
คุณผู้อ่านรู้จักรายการทีวีที่ชื่อว่า จ้อจี้ ไหม ถ้าใครที่ไม่รู้จักหรือจำไม่ได้ รายการนี้จะเป็นการนำเสนอเรื่องสั้นแปลก ๆ ฮา ๆ หลายเรื่องและถามคนดูว่าเรื่องแปลก ๆ ที่เราได้ดูนั้นมันคือเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง มันเลยเกิดเป็นวลีของบ้านเราที่พอเจอเรื่องแปลก ๆ ที่กำกวมไม่รู้ว่ามันคือเรื่องจริงหรือหลอก เราก็มักจะใช้คำว่าเรื่องจริงหรือจ้อจี้ เหมือนอย่างในกรณีของหนุ่มคนนี้ที่ลงเรื่องราวใน Reddit เกี่ยวกับเรื่องราวแปลก ๆ ที่ตัวเองเจอมาตอนสั่งซื้อเครื่อง PlayStation 5 จาก Amazon แต่สิ่งที่เขาได้มาคือเครื่อง PlayStation 3 ในกล่อง PlayStation 4 ที่อยู่ภายในกล่อง PlayStation 5 อีกที (ใครงงกลับไปอ่านอีกครั้งจะงงกว่าเดิม)
Amazon India is a Fraud
byu/Imcheeku inindia
โดยเรื่องราวดังกล่าวมาจากผู้ใช้ Reddit นามว่า u/Imcheeku ได้แชร์เรื่องราวตนเองบน subreddit r/India เกี่ยวกับการซื้อเครื่อง PlayStation 5 ผ่านทาง Amazon แต่ได้ PlayStation 3 มา เขากล่าวว่า "ผมสั่ง PlayStation 5 (รุ่น Slim) จาก Amazon เมื่อวันที่ 5 มกราคม ซึ่งได้รับสินค้าในวันที่ 7 มกราคม สภาพกล่องแย่มาก และวันที่ผลิตสินค้าคือเดือนพฤศจิกายน 2023 ผมจึงโทรไปที่ฝ่ายบริการลูกค้าทันทีเพื่อกำหนดเวลาคืนสินค้า จนเมื่อถึงวันที่ 15 มกราคมเมื่อพนักงานมารับสินค้า เขาเปิดกล่องต่อหน้าผมเป็นครั้งแรก และเมื่อเขาเปิดกล่อง กล่องกลับมี PS3 เก่า ๆ และมีตำหนิแทนที่จะเป็น PlayStation 5 ที่สั่งไป
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่มารับสินค้าตามคำสั่งซื้อ ผมต้องคุยกับพวกเขาหลายครั้ง หลังจากนั้นพวกเขาก็กำหนดเวลาให้มารับสินค้า และหลังจากที่รับสินค้าเสร็จเมื่อวานนี้ ผมได้ทราบว่าพวกเขาระงับการคืนเงิน เนื่องจากตามที่พวกเขาบอก พวกเขาส่งสินค้าที่ถูกต้องและไม่คืนเงินให้ผม แม้ว่าผมจะให้รูปภาพจากวันที่จัดส่งและรับสินค้าแก่พวกเขา พร้อมกับรูปถ่ายพนักงานส่งของที่เปิดกล่องครั้งแรก ผมกำลังเพิ่มรูปภาพทั้งหมดที่มีตั้งแต่วันที่จัดส่ง ถึงวันที่พนักงานส่งของมารับและเปิดกล่อง ตอนนี้พวกเขากลับบอกว่าไม่สามารถสัญญาว่าจะคืนเงินให้ได้ ปล. ความผิดของผมเพียงอย่างเดียวคือผมตกใจเมื่อเห็นกล่องและไม่ได้เปิดมันทันที แต่รอให้พนักงานส่งของมาเปิดมันให้"

หลังจากที่คุณอ่านมาทั้งหมดคุณคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ หนึ่งมันคือเรื่องจริงที่คนขายอาจจะเนียลเอาเครื่อง PlayStation 3 มาหลอกขายชายคนนี้ เพราะทาง Amazon เป็นเพียงตัวกลางในการวางขายไม่ใช่คนขายสินค้านี้ ทาง Amazon จึงไม่รู้เรื่องการโกงนี้ ขณะที่คนซื้อก็บอกว่าตนเองมีหลักฐานตอนรับสินค้าและถ่ายรูปไว้หมด แต่สิ่งที่เขาพลาดคือตนเองไม่ได้แกะสินค้าก่อน แต่ให้พนักงานเป็นคนแกะไปเพร้อม ๆ กัน กับสองมันคือเรื่องจ้อจี้ที่คนซื้อต้องการตบตา Amazon เพื่อขอเงินคืนโดยได้ทั้ง PlayStation 5 และได้เงินคืน โดยตนเองเป็นคนแพ็คสินค้าใหม่โดยเอาเครื่อง PlayStation 3 มาใส่ในกล่อง PlayStation 4 และเอากล่องนี้ไปยัดใส่กล่อง PlayStation 5 อีกที แล้วทำตัวเหมือนว่าตัวเองเป็นผู้เสียหาย แต่ทาง Amazon จับได้เลยไม่ยอมคืนเงิน พี่แกเลยมาโวยใน Reddit

มาดูชาว Reddit กันบ้างว่าคิดยังไงกับเรื่องนี้บางคนแซวว่า "ลองเปิดไดรฟ์ดิสก์ดูอาจจะพบเกม Tomb Raider Anniversary ซึ่งเป็นเกมรีมาสเตอร์บน PS2 ของเกม PS1 ก็ได้" อันนี้เน้นมุก บางคนแซวว่า "พรี่ได้ของแรร์แล้ว" บางคนก็ให้สาระบอกว่า "การฉ้อโกงส่วนใหญ่มักกระทำโดยพนักงานส่งของ และคนงานในคลังสินค้า คนเหล่านี้รู้ช่องโหว่และแนวทางแก้ไขของกลไกของ Amazon/Flipkart เป็นอย่างดี พวกเขามุ่งเป้าไปที่คำสั่งซื้อที่ชำระเงินออนไลน์เป็นหลัก" อันนี้น่าเชื่อถือ บางคนก็บอกว่าทาง Amazon ผิดเพราะไม่ค่อยรับผิดชอบเรื่องเหล่านี้พร้อมเล่าประสบการณ์ที่เจอมา
แต่ก็มีคนหนึ่งมาตอบที่ค่อนข้างมีเหตผลบอกว่า "นี่ไม่ใช่การกระทำของ Amazon เป็นไปได้มากที่สุดว่าลูกค้าที่ฉ้อโกงซื้อ PS5 และส่งคืนคำสั่งซื้อพร้อมกับ PS3 เครื่องเก่าของเขา กล่องดังกล่าวมาถึงคลังสินค้าของ Amazon Fulfillment และถูกเพิ่มกลับเข้าไปในคลังสินค้าและส่งอีกครั้งสำหรับคำสั่งซื้อของ OP พนักงานคลังสินค้า โดยจุดน่าสงสัยก็คือคนซื้อไม่ได้ถ่ายวิดีโอตอนเปิดกล่องสินค้า แต่มาเปิดต่อหน้าพนักงานมันเลยดูแปลก ๆ พอเป็นแบบนี้มันเลยตรงกับนโยบายการคืนสินค้าของ Amazon ที่จะไม่คืนเงินให้ที่ทำเรื่องแบบนี้" สำหรับคนที่ไม่รู้ทาง Amazon มีบริการ Amazon Fulfillment ที่ทางคนขายสามารถสั่งให้ส่งสินค้าไปทาง Amazon เพื่อเช็คสินค้าว่าจริงไหมถูกต้องรึเปล่าก่อนส่งให้ลูกค้า แต่บางคนก็แย้งว่ามันน่าจะมีช่องโหว่ตรงนี้ละ ซึ่งทางคนซื้อก็ไม่ได้บอกว่าตนเองใช้บริการ Amazon Fulfillment นี้รึเปล่า มันเลยเป็นช่องว่าในการสืบสวน

มาถึงตรงนี้เรื่องราวก็เงียบหายไปไม่มีการตอบโต้หรือพูดถึงความคืบหน้าใด ๆ ของทั้งคนซื้อคนขายรวมถึงทาง Amazon ว่าจะคืนเงินให้ไหมแล้วคนซื้อไปร้องเรียนตามที่มีคนบอกรึเปล่า ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันคือเรื่องจ้อจี้หรือเรื่องจริง แต่ที่รู้ ๆ ก็คือถ้าจะซื้อของราคาแพงแบบนี้ควรซื้อของจากร้านที่น่าเชื่อถือหรือนับรับสินค้ากับมือจะดีที่สุด โดยเฉพาะร้านขายที่พอมีปัญหาจะได้แก้ไขได้