
มาถึงตอนที่ 3 กันแบบรวดเร็วกับอนิเมะเด็กเบียววิทยาศาสตร์กู้โลกอย่าง Dr. Stone ที่ดำเนินมาถึงซีซันที่ 4 ซึ่งเป็นภาคสุดท้ายของเรื่อง โดยตัวเรื่องจะดำเนินตามมังงะไปแบบรวดเร็ว เพราะต้นฉบับมังงะ Dr. Stone ได้จบลงอย่างสมบูรณ์ไปแล้ว ทางทีมสร้างอนิเมะจึงค่อนข้างอุ่นใจไม่ต้องรอมังงะให้ออกมาก่อนจึงจะสร้างได้ และในตอนที่ 3 ของ Dr. Stone ก็เป็นการเข้าสู่เนื้อหาหลักของเรื่องกันแบบไม่ต้องอ้อมค้อม กับศัตรูใหม่ที่คราวนี้ทางนั้นจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ฝ่ายมืด เพราะเมื่อคนฝั่งอเมริกาเจอผู้รอดชีวิตแถมเป็นเด็ก แทนที่จะดีใจที่ได้เจอคนที่ไม่กลายเป็นหิน แต่ทางนั้นกลับเอาปืนกลมาไล่ยิง เรามาดูกันดีกว่าว่า Dr. Stone ซีซัน 4 ตอนที่ 3 นี้มีข้อมูลเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยอะไรน่าสนใจกันบ้าง มาดูไปพร้อมกันเลย

เริ่มจากเรื่องแรกจุดที่พวก เซ็นคู นั่งเรือมาถึงอเมริกานั้นก็คือแถวซานฟรานซิสโก และตรงจุดที่พวกเซ็นคูผ่านมาคือสะพานโกลเดนเกต สะพานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอเมริกาที่เราเคยเห็นในภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่อง โดยเป้าหมายที่แท้จริงของเซ็นคูมีอยู่ 2 อย่าง นั่นคือการตามหาข้าวโพดของอเมริกา เพื่อเอามาใช้ทำแอลกอฮอล์ที่ใช้เป็นส่วนผสมหลักในการทำน้ำยาคืนชีพ ซึ่งการชุบชีวิตคนเป็นพันล้านคนมันต้องใช้น้ำยาที่เยอะมาก ๆ อีกหนึ่งเป้าหมายคือการหาวัตถุดิบที่มีเฉพาะที่นี่ ในการสร้างจวรดไปดวงจันทร์เพื่อกำจัด วายแมน ผู้ที่อยู่เบื้องหลังให้โลกกลายเป็นหินกว่า 3,000 ปี

และเมื่อมาถึงซานฟรานซิสโกตามที่คิดไว้ ต่อมาคือการเดินทางจากชายฝั่งตะวันตกจากอ่าวซานฟรานซิสโกไปยังภาคเหนือในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยแล่นเรือไปตามแม่น้ำแซคราเมนโตไปแถว ๆ รอบเมืองแซคราเมนโตก็จะเจอที่ปลูกข้าวโพดขนาดใหญ่ของอเมริกา และสิ่งที่เรารู้อีกเรื่องเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ที่หลายคนไม่ทราบมาก่อน (รวมผู้เขียนด้วย) นั่นคือ โลกของเรานั้นหมุนควงเหมือนลูกข่างที่ใช้เวลา 24 ชั่วโมงก็หมุนครบ 1 รอบ (คิดดูว่าโลกเราหมุนเร็วแค่ไหน) และด้วยการหนุมแบบนี้ การหมุนของโลกจะเอียงไปเรื่อย ๆ ซึ่งทุก ๆ 3,700 ปีโลกจะหนุมเปลี่ยนทาง ทำให้ฤดูการต่าง ๆ บนโลกช้าลง 9 วัน (วิทยาศาตร์น่ารู้)

สิ่งที่เรารู้ต่อมาก็คือชื่อสายพันธุ์ข้าวโพดที่เซ็นคูต้องการ นั่นคือ ข้าวโพดสายพันธุ์เยลโลว์เด้นต์ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นข้าวโพดสุดโกงที่ปลูกง่ายขึ้นง่ายแต่รสชาติห่วยจนกินไม่ลง ซึ่งคนสมัยก่อนจะใช้ข้าวโพดเยลโลว์เด้นต์เป็นอาหารสัตว์จนมาถึงตอนนี้ โดยข้าวโพดเยลโลว์เด้นต์ก็เป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่ถูกเอามาทำสินค้าอาหารต่าง ๆ และข้อดีของข้าวโพดเยลโลว์เด้นต์ก็คือ มันสามารถผลิตแอลกอฮอล์ออกมาได้จำนวนมาก โดยทางเซ็นคูได้ยืนยันเรื่องนี้ด้วยการจับแมลงกลางคืนดู เพราะศัตรูของข้าวโพดเยลโลว์เด้นต์คือพวกผีเสือกลางคืน ซึ่งเซ็นคูก็เจอมันเยอะมาก ๆ นั่นก็แปลว่าที่แถวนี้ต้องมีไร่ข้าวโพดที่ขึ้นเองตามธรรมชาติอยู่เยอะมาก ๆ (แต่มันจะขึ้นเองตามธรนรมชาติจริงหรอ)

ต่อมาคือจุดน่าสนใจของเรื่องที่เรียกว่าเป็นหัวใจหลังของซีซันนี้เลยก็ได้ นั่นคือฝั่งมนุษย์ที่รอดชีวิตของฝั่งอเมริกา โดยสิ่งแรกที่เรารู้เกี่ยวกับพวกเขาก็คือ ความสามารถในการต่อสู้ที่เหนือชั้นกว่าทีมต่อสู้ของพวกเซ็นคู แถมยังโหดเหี้ยมฆ่าแบบไม่ลังเลอีกด้วย และที่โหดสลัดสุด ๆ คือฝั่งบุคคลปริศนามีปืนกล ที่บ่งบอกว่าวิทยาการทางด้านวิทยาศาสตร์ของฝั่งอเมริกานั้น ไปไกลกว่าของเซ็นคูอยู่ 1 ยุคหรืออาจจะมากกว่านั้น ซึ่งทางเซ็นคูคิดว่าทางนั้นคงไม่ได้มาเป็นมิตร (มิตรคงไม่กราดยิงอีกฝ่ายแบบนี้) และฝั่งนั้นคงจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ฝ่ายร้ายอย่างแน่นอน ซึ่งนั่นคือหัวใจหลักของช่วงแรกใน Dr. Stone ซีซัน 4 ที่จะถูกแบ่งเป็น 3 ช่วง และนี่คือช่วงที่ 1 ของซีซัน 4 นั่นคือการต่อสู้กับนักวิทยาศาสตร์ชั่วร้ายของอเมริกานั่นเอง

ในฐานะของคนที่อ่านมังงะส่วนนี้มาแล้ว ก็บอกสั้น ๆ คำเดียวว่างานนี้สนุกแน่นอน เพราะอีกฝ่ายไม่ใช่เด็กเบียววิทยาศาสตร์แบบเซ็นคูแต่เขาเป็นถึง.... (ไม่บอกไปรอดูเอาเอง) ส่วนใครที่สนใจอยากดูอนิเมะ Dr. Stone ตั้งแต่ซีซัน 1 จนถึงตอนนี้ ทาง Netflix ก็มีฉายจนครบ ส่วนตอนใหม่ ๆ จะมาทุกวันพฤหัสไปรอติดตามกันได้ ส่วนตอนหน้าจะเป็นอย่างไรถ้าอนิเมะออกฉายเมื่อไหร่ เราจะรีบเอาเกร็ดที่น่าสนใจเหล่านั้นมาพูดถึงอีกแน่นอนติดตามเอาไว้ได้เลย