 - สำเนา-250130-145059.png?versionId=7arscmstKGlRkVF8DbIHNa48ae5NEUyB)
ดูเหมือน อาจารย์โอดะ จะไฟแรงในช่วงปลายปี พอมาต้นปีเราเลยได้อ่าน One Piece แบบ 3 อาทิตย์ติด ๆ กันเลยทีเดียว (ข่าวว่าอาทิตย์หน้าก็จะมีต่อ) โดยในตอนที่แล้วใน One Piece ตอนที่ 1137 นั้นเราได้เห็นชื่อและหน้าตาเต็ม ๆ ของชายปริศนาที่หน้าตาคล้าย แชงค์ส โดยชายคนนี้มีชื่อว่า ฟิการ์แลนด์ แชมร็อก ที่เป็นลูกชายของ เซนต์การ์ลิง หนึ่งในห้าผู้เฒ่า ซึ่งเป็นพวกเดียวกับเผ่ามังกรฟ้าที่ต้องการชวน เจ้าชายโลกิ ให้มาเป็นพวกของตน ขณะที่พวก ลูฟี่ ก็กำลังไปตามหากุญแจเพื่อหาทางช่วยเจ้าชายโลกิ เพื่อจะสอบถามเรื่องของแชงค์ส เรามาดูกันว่าในตอนที่ 1138 จะมีอะไรน่าสนใจบ้างมาดูไปพร้อมกันเลย
เปิดตอนมาก็จะต่อเนื่องจากตอนที่แล้วที่เจ้าชายโลกิซึ่งถูก กุนโกะ ผู้ใช้ผลปีศาจลูกศรอัดจนสลบไปก็ฟื้นขึ้นมา เมื่อโลกิตื่นขึ้นมาเขาก็เห็นแชมร็อกที่ถอดผ้าคลุมออกมา เจ้าชายโลกิจึงถามแชมร็อกด้วยความสงสัยว่า ตัวของแชมร็อกเกี่ยวอะไรกับโจรสลัด แชงค์สผมแดง โดยเจ้าชายโลกิพูดประมาณว่า "แชงค์สผมแดงที่เป็นโจรสลัดกับนายที่เป็นภาคีอัศวินเทพของเผ่ามังกรฟ้า ทั้งสองคนที่อยู่ต่างชั้นกันอย่างชัดเจนทำไมถึงมีความเกี่ยวข้องและมีหน้าตาเหมือนกันได้" ทางแชมร็อกยิ้มและบอกกับเจ้าชายโลกิว่า แชงค์สคือน้องชายฝาแฝดของเขาเองและยังบอกอีกว่า "ตั้งแต่ที่หมอนั่นเลือกเส้นทางการเป็นโจรสลัด มันก็เคยมาที่แมรีจัวส์ครั้งหนึ่ง แต่มันกลับเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ในโลกสกปรกเบื้องล่างนี้แทน" เจ้าชายโลกิยิ้มและพูดว่า "มันน่าสนุกดีจริง ๆ ที่ตอนนี้ข้ามีความแค้นกับชายที่หน้าเหมือนกันทั้งสองคน ขอสาบานว่าข้าผู้นี้จะแก้แค้นให้เหล่าสัตว์เลี้ยงของข้าที่เจ้าฆ่าไปทุกตัว"

ทางกุนโกะที่เห็นว่าต่อให้กระทืบจนตายเจ้าชายโลกิก็ไม่ยอมก้มหัวมาเป็นพวก จึงบอกให้แชมร็อกใช้ไม้แข็ง ทางแชมร็อกจึงชักดาบออกมาและบอกว่า คงต้องใช้ เซอร์เบอรัส เสียแล้ว ว่าแล้วก็มีหมาสามหัวออกมาจากดาบ โดยมันมีรูปร่างคล้ายซอมบี้และทั้งสามหัวก็คาบดาบอยู่ ทางกุนโกะก็ใช้พลังลูกธนูสร้างนกขนาดยักษ์ขึ้นมา แล้วลอยตัวขึ้นบนฟ้าไปบนหลังนกพร้อมแชมร็อก โดยทางแชมร็อกใช้พลังแปลงร่างเซอร์เบอรัสหมาสามหัวให้เป็นดาบขนาดใหญ่สามเล่มเหนือหัวเจ้าชายโลกิ พร้อมกับมองเจ้าชายโลกิด้วยสีหน้าแววตาดูถูกและบอกว่า "ถ้าแกรอดไปจากนี่ได้ อยากมาแก้แค้นก็ตามสบาย ฉันจะเป็นคู่ต่อสู้ให้เอง" พูดจบดาบทั้งสามเล่มก็แทงเข้าร่างของเจ้าชายโลกิอย่างจัง ตัดมาที่แชมร็อกพูดกับกุนโกะว่าแผนการใช้งานคนยักษ์ไม่สำเร็จ เปลี่ยนแผนไปเริ่มจากพวกเด็กยักษ์ก่อนก็แล้วกัน แชมร็อกบอกกับเหล่าอีกาที่บินวนรอบ ๆ ตัว

ตัดมาที่ทางลูฟี่ที่ตอนนี้เขารู้สึกโกรธมาก ๆ ที่ทราบเรื่องราวจากยามคนยักษ์ที่รอดชีวิตบอกว่า คนที่ทำร้ายเขาคือแชงค์สผมแดง แต่ลูฟี่ไม่เชื่อและบอกว่าคนอย่างแชงค์สไม่มีทางทำอะไรแบบนี้อย่างแน่นอน ส่วนนามิที่เห็นลูฟี่ของขึ้นก็หัวเราะออกมา และบอกว่านายดูจะของขึ้นกับเรื่องแค่นี้เองเนี้ยนะ ทางทหารยามคนยักษ์ที่ได้ยินแบบนั้นก็บอกว่า ไม่แน่ชายคนนั้นอาจจะเป็นคนหน้าเหมือนไม่ก็เป็นพี่น้องของแชงค์สก็ได้ ส่วนลูฟี่ได้ที่ได้ยินแบบนั้นเขาก็คิดภาพไม่ออก ว่าพี่น้องของแชงค์สจะเป็นอย่างไร เพราะลูฟี่ก็ไม่เคยได้ยินว่าแชงค์สมีพี่น้อง เพราะเท่าที่ลูฟี่รู้มาแชงค์สยู่บนเรือโจรสลัดมาตั้งแต่เด็ก ครอบครัวของเขาคงเป็นพวกพวกโรเจอร์ เรย์ลี่ ลูกเรือโรเจอร์ทั้งหมดนั่นแหละ แต่ยกเว้น เจ้าบาร์กี้ แต่ที่แน่ ๆ พี่น้องของแชงค์สต้องเป็นคนดีแน่ ๆ ระหว่างที่ลูฟี่พูดถึงครอบครัวของแชงค์ ภาพในตอนนั้นก็ตัดมาที่รูปของชายปริศนาที่กำลังนั่งดื่มเหล้ากับตาแก่ โครคัส และชายลึกลับคนนี้ก็กำลังเดินมายังปราสาทออรัสที่ประตูหลักแล้ว

ตัดฉากไปที่ แฟรงกี้ ที่กำลังอยู่กับ ริปลีย์ กำลังยืนดูภาพบนฝาผนังโบราณที่สลักอยู่บนต้นไม้ ริปลีย์บอกว่า "ฉันเชื่อว่านี่เป็นภาพวาดของเด็ก ๆ จากอดีต ที่ตอนนี้มันกลายเป็นฟอสซิลและหลอมรวมเข้ากับเปลือกไม้ ภาพจิตรกรรมฝาผนังนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างมาก จนถือเป็นหนึ่งในมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศนี้เลย มีการคาดการณ์ว่าภาพเหล่านี้ถูกวาดขึ้นเมื่อราว ๆ 800 ถึง 900 ปีก่อน ถ้านั่นเป็นเรื่องจริง ก็หมายความว่า คนที่วาดรูปนี้ (ยังไม่เห็นตัวรูป) น่าจะอยู่ในช่วงเวลาเดียวกับช่วง 100 ปีที่ว่างเปล่าแน่นอน" ทางแฟรงกี้ที่ยืนดูก็อึ้งอ้าปากค้าง โดยภาพบางส่วนจากจิตรกรรมฝาผนังคือรูป เจ้าหญิงเงือก หุ่นยนต์ที่ดูคล้าย เอเมธ และ สิ่งมีชีวิตที่มีหูแปลกประหลาด จนทั้งสองคนคิดว่าในอดีตน่าจะเคยมีสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ มาก่อน หรืออาจจะเป็นการรวมตัวกันระหว่างพันธมิตรเพื่อทำสงครามกับบางสิ่งก็ได้ แต่ทางริปลีย์ก็ไม่มั่นใจว่ามันหมายถึงอะไร

ตัดฉากไปที่หอสมุดนกฮูก เซาโล ได้หยิบหนังสือที่ชื่อว่า ฮาร์ลีย์ ซึ่งเป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของเอลบัฟออกมาเพื่อให้ โรบิ้น ดู โดยที่หน้าปกมีสัญลักษณ์พระอาทิตย์ ซึ่งเหมือนกับสัญลักษณ์ที่เราเคยเห็นในโบสถ์ของ คุมะ เซาโลอธิบายว่าในหนังสือมีการตีความเกี่ยวกับเทพแห่งดวงอาทิตย์อยู่มากมาย โดยตัวตำนานฮาร์ลีย์จะมีทั้งหมด 3 บท และแต่ละบทแสดงถึงหนึ่งโลก โดยหนังสือเล่มนี้เป็นบทที่สามคือโลกที่พวกเราอาศัยอยู่ในปัจจุบัน และตอนท้ายของบทนี้บอกล่วงหน้าถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น พอโรบิ้นรู้แบบนั้นเธอก็สนใจและมาอ่านมันทันที โดยในหน้าสุดท้ายจะเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังแบบเต็ม ๆ พร้อมกับข้อความจากคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ฮาร์ลีย์ที่โรบินกำลังอ่าน

ในส่วนนี้จะเป็นการอธิบายถึงภาพบนฝาผนังโบราณที่สลักอยู่บนต้นไม้ เริ่มจากด้านบนของต้นไม้มีอสูรหรือปีศาจที่มีปีกกำลังพ่นไฟออกจากปาก ด้านขวาของจิตรกรรมฝาผนังเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่กำลังถูกโจมตีโดยงูยักษ์ อีกฝั่งหนึ่งคือเรือยักษ์ที่มีกษัตริย์เทวทูตและสัตว์ต่าง ๆ อยู่บนเรือ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนที่กำลังถวายเครื่องบูชาดวงจันทร์ ทางด้านซ้ายของจิตรกรรมเป็นภาพสงครามครั้งใหญ่ มีภาพที่คล้าย เทพนิกะ หรือ จอยบอย กำลังต่อสู้กับปีศาจมีปีกขนาดใหญ่ที่ถือดวงอาทิตย์ไว้ในมือ โดยในรูปเทพนิกะไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง เพราะข้างกายเขามีพันธมิตรจากเผ่าต่าง ๆ มาร่วมสู้ไม่ว่าจะเป็น ยักษ์ ซามูไร ลูนาเรียน เผ่ามิงค์ เจ้าหญิงเงือก พร้อมเหล่าสัตว์ทะเล เทวทูต และหุ่นยนต์ที่คล้ายกับ เอเมธ และกองเรือมนุษย์จำนวนมาก

อีกส่วนคือการอธิบายถึงคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ฮาร์ลีย์ว่า โลกแรก บนโลกมีแต่เปลวเพลิงมนุษย์ที่ถูกความโลภครอบงำได้แตะต้องดวงอาทิตย์ต้องห้าม ผู้ถูกกดขี่สวดภาวนาเทพแห่งดวงอาทิตย์ปรากฏตัว เทพแห่งผืนโลกโกรธ พร้อมกับอสรพิษแห่งเพลิงนรก พวกเขาได้กลืนกินโลกด้วยความตายและความมืดมิด พวกเขาไม่อาจพบกันอีกได้
โลกที่สอง ในความว่างเปล่ายังมีเสียงลมหายใจ เทพแห่งพงไพรได้ส่งอสูรออกไป ดวงอาทิตย์ไม่ได้นำสิ่งใดมา นอกจากการหว่านเมล็ดแห่งสงคราม เหล่าพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวได้เห็นความฝัน ผู้คนแห่งดวงจันทร์ได้เห็นความฝัน มนุษย์กลายเป็นเทพเจ้าหลังจากล้มล้างดวงอาทิตย์ เทพแห่งท้องทะเลอาละวาด พวกเขาไม่อาจพบกันอีกได้
โลกที่สาม ในความโกลาหลมีความว่างเปล่าผู้คนจดจำเงามืดที่ทุกข์ทรมานได้ วันแห่งพันธสัญญาและเสียงของดวงจันทร์ที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ เทพแห่งดวงอาทิตย์เต้นรำและหัวเราะนำพาโลกไปสู่จุดจบ ดวงอาทิตย์จะหวนคืนมา และรุ่งอรุณใหม่จะมาถึงพวกเขาจะได้พบกันอีกครั้ง จบตอน....

อ่านมาถึงตรงนี้รู้สึกเหมือนถูกทิ้งระเบิดลงมาจากอาจารย์ผู้เขียนเลยทีเดียว เพราะมันทำให้เราคนอ่านพอจะเดาได้ว่า่ตอนจบของ One Piece จะมาแบบไหน ซึ่งเอาจริง ๆ อาจารย์โอดะก็เคยบอกแง้ม ๆ กับเราแล้วว่าตอนจบของ One Piece จะเป็นการฉลองของพวกลูฟี่ที่ปกป้องโลกได้ แต่ระหว่างทางนั้นจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งนี่ก็คือคำตอบของคำถามนั้น ที่เหลือต่อจากนี้เราต้องมารอดูว่าสัตว์ร้ายที่รูปบนฝาผนังบอกจะมีใครบ้าง และจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปมารอลุ้นรอดูในตอนต่อไปอาทิตย์หน้ากับสปอยล์ One Piece ตอนที่ 1139 ติดตามเอาไว้ได้เลย