ปิดฉากไปอย่างสวยงามสำหรับซีรีส์ ARCANE Season 2 ที่องค์ 3 ได้สตรีมมิ่งไปแล้วเป็นที่เรียบร้อยบน Netflix คลายทุกปมที่ขมวดเอาไว้ และ ปิดฉากความขัดแย้งของ 2 เมือง 1 กองทัพ Piltove, Zaun และ Noxus หากคิดว่าทีมงาน Riot Games และทีมสร้างอนิม Fortiche เขาปล่อยของเด็ด ๆ ไปเยอะแล้ว ใน EP 9 เป็นการระเบิดความยอดเยี่ยมทุกอย่างอัดเข้าไปอย่างสะใจ ทั้งงานภาพ งานเพลง อนิเมชัน ไปจนถึงการสื่ออารมณ์ ชนิดที่ว่าไม่ปล่อยให้แฟน ๆ และคนดูได้พักหายใจกันเลยทีเดียว!
*หลังจากนี้จะมีการพูดถึงเนื้อหา และ ภาพ ซึ่งเป็นการสปอล์ย*
แน่นอนว่าเรื่องงานภาพงานเพลงไม่มีอะไรต้องติเตียน ตลอดทั้ง 3 ตอนทุกฉากทุกซีนสวยงามสมกับที่เฝ้ารอคอยปล่อยออกมาทีละองค์ในแต่ละสัปดาห์ ตอนที่ผ่าน ๆ มางานภาพสวยขนาดไหน 3 ตอนสุดท้ายทีมงานจัดเต็มยิ่งกว่าที่ผ่านมา อนิเมชันต่าง ๆ ยังคงประทับใจเหมือนเดิม สำหรับเนื้อเรื่องทุกอย่างดูจะเร่งรีบเพราะต้องจบให้ได้แล้ว อาจจะมีจุดที่ชวนให้รู้สึกขัด ๆ เล็กน้อย กับปมเนื้อเรื่องบางอย่างที่ยังไม่เคลียร์ทั้งหมด แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกประทับใจดี ๆ นั้นลดลงเลย
และเชื่อว่าต่อไป Riot Games จะเอาปมที่ยังเหลืออยู่ ไปต่อยอดเรื่องราวได้อีก อย่างเรื่องของ Black Rose, เมือง Noxus และอื่น ๆ
เรียกได้ว่าเป็นอนิเมชันดัดแปลงจากเกมที่กลมกล่อม ยอดเยี่ยม และเต็มอิ่มสุด ๆ มันไปสุดในทุก ๆ ด้าน สามารถเข้าถึงทั้งแฟนเกมเดนตาย คนที่เล่นเกมทั่ว ๆ ไป ไปจนถึงคนทั่วไปที่มาดูตามคำบอกเล่า / กระแส ก็สามารถเข้าถึง และเข้าใจโดยที่ไม่ต่องเข้าไปเล่นเกมมาก่อน
องค์ 3 เริ่มต้นที่ Ekko และ Heimerdinger ที่หายไปตั้งแต่องค์แรก ค้นพบว่าทั้งสองได้ถูกส่งมาอยู่อีกช่วงเวลาหนึ่ง ที่เป็นเหมือนโลกอีกไทม์ไลน์ เป็นมัลติเวิร์ส ที่เมือง Piltover และ Zaun ไม่มีความขัดแย้ง Powder ไม่ได้เป็น Jinx ตัวละครหลาย ๆ ตัวยังมีชีวิตอยู่ (แต่ Vi ตาย) EP นี้ทีมงานเล่นกับเรื่องราวของเส้นเวลาได้ดีมาก เราได้เห็นว่าโลกรูนเทอร์ร่าเองก็มีเส้นเวลาที่หลากหลาย ซึ่งแต่ละมิตินั้น หลาย ๆ ตัวละครก็อาจมีความสุขมากกว่าที่เราเคยพบเจอ และเกิดเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไป
อีกทั้งเรื่องความสัมพันธ์ของ Ekko กับ Powder (เชื่อว่าแฟน ๆ น่าจะต่อเรือกันลำใหญ่มาก) ในเส้นเวลานี้ก็จัดว่าไปได้สวยอย่างมาก เชื่อว่าในเส้นเนื้อเรื่องหลัก หากไม่เกิดเหตุการณ์ขึ้นไม่แน่ว่าทั้งสองอาจจะได้มีความสัมพันธ์ที่มีความสุขเหมือนกันก็ได้
และการเฉลยถึงที่มาของเครื่อง "Z-Drive" ที่สร้างพลังย้อนกลับ 4 วิที่เป็นสกิลเอกลักษณ์ของเอคโค่ใน League of Legends ก็จัดว่าว้าวมา เพราะมันแนบเนียนไปกับเนื้อเรื่องสุด ๆ แต่ส่วนของไฮเมอร์ดิงเจอร์ที่ตัดสินเลือกที่จะอยู่ในเส้นเวลานั้นไม่ย้อนกลับไปยังเส้นเวลาเดิม แล้วตัดบทจบไปเลยหลังจากที่เอคโค่กลับไปได้ก็ดูจะห้วนไปหน่อย
ส่วน Jayce ที่หลุดไปในอีกช่วงเวลา ได้ไปเห็นเมืองพิลต์โทเวอร์ในอนาคตที่ล่มสลายเพราะเฮ็กซ์เกต นั่นคือเหตุผลที่เจซตัดสินใจตัดขาดกับ Victor และสังหารเขาในตอนจบขององค์ที่ 2 เพื่อหยุดยั้งการล่มสลาย หยุดยั้งวิคเตอร์ที่เชื่อว่า จะนำพาสันติสุขมาสู่โลก จากตอนจบองค์ 2 ที่ทำเอาแฟน ๆ ทั่วโลกสาปส่งและเกลียด ต้องเบรคหัวทิ่มหันกลับมาขอโทษตัวละครนี้กันยกใหญ่ เพราะเจซนี่แหละคือกุญแจสำคัญที่แท้ทรูในการจบเรื่องราวความวุ่นวายใน ARCANE ทั้งหมด
เจซเป็นเหมือนตัวละครเอกที่ถูกวางเอาไว้ให้เป็นผู้ช่วยโลกตั้งแต่แรก ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่เจซยังเด็ก เขาเคยได้รับความช่วยเหลือจากชายปริศนาที่พาวาร์ป (ตอนนั้นทุกคนคิดว่าเป็น Ryze) แล้วมอบหินรูนแก่เขา คนนั้นก็คือ วิคเตอร์ในอนาคตที่ได้สร้างหายนะแก่พิลต์โทเวอร์ไปแล้ว เขาได้สำนึกว่าความหวังที่จะช่วยโลกให้สันติและสร้างความสมบูรณ์แบบด้วยเฮ็กซ์เกต จริง ๆ แล้วมันกลับทำลายทุกสิ่งอย่างจนหมดสิ้น
วิคเตอร์จึงพยายามหลายต่อหลายครั้งในการไปยังเส้นเวลาต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือเจซในวัยเด็กแล้วมอบรูนที่สลักอักษรที่แตกต่างกัน เพื่อให้เจซนั้นหาทางหยุดยั้งหายนะที่เขาเป็นคนก่อให้ได้ ซึ่งก็สามารถทำได้สำเร็จในเนื้อเรื่องหลัก แต่น่าเสียดายที่เราไม่ได้เห็นวิคเตอร์แบบในเกม LoL แต่การได้เห็นร่างสุดยอดที่เหมือนพระเจ้าผู้นำสารก็ดูจะทดแทนตรงจุดนี้ได้ (สวยจนน่าจะทำสกินขายได้เลยนะ)
ในช่วงท้าย จากที่เราคิดว่าจะได้เห็นสงครามต่างชนชั้นพิลต์โทเวอร์และซอน กลายเป็น พิลต์โทเวอร์และน็อกซัสแทน เพราะ Ambesssa ต้องการที่จะยึดเมืองซอนตามอุดมการณ์เดิมและต้องการอำนาจทุกอย่างเพื่อความยิ่งใหญ่ ฉากเดินบุกเข้าเมืองพร้อมอาวุธคู่กายของเอมเบสซ่าน่าเกรงขามอย่างมาก สมกับเป็นตัวละคร top lane สุดดุดัน
ส่วน Mel Medarda หลังจากถูก Black Rose ลักพาตัวไปก็ได้รับรู้ถึงความสามารถพลังเวทของตนเอง และได้รับการยอมรับจากแบล็คโรส หลังจากเปิดฉากใช้สกิลก็รู้สึกได้เลยว่า นี่แหละแชมป์เปี้ยนใหม่ตัวต่อไปที่ควรจะเข้าเกม (ถ้าพี่ริโตะทำ) เมลเป็นตัวละครที่น่าสนใจอย่างมากทั้งเรื่องราวความเป็นมา และสกิลความสามารถ น่าเสียดายอีกเช่นกันที่ได้ไทม์ไลน์น้อยและเร่งรีบไปหน่อย
และจะไม่พูดถึงเลยไม่ได้ก็คือ Caithlyn และ Vi ที่ในองค์ 3 นี้แฟนเซอร์วิสจัดหนักจัดเต็มจนแฟน ๆ Violyn (ชื่อคู่ชิปของทั้งสอง) ต้องจิกหมอน ถึงซีนนั้นจะดูมางง ๆ และไม่ค่อยเข้ากับสถานการณ์ แต่เชื่อว่าแฟน ๆ คงไม่ติดใจอะไรและลืมไปชั่วขณะว่าตอนนั้นกำลังเกิดอะไรขึ้น เพราะในที่สุดทั้งสองก็ได้กลับมาคู่กันและปรับความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อย
ส่วนตัวละครเอกของเรื่องอย่าง Jinx ที่องค์นี้ก็ปรับลุคแฟชันใหม่อีกครั้ง (สกินต้องเข้าเกมละนะ) ถึงช่วงหลัง ๆ จะเหมือนโดนลดบทบาทลงไปบ้าง เพราะเนื้อเรื่องมันได้ขยายออกไปกว้างมากกว่าแค่ตัวละคร เธอเหมือนกลับมาเป็น Powder คนเดิมที่น่ารักและชอบช่วยเหลือผู้อื่น ตัดสินใจที่จะยุติวัฎจักรการฆ่าแก้แค้นด้วยการ 'เดินจากไป' ซึ่งก็ถือว่าเธอทำได้สำเร็จ ถึงแม้ว่าฉากจบเธอจะเสียสละอย่างที่สุดเพื่อช่วยเหลือไว และปลดปล่อยแวนเดอร์ในร่าง Warwick อันแสนทรมาน
น่าเสียดายที่ตอนท้ายเราไม่ได้รู้ว่า Jinx ตายจริง ๆ หรือไม่? Jayce กับ Victor ยังมีชีวิตอยู่ไหม? แต่การได้เห็นเมืองพิลต์โทเวอร์และซอนได้ร่วมมือกัน, เรือ Violin แล่นฉิว และ Singed สามารถช่วยลูกสาว Oriana ให้ฟื้นกลับมาได้ ก็น่าจะเพียงพอแล้วกับตอนจบที่จบลงด้วยความสงบสุข
และนี่ก็คือซีรีส์ ARCANE Season 2 ที่จบลงอย่างสวยงาม งานนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า เราจะได้เห็น Riot Games จะหยิบอะไรที่น่าสนใจมาต่อยอดอีก เพราะแค่ของเมือง Piltover และ Zaun นี่ก็สามารถไปต่อได้อีกเยอะแยะมากมายเลยล่ะ!