มาถึงตอนที่ 7 ของอนิเมะที่หลายคนต่างรอคอยที่พอได้ดู Dragon Ball Daima ตั้งแต่ตอนที่ 1 ถึงตอนที่ 7 นี้ถ้าไม่นับข้อมูลยิบย่อยที่ค่อย ๆ ปล่อยออกมา ในโลกปีศาจให้เรารับรู้หลายต่อหลายเรื่อง เนื้อเรื่องหลักที่เกี่ยวกับการต่อสู้และหาดราก้อนบอลในโลกปีศาจกลับไม่คืบหน้าไปไหน เหมือนคนคิดเรื่องพยายามเตะถ่วงเนื้อเรื่องให้ยืดออกไปทั้งที่มันไม่ค่อยมีอะไร อย่างใน Dragon Ball Daima ตอนที่ 7 ที่พยายามยืดในช่วงต้นตอนออกไป และพอท้ายตอนที่จะไปท้าสู้กับ ทามะกามิ ผู้คุมดราก้อนบอลลูกที่ 3 ก็จบตอนพอดี แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นใน Dragon Ball Daima ตอนที่ 7 นี้ก็มีข้อมูลน่าสนใจหลายอย่างอยู่ เรามาดูกันว่ามีข้อมูลอะไรที่น่าสนใจบ้างมาดูไปพร้อม ๆ กันเลย
เริ่มต้นตอนแรกที่หลายคนต่างแอบผิดหวังกับ บลูม่า ตัวละครที่ฉลาดที่สุดในเรื่องดราก้อนบอล ที่ตอนแรกเธอก็บอกว่าสามารถทำยานที่บินไปโลกปีศาจได้เพียงแค่ดูส่วนประกอบยานไม่กี่นาที แต่พอทำจริง ๆ มันกลับบินไม่ได้ เพราะขาดแร่ที่มีเฉพาะโลกปีศาจอยู่ ซึ่งคิดว่าบลูม่าน่าจะเอาอะไรมาแทนแล้วแต่ไม่ได้ผล และการไปหาแร่อื่น ๆ มาแทนก็ต้องทดลองกันอีกหลายวัน และต่อให้บินได้ทางนั้นก็ไม่มีรหัสผ่านทางไปโลกปีศาจผ่านปลาทองยักษ์อยู่ดี และในตอนนี้เราจะได้เห็นความเป็นพ่อบ้านใจกล้าของ เบจิต้า ที่แม้จะถูกเมียบ่นใส่ทางนั้นก็ไม่หือไม่อือใส่เมีย และพอ ไฮบีส ที่จะไปร้านเสริมสวยขับยานมารับ สิ่งแรกที่เบจิต้าทำคือมายืนบังเมียตัวเอง ที่บอกให้รู้ว่าเบจิต้ารักบลูม่าขนาดไหน
ตัดมาที่โกคูของเรากับคณะ ที่โกคูของเราไม่ทำอะไรนอกจากกินอีกแล้ว และถึงจะมีขนมพิเศษที่กิน 1 ลูกแล้วอิ่มไป 2 มื้อโกคูเรากินไป 2 ลูกแต่สุดท้ายก็หิวอีกอยู่ดี (เอ็งจะกินไปไหนนักหนา) แถมยังถูก แพนซี่ แซวว่านายนิสัยเป็นเด็กแบบนี้เลี้ยงลูกเต้าโตมาได้ไง โกคูก็บอกว่าไม่ได้เลี้ยงซึ่งก็ถูก เพราะ โกฮัง ก็ได้ พิโกโร่ เลี้ยงด้วยลำแข้งในตอนเด็ก ส่วน โกเทียน (จะเผลอเขียน หงอเทียน ไปและ เพราะชินกับการแปลยุคเก่า) นั้นก็ได้ จีจี้ แม่เลี้ยงเดี่ยวจนโต ต่างกับเบจิต้าที่ดูแลเลี้ยงดูลูกสองคนอย่างดี (ตอนนี้ยังมี ทรั้งค์ คนเดียวอีกคนมาตอนภาค Super)
ข้อมูลต่อมาก็คือปลอกคอที่แพนซี่สวมอยู่นั้น คือสิ่งที่ปีศาจในดินแดนที่ 3 ทุกคนต้องสวมเอาไว้ตั้งแต่เกิด เพราะที่นี่มีราชาปีศาจที่คิดกบฏอยู่มาก จึงต้องจับทุกคนมาสวมปลอกคอตั้งแต่เกิด ซึ่งสิ่งนี้มันเกิดขึ้นในสมัยที่ราชาปีศาจ ดาบูร่า (คนที่ถูก จอมมารบู จับทำขนมกินไป) เป็นคนคิดเรื่องนี้ ซึ่งปลอกคอนี้จะใหญ่ตามร่างกายคนสวม ซึ่งมันเป็นเหมือนเครื่องติดตามตัวและไม่สามารถอดหรือทำลายได้ เพราะมันคือแร่คัชชิ่งที่มีเฉพาะบนดาวไคชิน หรือดินแดนเทพที่โกฮังไปดึงดาบแซดในช่วงสู้กับจอมมารบูนั่นละ และชาวกลินด์ที่เอาแร่นี้มาก็คือพี่สาวของ ท่านไคโอชิน นั่นเอง แต่มันก็สามารถทำลายได้ด้วยการพูดรหัสคำว่า พัมพะกาพาน
นอกจากนี้เรายังรู้อีกว่าชื่อจริงของท่านไคโอชินนั้นมีชื่อว่า ชิน ส่วนชื่อในโลกปีศาจนั้นมีชื่อว่า นาฮาเระ คือเราคนดูต้องรู้เรื่องนี้ใช่ไหมครับอาจารย์ (จุดธูปถามอาจารย์แกแป๊บ) จากนั้นตัวเรื่องก็บอกว่ายานลำใหม่ที่ได้จะพาเราไปหาทามะกามิที่เฝ้าดราก้อนบอลลูกที่ 3 ได้เร็วขึ้น คนดูอย่างเราก็คิดว่าเอาแล้วอีกครึ่งตอนเราอาจจะได้เห็นการต่อสู้ระหว่างโกคูกับทามะกามิกันนิดหน่อยก็ยังดี แต่พอมาถึงหมู่บ้านที่ทามะกามิอยู่ โกคูบอกว่าหิวอีกแล้ว (เอ็งเพิ่งกินขนมที่เท่ากับอาหาร 4 มื้อจนพุงป่องไปแล้วไม่ใช่หรอ) แถมพอกินเสร็จขอไปอึก่อน ตอนนั้นคนดูทุกคนคิดเป็นทางเดียวกันว่าเอ็งจะยืดไปไหน จนสุดท้ายก็ไม่ได้สู้กับทามะกามิอย่างที่หลายคนคิด
แต่เราก็รู้ถึงความเก่งของทามะกามิว่า พี่แกโหดจัดขนาดกำจัดคนที่มาท้าสู้ได้ในไม่กี่วินาที แถมโกคูเราก็อิดออดไม่อยากสู้กับทามะกามิที่มีค้อนอันโต เพราะปกติโกคูเราจะสู้แบบมือเปล่านี่เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่เราจะได้เห็นโกคูสู้กับศัตรูที่ใช้อาวุธ ซึ่งตรงนี้คนดูอย่างเราก็รู้เลยว่า ทางทีมสร้างอนิเมะจงใจถ่วงเวลาทุกทางเท่าที่ทำได้ เพื่อจะยืดการต่อสู้กับทามะกามิให้ไปอยู่ในตอนต่อไปแทน โดยเราก็หวังว่าในตอนที่ 8 ของ Dragon Ball Daima เราจะได้เห็นการต่อสู้ระหว่างโกคูกับทามะทามะกามิผู้เฝ้าดราก้อนบอล 3 ดาวเสียที เพราะตอนนี้คนดูจะหลับแล้ว