ถ้าใครเป็นคนที่ชอบดูภาพยนตร์ทุกแนวไม่เน้นไปที่แนวใดแนวหนึ่งอย่างเดียว คงจะรู้ว่าภาพยนตร์แนวตัวละครที่ไปอยู่ผิดที่ผิดเวลา ประมาณว่าถ้าตัวละครไม่อยู่ตรงนั้นเรื่องราวคงไม่เป็นแบบนี้ มันมีน้อยมาก ๆ ยกตัวอย่างเรื่อง Transit ที่ครอบครัวธรรมดาซึ่งกำลังจะไปเที่ยว จู่ ๆ โจรที่ปล้นธนาคารก็แอบเอาเงินไว้บนรถของครอบครัวนี้ จนครอบครัวนี้ดวยซวยโดนโจรตามล่าโดยที่ไม่รู้เรื่อง (เรื่องนี้ก็สนุกลุ้นตัวโก่งบอกเลย) เหมือนกับภาพยนตร์เรื่องนี้อย่าง Carry-on สัมภาระอันตราย ที่ก็เป็นเรื่องราวของคนที่อยากก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เลยขอทำงานในตำแหน่งใหม่จนเกิดเป็นเรื่องราววุ่นวายที่บานปลายเป็นเรื่องใหญ่ แถมเนื้อเรื่องก็น่าสนใจจนเราต้องหยิบมาแนะนำรีวิวให้คุณได้อ่านกัน
เรื่องราวโดยย่อของ Carry-on สัมภาระอันตราย จะกล่าวถึง อีธาน โคเปก เจ้าหน้าที่ฝ่ายความปลอดภัยในการขนส่งที่สนามบินนานาชาติลอสแองเจลิส เขาเป็นพวกลายเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายและไม่มีความทะเยอทะยาน แถมสอบตกจากโรงเรียนตำรวจจนทำให้ใช้ชีวิตไปวัน ๆ กับภรรยา จนวันหนึ่งภรรยาของเขาบอกว่าเธอท้อง อีธานเลยต้องคิดถึงอนาคตด้วยการไปขอหัวหน้าทำงานในหน้าที่สแกนสัมภาระ โดยหวังว่าจะแสดงให้เห็นถึงความดีความชอบของเขาเพื่อเลื่อนตำแหน่ง ซึ่งในช่วงก่อนวันคริสต์มาสอีฟคนที่สนามบินจะเยอะมาก ๆ ก่อนที่จะมีโทรศัพท์ปริศนาโทรมาบอกให้เขาปล่อยกระเป๋าใบหนึ่งให้ผ่านการสแกนไป ถ้าไม่ทำตามภรรยาจะถูกฆ่า เรื่องราวของคนดีที่อยู่ถูกที่ผิดเวลาจึงเริ่มขึ้น
เปิดเรื่องมาตัวเรื่องจะบอกเราให้รู้จักนายอีธานชายหนุ่มที่ใช้ชีวิตไปวัน ๆ อย่างไร้จุดหมาย มีเพียงภรรยาที่เป็นเหมือนตัวเหนี่ยวรั้งให้เขายังคงมีสติและทำเพื่อเธอ จนเมื่อภรรยาสาวบอกว่าเธอท้องลูกคนแรก การเอื่อยเชื่อยของเขาก็ต้องเปลี่ยนไป เหมือนจะบอกคนดูว่าภรรยาของอีธานคือทุกสิ่งในชีวิตของเขา และเขาพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเธอ ตัวเรื่องช่วงแรกจะเล่าแบบเรื่อย ๆ พร้อมบอกที่มาที่ไปของกระเป๋าว่ามาจากไหน กับการแนะนำตัวละครว่าจะมีใครต้องร่วมชะตากรรมครั้งนี้บ้าง รวมถึงความวุ่นวายในสนามบินช่วงก่อนวันหยุดที่พนักงานต้องวุ่นวายขนาดไหน จนเมื่ออีธานได้รับสายจากบุคคลปริศนาเรื่องราวที่แท้จริงก็เริ่มต้นขึ้น
ตัวเรื่องในช่วงแรกจะเป็นการนั่งเฝ้าอยู่ตรงช่องสแกนสัมภาระที่อีธานกำลังทำงาน โดยคนร้ายที่ต้องการให้กระเป๋าสแกนผ่าน จึงหาทางบังคับอีธานให้ทำตามที่มันต้องการ ด้วยการบอกข้อมูลต่าง ๆ ของเขาอย่างละเอียด โดยก่อนหน้านี้เป้าหมายจริง ๆ ของคนร้ายคือเพื่อนของเขา แต่อีธานดันมาขยันผิดที่เลยได้แลกตำแหน่งกับเพื่อน คนร้ายเลยต้องเปลี่ยนแผนมาที่อีธาน ซึ่งทางอีธานก็พยายามต่อต้านและหาทางติดต่อกับคนอื่น ๆ ขณะที่คนร้ายก็สามารถแก้เกมอีธานได้ทั้งหมด แถมคนร้ายก็โหดแบบสุด ๆ คือฆ่าได้ฆ่าเลยไม่สนอะไรทั้งนั้น และพอมันขู่เรื่องภรรยาอีธานเลยยอมทำตาม แต่จิตใจที่รักในคุณธรรมแม้จะสอบตำรวจไม่ผ่านเขาเลยพยายามขัดขวาง ที่ถ้าเขาปล่อยกระเป๋าผ่านไปอาจจะมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งมันจะเป็นตราบาปของเขาไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน อีธานเลยพยายามแก้ไขไม่ให้มันเกิดขึ้น โดยที่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในกระเป๋านั้นคืออะไร
ตัวเรื่องจะค่อย ๆ ทวีความเข้มข้นเพื่อให้เราลุ้นว่าอัธานจะแก้เกมยังไง เพราะคนร้ายรู้และเห็นทุกอย่างที่อีธานทำทั้งหมด จนมาถึงองค์ที่ 2 ที่มีตัวละครตำรวจมารวมด้วยเนื้อเรื่องก็ค่อยก้าวหน้าขึ้น ตัดสลับไปกับเรื่องราวของอีธานที่ตามหาว่าคนร้ายคือใครอยู่ที่ไหนในสนามบิน ที่พอเจอตัวเนื้อหาก็เปลี่ยนจากการขอความร่วมมือมาเป็นบังคับและขู่จะฆ่าจริง ๆ จนเราคนดูนั่งไม่ติดลุ้นตามอีธานไปด้วย และถ้าคุณพยายามจะจับผิดว่าทำไมอีธานไม่ทำแบบนั้นไม่ทำอย่างนี้ เชื่อเถอะว่าหนังมันปิดช่องว่างหมดแล้ว สิ่งที่คุณคิดและสิ่งที่คุณไม่ได้คิดอีธ่านทำหมดแล้ว แต่คนร้ายก็จับทางได้หมดจนเราคนดูต้องคิดตามเลยว่าอีธานจะทำอย่างไรต่อไปจากนี้ ซึ่งนั่นคือจุดเด่นจุดขายของภาพยนตร์เรื่องนี้
ในส่วนของข้อเสียที่เอาจริง ๆ ก็มีอยู่หลายจุด อย่างแรกคือคนร้ายที่ถ้าจะทำงานใหญ่วางแผนเก่ง ขนาดมีแผนหนึ่งสองสามสี่วางไว้ล่วงหน้า แต่ไม่คิดจะหาคนมาเพิ่มที่ถ้าไม่นับคนที่เอากระเป๋ามาให้ในช่วงกลางเรื่อง โจรมีกันจริง ๆ แค่ 2 คนเท่านั้นซึ่งมันไม่พอในการทำงานระดับนี้ ในทางกลับกันถ้าคนร้ายมีคนเยอะอีธานคงไม่มีอิสระวิ่งไปมาได้แบบนี้แน่นอน ซึ่งตรงนี้น่าจะเป็นจุดที่คนเขียนบทคิดเอาไว้แล้ว เลยทำให้มีคนร้ายแค่ 2 คนในเรื่อง และในช่วงกลาง ๆ เรื่องจะมีตัวละครมาเพิ่ม (ไม่บอกว่าคือใครไปดูเอาเอง) โดยตัวละครตัวนี้จะออกไปทางวู่วามหุนหันดูแล้วชวนขัดใจสุด ๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตัวละครนี้ก็ดูนิ่ง ๆ แต่พอเกิดเรื่องก็สติแตกแบบไม่สนแมวอะไรแล้ว จนลืมไปว่าถ้าเรื่องจบตัวเองก็ต้องติดคุกข้อหาฆ่าคนตายแต่ก็ยังทำ อันนี้คือขัดใจสุด ๆ นี่ยังไม่นับตัวภรรยาซึ่งแทนที่จะหาคนช่วย วิ่งไปที่คนเยอะ ๆ แต่กลับวิ่งไปที่ที่ไม่มีคนเฉย ดูแล้วหงุดหงิดมาก ๆ
ในส่วนของนักแสดงไม่ต้องเป็นห่วงเลยเลยทุกคนเล่นดีสมบทบาทสุด ๆ เสียงไทยก็โอเคสมมาตรฐานดูได้เพลิน ๆ มีลุ้นตลอดเรื่อง โดยเฉพาะช่วงท้ายที่ถ้าพระเอกไม่มีความสามารถในการสืบสวนที่เรียนมาจากโรงเรียนตำรวจ กับความสามารถในฐานะเจ้าหน้าที่สนามบินคงทำแบบนี้ไม่ได้ ใครชอบหนังแนวลุ้น ๆ เอาตัวรอดเอาใจช่วยบอกเลยว่าไม่ควรพลาด ส่วนคะแนนให้ราว 7.4 เต็ม 10 ส่วนที่ตัดส่วนที่ชอบตามที่เราได้บอกไป คิดเห็นอย่างไรก็เอามาบอกกันได้ ส่วนใครที่ไม่เคยดูแนะนำเลย หนังแนวนี้นาน ๆ มาทีเราเลยไม่อยากให้คุณพลาด