
หลับ ๆ ตื่น ๆ มาจนถึงตอนที่ 11 กันแล้วกับอนิเมะที่ตอนแรกหลายคนรอคอย แต่ภายหลังกลับบ่นว่ามันไม่สนุกอย่างที่หวัง กับ Dragon Ball Daima ซึ่งในตอนที่ 11 นี้เนื้อเรื่องก็ค่อย ๆ คลายปริศนาหลาย ๆ อย่างที่เราอยากรู้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคนที่สร้างทามากามิทั้ง 3 ตัวนี้ขึ้น ชื่อของ ราชาปีศาจพิโกโร่ คนเก่าที่เราไม่เคยรู้มาก่อน รวมถึงการขอพรดราก้อนบอลในโลกปีศาจก็ต้องใช้ภาษาดาวนาเม็ก เหมือนดราก้อนบอลบนดาวนาเม็กที่ก็ต้องทำแบบนั้น นอกจากนี้ยังมีการพูดถึง จอมมารบู ตัวใหม่ที่คราวนี้ชื่อว่า จอมมารดู (ตัวก่อนชื่อจอมมารคู) ซึ่งดูท่าก็น่าจะเก่งใช้ได้ เรามาดูกันว่าใน Dragon Ball Daima ตอนที่ 11 จะมีข้อมูลอะไรที่น่าสนใจให้เอามาพูดถึงได้บ้าง มาดูไปพร้อมกันเลย

เริ่มจากสิ่งแรกที่เรารับรู้ในตอนนี้เลย ก็คือการมาถึงของผู้สร้างดราก้อนบอลโลกปีศาจ ที่มานามว่า เนว่า ซึ่งเป็นชาวดาวนาเม็กที่อยู่มาตั้งแต่สมัยอดีต และที่มีอายุยืนยาวเพราะได้รับพลังชีวิตที่ดูดมาจากปีศาจที่ไม่จ่ายภาษามาเพิ่มอายุไขให้ ซึ่งในตอนแรกลุงแกตั้งใจทำตัวเอ๋อ ๆ แก่เลอะเลือนแต่ความจริงแล้วเกือบทุกอย่างที่เราได้เห็น ทั้งการไปขอพรดราก้อนบอลที่โลก การจับตัว เด็นเด้ มา ไปจนถึงการมาของพวกโกคูก็เป็นสิ่งที่เนว่าคิดเอาไว้ แต่ทางเนว่าก็ประเมินพวกโกคูต่ำไป ไม่คิดว่าพวกโกคูจะเก่งขนาดสู้กับทามากาทิได้แบบชิว ๆ อย่างนี้

และในตอนนี้เราก็ได้รู้ว่าทามากามิทั้ง 3 ตัวนั้นตามเฒ่าเนว่าเป็นคนสร้างมันขึ้นมา ซึ่งความแข็งแกร่งของทามากามิทั้ง 3 ตนนั้นแข็งแกร่งจนสามารถยึดโลกปีศาจได้ แต่ตาลุงเนว่าแกไม่สนใจเรื่องนั้น แถมลุงแกยังบอกว่าเขาไม่คิดสร้างสิ่งที่สร้างความขัดแย้งขึ้นมา แต่สร้างดราก้อนบอลที่เป็นสิ่งที่โคตรสร้างความขัดแย้งเลยเนี้ยนะ และถ้าใครสงสัยว่าเนว่าสร้างทามากามิได้อย่างไร ก็ต้องย้อนกลับไปที่ราชาปีศาจพิโกโร่ที่ชื่อว่า คาตัตสึ ที่ก็มีความสามารถในการสร้างปีศาจที่แข็งแกร่งออกมาได้ ด้วยการบ้วนออกมาทางปาก โดยปีศาจแต่ละตัวจะแข็งแกร่งขึ้นอยู่กับตัวผู้สร้าง ซึ่งนั่นก็หมายความว่าตัวของตาเฒ่าเนว่านั้นต้องเคยหรือตอนนี้น่าจะแข็งแกร่งมาก ๆ จึงสร้างทามากามิได้แข็งแกร่งขนาดนี้ขึ้นมาได้

และเมื่อดูจากจากสิ่งที่ปู่เนว่าพูดชื่อพ่อของพิโกโร่ออกมา ก็แปลว่าทางนั้นอาจจะเป็นรุ่นเดียวกัน แต่ราชาปีศาจพิโกโร่คาตัตสึเดินทางมาที่โลก และอยากเป็นพระเจ้าเลยดีดร่างมารของตนออกมา ส่วนร่างดีก็กลายเป็นพระเจ้า ซึ่งความแข็งแกร่งของราชาปีศาจพิโกโร่คาตัตสึกับพระเจ้าก็น่าจะแข็งแกร่งมาก ๆ เพราะตอนที่พิโกโร่รวมร่างกับพระเจ้าในศึกเซล ตอนนั้นพิโกโร่สามารถต่อกรกับหมายเลข 17 ได้แบบสูสี นั่นก็หมายความว่าราชาปีศาจพิโกโร่คาตัตสึสมัยนั้นต้องแข็งแกร่งกว่าซูเปอร์ไซย่าขั้นแรก และสามารถเอาชนะฟรีเซอร์ได้แบบชิว ๆ เพราะอย่าลืมว่าหมายเลข 17 สามารถอัดเบจิต้าที่เป็นซูเปอร์ไซย่าได้อย่างง่ายดาย จึงไม่น่าแปลกใจที่ปู่โนว่าจะสร้างทามากามิที่แข็งแกร่งออกมาได้ถึง 3 ตัว

ต่อมาคือจอมมารบูตัวที่ 3 ที่ชื่อ จอมมารดู ที่ดูแล้วก็คงจะเก่งนั่นละ เพราะดูทามากามิหมายเลข 1 แอบเหงื่อตก ส่วนเบจิต้าที่สู้กับทามากามิหมายเลข 2 ก็ดูเหมือนจะกั๊ก ๆ ไม่เอาจริงต่างกับโกคูที่เอาจริงกว่าตอนสู้กับทามากามิหมายเลข 3 หรือนี่อาจจะเป็นแค่การยืดเนื้อเรื่องของทีมงาน เพราะของจริงเบจิต้าจะแปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่าเพื่อต่อสู้ในตอนต่อไปก็ได้ใครจะรู้ (ถึงตอนนั้นของเล่นเบจิต้าเด็กที่เป็นซูเปอร์ไซย่าก็มาวางขายพอดี) คงต้องมารอดูกันต่อไปว่าจอมมารคูกับจอมมารดูจะเก่งกี่โมง และเทียบเท่าจอมมารบูได้ไหมมารอลุ้นกัน