 - สำเนา-250116-160003.png?versionId=WOdiOoxkw2Fa_FzbFb9XcI99gKde.miF)
กลับมาให้อ่านกันอีกครั้งหลังจากห่างหายกันไปนานเป็นอาทิตย์ ซึ่งถ้าใครจำได้ใน One Piece ตอนที่ 1135 ได้เกิดเหตุการณ์หลุดครั้งใหญ่ก่อนช่วงปีใหม่ ทำให้ One Piece ตอนที่ 1135 หลุดออกมาก่อนกำหนด 1 อาทิตย์ และตอนนี้ก็กลับมาเป็นปกติแล้ว (ไม่มีตัวหลุดออกมา) โดยในตอนที่แล้วเรื่องราวของ One Piece ทิ้งท้ายเอาไว้กับเรื่องราวของผู้บุกรุก 2 คน ที่สามารถล้มยามที่เป็นคนยักษ์ได้อย่างง่ายดาย ขณะที่กลุ่มหมวกฟางก็ฉลองการพบเจอกันกับเหล่าคนยักษ์ โดยที่ทุกคนไม่รู้เลยว่ากำลังมีภัยอันตรายบางอย่างกำลังคืบคลานเข้ามา เรามาดูกันดีกว่าว่า One Piece ตอนที่ 1136 จะมีอะไรน่าสนใจบ้างมาอ่านไปพร้อมกันเลย

เปิดเรื่องมาจากเป็นฉากงานเลี้ยงที่เราได้กล่าวไปในตอนต้น โดยลูฟี่กำลังอร่อยกับเนื้อกวางมูส ระหว่างที่กำลังเลี้ยงฉลอง เคราภูผา ยาร์ล วีรบุรุษของเผ่าคนยักษ์ (ลุงที่มีดาบเสียบหัว) ก็บอกกับพวกลูฟี่ว่า ส่วนใหญ่แล้วพวกมนุษย์จะไม่สามารถเดินทางไปยังโลกแห่งดวงอาทิตย์ได้หรอก ส่วนมากจะทำได้แค่อยู่ที่ด้านล่างหรือยมโลกเท่านั้น ซึ่งพอมนุษย์เห็นยมโลกแห่งเอลบัฟต่างก็หวาดกลัวและหนีกันไปหมด โดยในงานเลี้ยงเหล่าคนยักษ์ก็ค่อนข้างสนใจ จินเบ กับ บรู๊ค เป็นพิเศษเพราะทั้งคู่เป็นสิ่งแปลกประหลาดที่เหล่าคนยักษ์ไม่เคยเห็นมาก่อน

พอได้โอกาส อุซป เราก็ถือโอกาสโม้เกี่ยวกับการต่อสู้ของตัวเองกับเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ และเคยล้มเจ้า ออส ซอมบี้ยักษ์ได้ด้วย พอเหล่าคนยักษ์ได้ยินต่างก็ตกใจและบอกว่า ออสคือคือคนยักษ์ในตำนานที่มีความดุร้ายมาก ๆ แต่อุซปก็ล้มมันได้ (งานนี้อุซปเรายืดกว่าเดิม) ขณะที่ทางโร้ด (คนยักษ์ที่จับพวกลูฟี่มาใส่กรงในเมืองเลโก้) ก็ถูกบังคับให้ขอขมาพวกหมวกฟางที่ทำล่วงเกินไป โดยในตอนนั้น โซโลก็เก็กเท่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า ถ้าตอนนั้นอุซปไม่ห้ามเอาไว้หัวนายหลุดจากบ่าไปแล้ว

ทางด้านคุณปู่ยาร์ลก็บอกเล่าเรื่องราวตำนานของเอลบัฟที่เรียกว่า ไฮร์เน่ โดยตำนานของเผ่าคนยักษ์นี้มันเขียนด้วยภาษาโบราณที่ไม่มีใครแปลได้ จึงมีการตีความไปต่าง ๆ นานาจากผู้คนในยุคก่อน ๆ จนพอสรุปได้ว่า โลกในอดีตนั้นเคยถูกทำลายมาแล้ว 2 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีการพูดถึง เทพนิกะ ที่ปรากฏบนฝาผนังของตำนานไฮร์เน่นี้ด้วย โดยที่นี่จะเรียกสิ่งที่เหมือนเทพนิกะว่า เทพแห่งพระอาทิตย์ ซึ่งตามตำนานกล่าวว่าเทพพระอาทิตย์นั้นจะมีผมสีขาวหยิกและมีเมฆสีขาวที่คอ ที่ไม่ว่ายังไงมันก็เหมือนลูฟี่ตอนใช้เกียร์ห้านั่นเอง นอกจากนี้เทพนิกะหรือเทพพระอาทิตย์ในตำนาน ยังสวมผ้าเตี่ยวถือหอกและดาบในมือเป็นอาวุธอีกด้วย
ซึ่งคนยักษ์บางส่วนก็เชื่อว่าเทพพระอาทิตย์คือผู้ปลดปล่อย ขณะที่บางส่วนก็เชื่อว่าเทพพระอาทิตย์คือผู้ทำลาย แต่ไม่ว่าจะมาในรูปแบบไหน เทพพระอาทิตย์ก็จะปรากฏตัวออกมาในยามที่โลกกำลังถึงคราวเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เพราะเหตุนี้พวกคนใหญ่คนโตและคนที่รู้เรื่องต่างหวาดกลัวการปรากฏตัวของเทพนิกะ ซึ่งลูฟี่ที่ได้ยินก็ไม่รู้ว่าตัวเองนั่นละคือเทพนิกะคนนั้นที่ถูกพูดถึง ปู่ยาร์ลยังบอกอีกว่าเทพพระอาทิตย์จะปรากฏตัวออกมาพร้อมแสงสีขาวที่ว่างเจิดจ้า และเสียงหัวเราะอันดังสนั่นกึกก้อง พอทางนั้นพูดทำนองว่าลูฟี่เอ็งนั่นละคือเทพพระอาทิตย์ ลูฟี่ก็บอกว่าไม่ใช่ตนเองไม่ได้เป็นเทพนิกะหรือเทพพระอาทิตย์อะไรทั้งนั้น

ปู่ยาร์ลบอกต่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้าชายโลกิกับพระราชาฮาราลด์ อาจจะเป็นการลงโทษของเทพนิกะที่บังอาจแอบอ้างเป็นเทพพระอาทิตย์ ลูฟี่ที่ได้ยินชื่อโลกิก็ถามปู่ยาร์ลว่าคนที่ชื่อโลกิเป็นคนดีรึเปล่า ซึ่งพอพูดถึงชื่อโลกิพวกคนยักษ์ต่างก็ตกใจ และบอกว่าเจ้าชายโลกินั้นคือเจ้าชายต้องสาป เป็นคนที่สร้างความวุ่นวายให้เอลบัฟ โดยก่อนที่เจ้าชายโลกิจะเกิดพระราชาฮาราลด์ได้รับคำทำนายว่า ท่านจะถูกลูกชายตัวเองปลงประชนม์ และพอเจ้าชายโลกิเกิดมาก็สังหารม้านำโชคของพระราชวัง และฆ่านักรบผู้ยิ่งใหญ่ในตำนาน แม้แต่ราชินียังสิ้นพระชนม์เมื่อเจ้าชายโลกิกำเนิดมาได้เพียง 1 ปี
ยังไม่หมดพอเจ้าโลกิโตขึ้นพี่แกก็ทำให้ยมโลก กลายเป็นสนามเด็กเล่นที่เป็นนรกสมชื่อยมโลกของจริง เพราะพี่แกฝึกสัตว์ร้ายที่อยู่ในยมโลกให้เชื่องและเชื่อฟัง เพื่อสร้างกองทัพอันแข็งแกร่งให้ตัวเอง แถมยังปล่อยสัตว์เหล่านั้นเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อสร้างความวุ่นวาย ซึ่งตอนนั้นพี่แกเพิ่งมีอายุแค่ 10 ขวบเท่านั้น นอกจากนี้พี่แกยังฆ่าและเผาทำลายเหล่าคนยักษ์เหมือนมันเป็นเรื่องสนุก ซึ่งมันโหดเหี้ยมผิดนิสัยคนเผ่ายักษ์ทั่วไปเป็นอย่างมาก (ปกติคนเผ่านี้ก็โหดแต่ไม่โหดขนาดทำร้ายพวกเดียวกันเอง) จนที่นี่เกือบกลายเป็นนรกของจริงเลยทีเดียว ปู่ยาร์ลเล่าต่อว่าดาบที่ปักหัวแกอยู่ตอนนี้ก็มาจากฝีมือของเจ้าชายโลกิ ตอนที่ปู่ยาร์ลปกป้องพระราชาฮาราลด์จากการถูกสังหาร

หลังจากนั้นเจ้าชายโลกิก็ไปสร้างความวุ่นวายตามที่ต่าง ๆ จนถูกแชงค์สผมแดงจับมาขังไว้ที่เกาะเมื่อ 6 ปีก่อน (ไหนว่าถูกเหล่าคนยักษ์จับ) และพอลูฟี่ได้ยินชื่อแชงค์สพี่แกก็ตื่นเต้นดีใจว่าแชง์สนั้นแข็งแกร่งขนาดล้มเจ้าชายคนยักษ์ลงได้ โดยในตอนนั้นโซโลที่เห็นท่าทางของลูฟี่ก็รู้ทันทีว่าพี่แกคิดอะไรอยู่ ด้วยความที่ทั้งสองคนรู้จักกันมานาน เลยทำให้โซโลรู้ว่าลูฟี่มันต้องคิดอะไรบางอย่างอยู่จึงเรียกลูฟี่มาคุยกัน 2 คน โดยทางโซโลบอกลูฟี่ว่านายก็รู้ว่าหมอนั่น (เจ้าชายโลกิ) เป็นตัวอันตรายขนาดไหน นายคงไม่คิดจะไปปล่อยตัวมันออกมาตามที่มันขอหรอกนะ แต่ลูฟี่ก็แย้งว่าก็หมอนั่นบอกว่าจะบอกที่อยู่ของแชงค์สให้ถ้ายอมปล่อยให้เป็นอิสระ แถมลูฟี่ยังบอกว่าอีกว่าตนเองนั้นอยากเจอแชงค์สมาก ๆ โซโลที่รู้จักลูฟี่ดีจึงแย้งไปว่านายมันเชื่อคนง่ายอาจจะถูกหลอก ทางลูฟี่ก็บอกว่าถ้าเจ้าโลกิมันหลอกหรือโกหกเรื่องแชงค์ส ลูฟี่จะอัดมันให้หน้าหงายเอง โซโลที่ก็ไม่มั่นใจว่าโลกิพูดจริงไหมเลยไม่ได้แย้งอะไร
และในระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังคุยกัน นามิ ก็เดินเข้ามาได้ยินพอดี ทางโซโลที่ไม่มีทางเลือกจึงบอกว่าเขาจะช่วยลูฟี่ในการหากุญแจ เพื่อปลดปล่อยเจ้าชายโลกิตามที่ลูฟี่ต้องการ โดยมีนามิร่วมด้วยเพื่อไปหากุญแจ โดยมีโร้ดที่กลายเป็นเบ้สั่งให้พายเรือไปยังที่เก็บกุญแจที่ขังเจ้าชายโลกิ โดย ซุส บอกกับนามิว่าเขาเป็นทาสหมายเลข 1 ส่วน ซันจิ เป็นทาสหมายเลข 2 และ โร้ด เป็นทาสหมายเลข 3 โดยเหตุผลที่นามิตามลูฟี่กับโซโลไปเพราะต้องการจะไปเอาสมบัติในประสาทมากกว่า

ตัดมาที่บุคคลปริศนาสองคนที่ตอนนี้เดินทางมาเจอกับโลกิ จุดประสงค์ของทั้งคู่คือการเชิญชวนให้เจ้าชายโลกิเข้าร่วมเป็นภาคีอัศวินเทพ แต่เจ้าชายโลกิปฏิเสธและถามทั้งคู่ว่าเป็นคนของเผ่ามังกรฟ้ารึเปล่า แต่ทั้งคู่ไม่ตอบ ทางด้านชายที่หน้าตาเหมือนแชงค์สก็ถามหญิงสาวว่า เรามีข้อมูลอะไรที่เกี่ยวกับเจ้าชายโลกิบ้าง ทางฝ่ายหญิงก็ตอบว่าพวกเจ้าหน้าที่ที่เคยถูกส่งมายังเอลบัฟ ต่างถูกอีกาโจมตีก่อนที่เจ้าหน้าที่จะหายไปหมด (น่าจะโดนอีกาของโร้ดจับไปใส่กรงแบบที่พวกลูฟี่โดน) เลยทำให้ทั้งสองคนไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าชายโลกิ
และในตอนนี้เราจะทราบชื่อกับความสามารถของหญิงสาวคนนี้ ว่าเธอชื่อ กุนโกะ เป็นหนึ่งในภาคีอัศวินเทพ (แต่ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคนที่เหมือนแชงค์ส) ซึ่งความสามารถของเธอนั้นคือการเปลี่ยนผ้าที่เหมือนผ้าพันแผลของตัวเองให้เป็นอาวุธ โดยเธอรู้สึกไม่พอใจความหยิ่งยโสของเจ้าชายโลกิ จึงคิดจะกำจัดเขาทิ้งตรงนี้ แต่ฝ่ายชายก็ห้ามกุนโกะเอาไว้ และตอนนั้นเองก็มีฝูงหมาป่าจะมาจัดการทั้ง 2 แต่ทางฝ่ายชายก็พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า ถ้านายยอมมาเป็นพวกเราหมาป่าพวกนี้จะไม่ตายแบบไร้ประโยชน์ แต่เจ้าชายโลกิก็ยังยืนกรานว่าจะไม่เข้าร่วมภาคีอัศวินเทพ โลกิบอกว่าตนจะแบกรับทุกอย่างไว้เอง เพราะเขานี่ละจะเป็นคนทำลายโลกใบนี้เอง....

เอาละซิงานงอกแล้วทางฝั่งพวกลูฟี่ ก็คิดจะไปปล่อยเจ้าชายโลกิออกมาเพื่อจะถามเรื่องแชงส์ค ขณะที่ฝั่งบุคคลปริศนา 2 คนก็มีเป้าหมายในการชวนเจ้าชายโลกิมาเป็นพวก แต่ความเบียวของพี่โลกิที่คิดจะทำลายโลกด้วยตัวเองเลยไม่เข้าร่วม งานนี้คงสนุกแน่นอนซึ่งถ้า One Piece ตอนที่ 1137 มาเมื่อไหร่เราจะรีบเอามาสปอยล์ให้อ่านกันทันทีติดตามเอาไว้ได้เลย และถ้าใครอยากอ่าน One Piece ย้อนหลังก็ไปอ่านได้ที่เว็บไซต์ MANGA Plus ได้เลย ยังไงก็อ่านตรงนี้ไปก่อนพอตัวเต็มมาก็ไปอ่านอีกครั้ง (กันโดนคนอื่นสปอย์) แล้วพบกันใหม่อาทิตย์หน้าชาวโจรสลัดหมวกฟางทั้งหลาย