ย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่บทความที่ผ่านมาทาง 4gamers ได้มีโอกาสนำเสนอข้อมูลน่าสนใจในเรื่องเกี่ยวกับ " Genshin Impact ตัวละครยอดนิยม Spiral Abyss เวอร์ชัน 5.2 " ซึ่งต้องยอมรับว่าในปัจจุบันทั้ง 3 ตัวละครฮิตติด Meta ไม่เสื่อมคลายก็คงจะหนีไม้พ้น 4 ตัวละครเทพสุดแข็งแกร่งทั้งในเรื่อง Sub Dps , DPS , Support หรือ Shield ไม่ว่าจะเป็น Furina , Xilonen , Neuvillette และ Zhongli
.
และเนื่องด้วย Spiral Abyss ในปัจจุบันที่ถูกออกแบบมาไม่ค่อยจะอ่อนข้อให้แก่ผู้เล่นเก่า หรือ ผู้เล่นใหม่เสียเท่าไหร่นัก รวมถึงยิ่งนานวันเข้า " ความยาก " กับ " ความท้าทาย " ก็ยิ่งจะเพิ่มพูลเข้ามาแบบไม่หยุดหย่อน จึงทำให้ในบทความนี้ทางผู้เขียนจะขอออกมาเขียนข้อแนะนำแบบคร่าวถึง " 4 สูตรลับวิธีการตะลุยผ่าน Spiral Abyss ในตัวเกมเวอร์ชัน 5.2 แบบไม่ง้อใคร " ซึ่งจะมีหัวข้ออะไรบ้างนั้นก็ต้องรอติดตามรับชมกันต่อไป
1. ใช้งานบัฟของ Spiral Abyss ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
แม้จะไม่อยากยอมรับนัก แต่ก็ต้องยอมรับตามตรงว่าส่วนตัวผู้เขียนเป็นคนที่ " ไม่ค่อยสนใจเรื่องบัฟของ Spiral Abyss เท่าไหร่นัก " และ จะใช้วิธีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยการมองมอนสเตอร์ภาพรวมทั้งหมด เพื่อจัดทีมแก้เกม หรือ บางครั้งก็ใช้การเล่นแบบ " ลงหลาย ๆ ทีม " จึงทำให้การลง Spiral Abyss ในแต่ละหนึ่งครั้งของผู้เขียนค่อนข้างที่จะกินเวลา ซึ่งก็มีตั้งแต่ 2 - 3 ชั่วโมง ไปจนถึง 1 สัปดาห์เลยทีเดียว
.
จึงทำให้ " บัฟพิเศษ " เป็นหนึ่งสิ่งที่ผู้อ่านหลายคนมักจะมองข้าม และ ทำให้พี่เขียนอยากจะแนะนำให้ผู้ที่ยังติดขัดในเรื่องของ Spiral Abyss ทุกครั้ง " สังเกตเรื่องของบัฟพิเศษ " กันเสียหน่อย เช่น บัฟครั้งนี้จะเน้นไปในเรื่องของ " เพิ่มความเสียหายของทีม 20% รวมถึงปล่อยคลื่นกระแทกใส่ศัตรู เมื่อตัวละครที่เข้าร่วมต่ออยู่ภายใต้การป้องกันของโล่ " ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในบัฟตัวช่วยดี ๆ ที่ช่วยสร้างความเสียหายแก่ศัตรูมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม

2. ตรวจสอบมอนสเตอร์ของ Spiral Abyss ในแต่ละชั้น และ พยายามมองหาจุดอ่อนให้ถี่ถ้วน
นอกจากเรื่องของ " บัฟพิเศษ " ที่มองข้ามอีกหนึ่งสิ่งที่หลาย ๆ คน อาจจะเมินเฉยไม่แพ้กันก็คงเป็นเรื่องของ " การจัดทีมตามความต้องการ " เนื่องด้วยตัวเกม Genshin Impact ณ.ปัจจุบันมีระยะเวลาการเปิดตัวเกมมาแล้วกว่า 4 ปี จึงทำให้มอนสเตอร์ที่ออกมาโลดแล่นภายใน Spiral Abyss 5.2 ค่อนข้างมีความหลากหลาย รวมถึง Mechanics ในการจัดการยังแตกต่างกันออกไป ยกตัวเช่น
- Primo Geovishap (12-1 ครึ่งล่าง) ค่อนข้างแนะนำให้ผู้เล่นใช้ตัวละครประเภท Shield ไม่งั้นอาจถูกสะกัดระหว่างสู้ตลอด
- Tenabrous Papilla: Type (12-2 ครึ่งล่าง) บอสมอนสเตอร์ตัวใหม่ที่บังคับให้ " ผู้เล่นรีบเติมเกจพลังบอส " โดยการรีบโจมตีหลากหลายกระบวนท่า มิเช่นนั้น Tenabrous Papilla: Type จะทำการระเบิดตัวเอง ซึ่งสร้างความเสียหายรุนแรงถึงขนาดที่มีเลือดเต็ม 30,000 ก็ยังตาย
- Golden Wolflord (12-3 ครึ่งบน) ต้องการโจมตีธาตุหิน เพื่อทำลาย " กะโหลก Rifthound " แม้จะสามารถใช้การโจมตีธาตุเพื่อทำลายได้ แต่สุดท้าย " การโจมตีธาตุหิน " ก็มีผลลัพธ์ที่รวดเร็ว และ ดีกว่ามาก
- Aeonblight Drake (12-3 ครึ่งล่าง) ต้องการตัวละครที่ใช้อาวุธประเภท " ธนู " เพื่อใช้สำหรับการสอยบอสที่กำลังบินอยู่ และ ถ้าสามารถเลือกใช้ตัวละครได้หลากหลายธาตุก็จะยิ่งทำให้ Aeonblight Drake ถูกจัดการได้รวดเร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย
โดยหลังจากที่มองเห็นถึง " ปัญหาต่าง ๆ " เกี่ยวกับบอสในแต่ละชั้นก็น่าจะทำให้ผู้อ่านสามารถวางแผน พร้อมทั้งบริหารจัดสัดส่วนตัวละครที่อยากจะแบ่งว่าจะนำไปเล่นกับทีมใด หรือ อยากจะเล่นในทีมรูปแบบไหน เช่น
- ห้องครึ่งบนไม่ต้องเน้นอะไรมากนัก แต่จำเป็นต้องมี " ตัวละครธาตุหิน " ที่สามารถจัดการ กะโหลก Rifthound ได้อย่างรวดเร็ว
- แต่ห้องครึ่งล่างจำเป็นต้องโฟกัสหลายอย่าง
- ตัวละครประเภทโล่ 1 ตัว
- ตัวละครที่เชี่ยวชาญการใช้ธนู 1 ตัว
- DPS กับ Sub DPS ดี ๆ ที่จะช่วยสร้างความเสียหายใส่ศัตรูแบบตึง ๆ
3. ศึกษาวิธีการกด Rotation ตัวละครให้เข้ามือ
หลังจากพูดถึงเรื่องของ " วิธีการจัดทีม " อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คงเป็นเรื่องของ " การ Rotation ตัวละคร " เนื่องด้วย การสร้างความเสียหายของตัวเกม Genshin Impact ส่วนใหญ่จะใช้วิธีการเล่นในรูปแบบของ " การแปะธาตุ " จึงทำให้ผู้อ่านควรจะต้องศึกษาพื้นฐานวิธีการผสมธาตุ เช่น เมื่อนำธาตุต่าง ๆ มาผสมกันแล้วความเสียหายที่ถูกสร้างขึ้นจะเกิดขึ้นในรูปแบบใด และ ถึงถ้าสามารถ " นั่งนับคูลดาวน์สกิลตัวละครได้อีก " ก็ยิ่งทำให้การสร้างความเสียหายใส่ศัตรูก็ยิ่งมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นกว่าเดิม จนถึงขนาดที่ผู้เล่นสามารถใช้ตัวละครระดับ 4 ดาว ผ่านด่าน Spiral Abyss ได้แบบชิว ๆ อีกด้วย
4. จำนวน HP ของมอนสเตอร์ที่พุ่งสูงทุกครั้ง
แต่สำหรับผู้อ่านคนไหนที่ทำทุกสิ่งทุกอย่างมาแล้ว และ ปัจจุบันก็ยังติดขัดไม่สามารถผ่านพ้นฝันร้ายนี้ได้เสียทีทางผู้เขียนก็คงจะต้องแนะนำว่า " ให้ปล่อยวางเสีย " พร้อมทั้งหันไป " อัพเกรดตัวละครที่ใช้งาน ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม " ซึ่งเหตุผลที่ทำให้หลายคนเล่น Sprial Abyss ในหลาย ๆ ครั้งไม่ผ่านไม่ได้มีสาเหตุมาจาก " ตัวผู้เล่นทั้งหมด " เพราะ ถ้าอ้างอิงจากข้อมูลหลังบ้านที่ได้มีคนเก็บสถิติไว้ในเรื่องเกี่ยวกับ " เลือดมอนสเตอร์ของ Spiral Abyss " จะว่าจำนวนเลือดมอนสเตอร์ตั้งแต่อดีตมาถึงปัจจุบันนั้นเด้งขึ้นสูงกว่าเดิมถึง 2-3 เท่า (1.5 ล้าน - 6 ล้าน)
.
ซึ่งในขณะที่มอนสเตอร์ใหม่ ๆ ที่ถูกหยิบยกเข้าสู่ Spiral Abyss ค่อย ๆ ถึกขึ้นเรื่อย ๆ แต่ตัวละครเก่า ๆ นั้นกับไม่มีการอัพเกรดในเรื่องของ " สเกลความสามารถ " เสียเท่าไหร่นัก จึงทำให้ถ้าผู้อ่านเป็นผู้เล่นเก่าแก่ที่เลิกเล่นไปตั้งแต่ตัวเกมเวอร์ชัน 3.0 และ พึ่งมีโอกาสกลับมาเล่นอีกครั้งภายในตัวเกมเวอร์ชัน 5.2 โดยที่ไม่คิดจะเปิดหาตัวละครใหม่ ๆ เข้ามาเสริมทัพก็คงจะพูดได้เต็มปากเลยว่า " การผ่าน Spiral Abyss ชั้น 12 นั้น เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก " เนื่องจาก สเกลความเสียหายที่ทำได้ของตัวละครยุคนั้นค่อนข้างห่างชั้นจากเลือดมอนสเตอร์ ณ.ปัจจุบันมากเกินไปนั่นเอง

สุดท้ายนี้ก็หวังว่าข้อแนะนำที่ได้ออกมาบอกเล่าถึง " 4 สูตรลับวิธีการตะลุยผ่าน Spiral Abyss ในตัวเกมเวอร์ชัน 5.2 แบบไม่ง้อใคร " จะเป็นประโยชน์ต่อผู้เล่นที่กำลังติดปัญหาอยู่ขณะนี้ แต่ทั้งนี้ถ้าผู้อ่านคนไหนที่ทำตามทุกระเบียบนิ้ว และ ยังติดปัญหาอยู่ รวมถึงยังไม่รู้ว่าจะแก้ไขอย่างไรต่อทางผู้เขียนก็คงทำได้แค่ให้กำลังใจ หรือ แนะนำว่าให้รอเปิดตัวละครภายในแพตช์ 5.3 อย่าง Mavuika กับ Citlali เข้ามาเสริมทัพ ซึ่งน่าจะช่วยอุดช่องว่างของปัญหาดังกลาวนี้ได้ไม่มากก็น้อย