบว่าอัตราขัดข้องของ PlayStation 3 อยู่ที่ 10% และจะเกิดขึ้นราว ๆ 2 ปีหลังจากได้เครื่องไป ในเดือนกันยายน 2009 รายการโทรทัศน์ Watchdog ของ BBC ได้ออกอากาศรายงานการสืบสวนปัญหานี้ โดยเรียกปัญหานี้ว่า "ไฟเหลืองแห่งความตาย" โดยในข่าวบอกว่าในบรรดาคอนโซลที่ประสบปัญหาดังกล่าว พบว่าโดยปกติแล้วปัญหาจะเกิดขึ้นภายใน 18–24 เดือนหลังจากซื้อเครื่องไป ในขณะที่การรับประกันมาตรฐานของ Sony จะครอบคลุมระยะเวลา 1 ปีหลังจากซื้อ และการส่งซ่อมหลังหมดประกันก็เป็นเพียงการยื้อเวลาตายออกไปอีกเล็กน้อยเท่านั้น เพราะไม่นานเครื่องก็จะกลับมาเหลืองอีก
โดยทาง PlayStation 3 ได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับที่ 8 ในรายการ The Top 21 Tech Errors of 2006 ของนิตยสาร PC World ซึ่งถูกวิจารณ์ว่า "มาช้า แพง และไม่เข้ากัน" ส่วนทาง GamesRadar จัดอันดับ PlayStation 3 ให้เป็นรายการอันดับหนึ่งในบทความเกี่ยวกับ "ภัยพิบัติด้านประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับเกม" โดยถามว่า Sony เชิงประชดว่า "ทาง Sony เปลี่ยนระบบเกมที่แฟน ๆ รอคอยมากที่สุด ให้กลายเป็นวัตถุที่ชาวอินเทอร์เน็ตทั้งโลกประณามภายในเวลาเพียงปีเดียว และยังมีศักยภาพที่ยังไม่ได้ใช้อีกมากมาย"
ในส่วนของทางนักพัฒนาเกมพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เครื่องนี้เขียนโปรแกรมได้ยาก ในปี 2007 ทางพ่อใหญ่ เกบ นิวเวลล์ ผู้ไม่รู้จักเลข 3 จาก Valve กล่าวว่า "PlayStation 3 เป็นหายนะโดยสิ้นเชิงในหลาย ๆ ด้าน ผมคิดว่า Sony ลืมสิ่งที่ลูกค้าและสิ่งที่นักพัฒนาต้องการไป ผมคิดว่าถึงตอนนี้ (หมายถึงตอนนั้น) พวกเขาควรยกเลิกพัฒนาเครื่องเกมตัวนี้และทำใหม่ แค่บอกว่าแฟน ๆ ว่า นี่เป็นหายนะที่เลวร้ายมากเราเสียใจ เราจะหยุดขายเครื่องนี้และหยุดพยายามโน้มน้าวผู้คนให้พัฒนาเครื่องนี้" (แต่แอบแปลกใจแกรู้จักเลข 3 ได้ไง)
แต่ถึงจะด่าแบบนั้นไป ไม่นานพ่อใหญ่เกบ นิวเวลล์คนดีคนเดิม เพิ่มเติมคือเขาไปปรากฏตัวต่อหน้าสื่อ เพื่อปฏิเสธคำกล่าวก่อนหน้านี้ (เรื่องด่าเครื่อง PlayStation 3 ข้างต้น) และไม่นานหลังจากนั้นพ่อใหญ่เราก็ไปปรากฏตัวในงาน E3 2010 บนเวทีของ Sony เพื่อโปรโมทเกม Portal 2 เวอร์ชัน PlayStation 3 โดยเขาอ้างถึงการเคลื่อนไหวของ Sony ที่ต้องการทำให้ระบบเป็นมิตรต่อนักพัฒนาซอฟต์แวร์มากขึ้น (หรา) และเพื่อประกาศว่า Valve จะพัฒนา Portal 2 สำหรับระบบนี้ เขายังอ้างอีกว่าการรวม Steamworks (ระบบของ Valve ที่จะอัปเดตซอฟต์แวร์ของตนเองโดยอัตโนมัติ) จะช่วยให้ Portal 2 เวอร์ชัน PlayStation 3 เป็นเวอร์ชันคอนโซลที่ดีที่สุดในตลาด วงการธุระกิจก็แบบนี้ละเนอะ เบ้ปากมองบนแป๊บ
แน่นอนว่าทาง Sony ไม่นิ่งนอนใจเรื่องปัญหาดังกล่าว จึงออกรุ่น PlayStation 3 Slim และ Super Slim ออกมาเพื่อแก้ปัญหาไฟเหลืองมรณะ ขณะที่ทาง XBox ก็มีปัญหาไฟแดงมรณะ จนปัญหาเหล่านี้หมดไปพร้อมกะยการพัฒนาสิ่งต่าง ๆ ลงไปบน PlayStation 3 ที่แม้จะเป็นเครื่องเกมที่ผิดพลาดในหลาย ๆ ด้าน แต่มันก็สั่งสอนตบหน้า Sony ให้ตื่นว่าถ้ายังคงหยิ่งทรนงตนอยู่แบบนี้จะพ่ายแพ้ได้ เพราะในสงครามนั้น Nintendo Wii ชนะในสงครามเครื่องเกมคอนโซลไป ทาง Sony เลยคิดใหม่ทำใหม่ใน PlayStation 4 และทิ้งให้ PlayStation 3 เป็นเรียนราคาแพงอีกหนึ่งเรื่องที่ Sony ต้องจดจำว่าลูกค้าต้องมาก่อน และถ้าพลาดคู่แข่งอีก 2 เจ้าเขารอเสียบอยู่