แม้ว่าอนิเมะหลาย ๆ เรื่องในฤดูใบไม้ร่วง 2024 จะเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุด แต่สำหรับ Ao no Hako (โดยหลังจากนี้จะขอเรียกว่า Blue Box ) น่าจะเป็นหนึ่งในอนิเมะฟอร์มยักษ์ไม่กี่เรื่องที่วางแผนงานไว้ตั้งแต่แรกว่าจะฉายกันแบบลากยาวควบ 2 ซีซั่น หรือ 2 Cours และ ล่าสุดทางทีมงานก็ได้ออกมาเล่นใหญ่ด้วยการปล่อย " ตัวอย่างช่วงครึ่งหลัง " ให้ได้รับชมเมื่อ วันที่ 22 ธันวาคม 2024 ที่ผ่านมา
.
จึงทำให้ในบทความนี้จะเป็นเสมือนการเสนอแนะ เพื่อใช้สำหรับการเตรียมความพร้อมในเรื่อง " 4 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนรับชม Ao no Hako ช่วงครึ่งหลัง " ซึงจะมีเนื้อหาที่น่าสนใจอะไรบ้างนั้นก็ต้องรอติดตามรับชมกันต่อไป
1. เหตุผลที่ภาพสปอยล์เนื้อเรื่องหลุดล่วงหน้าก่อน Netflix ฉาย
สำหรับคนที่ติดตาม Blue Box ผ่านทาง Netflix มาตั้งแต่ตอน 1 จะเห็นได้ว่าในทุก ๆ สัปดาห์จะมีบางครั้งบางคราวที่ " ผู้ชมทางบ้าน " ชอบนำรูปภาพที่เกี่ยวกับเนื้อหาภายในตอนถัดไปออกมาลงล่วงหน้าบินว่อนทั่วโลก Social อย่างไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งเหตุผลจริง ๆ นั้นมาจาก " นโยบายการฉาย " ที่ทาง TMS ได้ขอเอาไว้ว่า
" แพลตฟอร์มออนไลน์ทุกเจ้าจะต้องทำการฉาย Blue Box ช้ากว่าช่องทีวีญี่ปุ่นเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ "
และแน่นอนว่าทาง Netflix ที่ถือครองลิขสิทธิ์การฉาย Blue Box ผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ จึงต้องถูกเล่นงานด้วย " นโยบายดังกล่าวนี้แบบเต็ม ๆ " ซึ่งส่งผลให้ผู้ชมส่วนใหญ่ที่อยู่นอกประเทศญี่ปุ่นเป็นอันต้องรับชม Blue Box ช้ากว่าผู้ชมชาวเกาะเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์
- แต่ในประกาศล่าสุดผ่านทาง Twitter ของ Ao no Hako ได้ออกมาเปิดถึงตารางฉายของตอนที่ 13 เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งค่อนข้างผิดแปลกไปจากเดิมพอสมควร
- Netflix จะเริ่มฉายตอนที่ 13 ต่อเนื่องใน วันที่ 26 พฤศจิกายน 2024
- แต่ช่องทางทีวีจะงดฉาย เนื่องจาก เข้าสู่ช่วงเทศกาลปีใหม่ และ จะกลับมาเริ่มต้นฉายเป็นปกติ วันที่ 2 มกราคม 2025
- โดยในอนาคตทาง Netflix อาจมีแผนที่จะ " หยุดพักฉาย 1 สัปดาห์ " ก็เป็นได้ ซึ่งก็ต้องรอรับชมกันต่อไป

2. เพลงเปิด และ เพลงปิดใหม่ที่ไม่ธรรมดา
ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกประหลาดนัก สำหรับการประกาศเปลี่ยนบทเพลงเปิด และ บทเพลงปิดของอนิเมะ เพราะ น่าจะเรียกได้ว่าเป็นธรรมเนียมที่ผู้ผลิตทำเป็นประจำทุกครั้งเวลาที่ตัวอนิเมะดังกล่าวwfhวางแผนฉายไว้มากกว่า 1 Cours รวมถึงเรื่องราวส่วนใหญ่ของอนิเมะหลาย ๆ เรื่องก็มักจะถูกวางโครงของเรื่องราวเอาไว้ที่ 12 - 13 ตอน จึงทำให้การปรับเปลี่ยนเพลงเปิด-ปิด ก็คงเหมือนเป็น " การปรับเปลี่ยนอารมณ์เรื่อง " ว่าจะดุเดือดขึ้น หรือ เบาบางลงนั่นเอง
.
ซึ่งรวมไปถึง Blue Box ที่ปัจจุบันในช่วงครึ่งหลังของอนิเมะก็เริ่มที่จะดำเนินเรื่องราวเข้าสู่ " เนื้อหาหลัก " เช่นเดียวกัน แม้ว่าจะเป็นเรื่องน่าเสียดายที่บทเพลงที่นำมาใช้เป็นเพลงประกอบเปิด กับ เพลงประกอบปิดจะไม่ใช่ " นักดนตรีตัวท็อป " เช่น Official髭男dism , EVE , Yoasobi , Yorushika หรือ SawanoHiroyuki[nZk] แต่ก็ถือได้ว่าศิลปินที่เข้าร่วมประพันธ์บทเพลงในช่วงครึ่งหลังของ Blue Box นั้นไม่น้อยหน้าศิลปินท่านอื่นเลย ไม่ว่าจะเป็น
- OP : 然らば (Saraba) - Macaroni Empitsu ( 公式マカロニえんぴつ )
- Macaroni Empitsu การันตีความโด่งดังด้วยยอดผู้ติดตามที่สูงถึง 495,000 คน
- ผลงานเพลงชื่อดังจำนวนมาก และ มีเพลงฮิตชื่อว่า なんでもないよ、( Nanndemonaiyo,) โดยมียอดรับฟังผ่านช่อง Youtube ของพวกเขาสูงถึง 51,000,000 คน
- เคยมีผลงานเพลงที่ชื่อว่า Hoshi ga Oyogu ซึ่งเป็นเพลง OP ประกอบให้แก่อนิเมะเรื่อง Summer Time Rendering (ปริศนาบ้านเก่า เงามรณะ)
- ED : コントラスト (Contrast) - TOMOO
- อ้างอิงจากเว็บไซต์ Anime news network ดูเหมือนว่าผลงานเพลงประกอบอนิเมะของ Blue Box นี้จะเป็นครั้งแรกของเธอ (แต่ถ้าใช้ชื่อในอื่นวงการมาก่อนอันนี้ผู้เขียนก็ไม่อาจทราบได้เช่นกัน)
- TOMOO หรือ โทโมอะ หนึ่งในดนตรีที่มีชื่อเสียง และ มักจะลงบทเพลงผ่านช่อง Youtube ของตนเอง ซึ่งมีผู้ติดตามสูงถึง 193,000 คน
- จำนวนยอดรับฟังบทเพลงสูงสุดอยู่ที่ 6,100,000 คนดู ซึ่งเป็นเพลงที่มีชื่อว่า Super Ball
3. Ayame Moriya ตัวละครสมทบใหม่ที่บทบาทไม่จืดจาง
โดยตามปกติแล้วถ้าพูดถึง " ตัวละครสมทบ " ที่มักจะเพิ่มเข้ามาช่วงกลางของการ์ตูนหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็มักจะมาพร้อม " บทบาทสำคัญ " ที่จะช่วยผลักดันเนื้อเรื่องให้เดินหน้าต่อไปในทิศทางที่ดีขึ้นกว่าเดิมรวมไปถึง " Ayame Moriya " ก็ถือได้ว่าเป็น " ตัวละครสมทบยอดเยี่ยม " ที่หลายคนจับตามอง จนถึงขนาดที่ผู้อ่าน Blue Box ในเวอร์ชันหนังสือการ์ตูนหลายคนต่างเฝ้ารอคอยการปรากฏตัวของเธอ เพราะ Ayame Moriya เป็นหนึ่งในคีย์หลักสำคัญที่จะช่วยให้ Blue Box มีความสนุกสนานยิ่งขึ้นกว่าเดิมในอีกหลาย ๆ มุมนั่นเอง
- สำหรับ Ayame Moriya ให้เสียงพากย์โดย Ichinose Kana และ มีผลงานดังต่อไปนี้
- Fern จากเรื่อง Sousou no Frieren
- Tuesday จากเรื่อง Carole & Tuesday
- Sayu Ogiwara จากเรื่อง Hige wo Soru. Soshite Joshikousei wo Hirou (โกนหนวดไปทำงานแล้วกลับบ้านมาพบเธอ)
- Suletta จากเรื่อง Gundam: Witch Mercury
- Maki Shijo จากเรื่อง Kaguya-sama wa Kokurasetai
4. คาดการจำนวนหนังสือการ์ตูนที่จะถูกหยิบมาสร้างในอนิเมะ
ซึ่งอ้างอิงจากเนื้อหาทั้งหมดที่ถูกหยิบยกขึ้นมานำเสนอก่อนหน้าทั้ง 12 ตอน ของ Blue Box โดยมีการดำเนินเนื้อเรื่องภาพรวมค่อนข้างที่จะ " สมเหตุสมผลไม่ยืดยาวเกินไป " รวมถึงข้อมูลต่าง ๆ ภายในหนังสือการ์ตูนยังถูกหยิบยกออกมานำเสนอผ่าน " อนิเมะ " ได้แบบครบถ้วนไม่มีตัดทอนทำให้ปัจจุบันอนิเมะทั้ง 12 ตอนของ Blue Box แทบจะมีเนื้อหาเทียบเท่ากับ " หนังสือการ์ตูนเล่ม 5 ช่วงครึ่งแรกเท่านั้น " และ มีความเป็นไปได้ว่าเนื้อหาที่เหลืออีก 13 ตอน ก็น่าจะถูกตัดจบบทสรุปเนื้อหาทั้งหมดอยู่ประมาณเล่มที่ 11-12 ตามหนังสือการ์ตูนนั่นเอง
สุดท้ายนี้สำหรับผู้อ่านคนไหนที่สนใจก็สามารถเข้าไปรับชมการ์ตูนเรื่อง Ao no Hako กันได้ผ่านช่องทางของ Netflix นอกจากนี้ยังมีความจริงอีกหนึ่งอย่างเกี่ยวกับเบื้องหลังของ Ao no Hako ที่ภายในโปรเจกต์นั้นมีนักอนิเมเตอร์ชาวไทยอยู่หลายคนกำลังสร้างสรรค์ผลงานชิ้นโบว์แดงนี้อยู่เบื้องหลังอีกด้วย แต่สำหรับใครที่จูนไม่ค่อยติดกับอนิเมะ และ ชื่นชอบการอ่านหนังสือการ์ตูนเวอร์ชันภาษาไทยก็สามารถเข้าไปสนับสนุนผลงานลิขสิทธิ์ผ่านสำนักพิมพ์ของ " Luckpim " ได้เช่นเดียวกัน