
วันเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก รู้สึกตัวอีกทีเครื่องเกมเก่า ๆ ที่เราเคยเล่นเคยสนุกเมื่อครั้งอดีตก็กลายเป็นแค่ของสะสมที่ถูกทิ้งฝุ่นจับอยู่ในตู้ รอคอยให้เราที่เป็นเจ้าของกลับมาเปิดเล่นและสนุกกับมันอีกครั้ง หนึ่งในนั้นคือเครื่องเกมพกพาอย่าง Nintendo 3DS ที่ในอดีตเครื่องเกมตัวนี้เคยสร้างกระแสทั้งแง่บวกและแง่ลบให้กับแฟน ๆ จนหลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เครื่อง Nintendo 3DS เป็นทั้งเครื่องที่ประสบความสำเร็จแต่ก็สร้างรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ให้ Nintendo อีกด้วย และวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2011 ก็ครบครบรอบ 14 ปีวันวางจำหน่าย Nintendo 3DS เรามาย้อนอดีตดูเรื่องราวของเครื่องเกมนี้กันว่ามันมีอะไรน่าสนใจกันบ้าง มาดูไปพร้อมกันเลย
ย้อนกลับไปในอดีตทาง Nintendo มีความฝันอย่างทำเครื่องเกม 3D มาตลอด จึงเริ่มทดลองใช้เทคโนโลยีวิดีโอเกมสามมิติแบบสเตอริโอสโคปิกในช่วงทศวรรษ 1980 ในระบบ Famicom 3D ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมที่ประกอบด้วยแว่นชัตเตอร์คริสตัลเหลว และเกมที่รองรับซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แรกของ Nintendo ที่ทำให้สามารถสร้างเอฟเฟกต์สามมิติแบบสเตอริโอสโคปิกได้ และหนึ่งในเกมที่น่าสนใจของ Nintendo ก็คือเกม Famicom Grand Prix II 3D Hot Rally ซึ่งได้รับการพัฒนาระหว่าง Nintendo กับ HAL Laboratory ที่วางจำหน่ายในปี 1988 บนระบบ Famicom 3D แต่น่าเสียดายที่ตัวอุปกรณ์เสริมและเกม 3D นี้ไม่ได้รับความสนใจจากตลาด ขนาดที่ว่าตัวเกมและอุปกรณ์เสริม Famicom 3D ไม่เคยวางจำหน่ายนอกประเทศญี่ปุ่นเลยด้วยซ้ำ นอกจากนี้ทาง Nintendo ยังทำเครื่อง Virtual Boy และบางเกมของเครื่อง GameCube ที่เป็นเกม 3D ทะลุหรือลึกลงไปในจอออกมาอีก 2 ครั้ง จนมาถึง Nintendo 3DS ในที่สุด

ในส่วนของตัวเครื่อง Nintendo 3DS เป็นเครื่องเล่นเกมพกพาหน้าจอคู่ฝาพับ ที่ผลิตโดย Nintendo ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมีนาคม 2010 โดยเป็นรุ่นพัฒนาต่อจาก Nintendo DS ที่ประสบความสำเร็จอย่างถล่มถลาย โดยคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของ Nintendo 3DS คือความสามารถในการแสดงภาพสามมิติแบบสเตอริโอสโคปิก ที่ไม่ต้องใช้แว่นสามมิติหรืออุปกรณ์เสริมแต่อย่างใด โดยตัวเครื่องนั้นเริ่มพัฒนาในช่วงปลายปี 2009 ในเวลานั้น Nintendo เป็นเจ้าของตลาดเกมพกพามากถึง 68.3% ในเดือนตุลาคม 2009 แท็บลอยด์เทคโนโลยี Bright Side of News รายงานว่า Nvidia ซึ่งเป็นผู้พัฒนาหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ที่เพิ่งประสบความสำเร็จด้วยโปรเซสเซอร์ Tegra System-on-Chip ได้รับการคัดเลือกจาก Nintendo ให้พัฒนาฮาร์ดแวร์สำหรับคอนโซลเกมพกพารุ่นต่อไป นั่นคือจุดเริ่มต้นของ Nintendo 3DS
ตัวเครื่อง Nintendo 3DS เปิดตัวอย่างสวยงาม แต่มาพร้อมราคาที่แพงหูฉีกที่สูงถึง 249.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว ๆ 8,430.54 บาท ซึ่งมันดูแพงเกินไปเมื่อเทียบกับการเป็นแค่เกมพกพา ไม่ใช่เครื่องคอนโซลขนาดใหญ่ที่ไม่ควรแพงขนาดนี้ ซึ่งทาง Nintendo ก็มั่นอกมั่นใจตะโกนออกมาดัง ๆ ว่า มันต้องขายได้ซิ !!! ขายได้แน่ ๆ !! ขายได้แหละ ! ขายไม่ค่อยออกเลย ลดราคาก็ได้.. จนเหลือ 169.99 ดอลลาร์สหรัฐหรือ 5,733 บาท จนคนที่ซื้อไปก่อนเริ่มโวยวาย ทาง Nintendo เลยปลอบใจด้วยการเอาเกมเก่า ๆ ของตัวเองที่จะวางขายใน Nintendo eShop มาแจกฟรีสิบเกม โดยเป็นเกม Famicom สิบเกม และจาก Game Boy Advance อีกสิบเกม จนตัวเครื่องค่อย ๆ ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าตามที่ Nintendo หมายมั่นปั้นหม้อเอาไว้ แต่ Nintendo ก็ต้องขาดทุนยับเยินกับการแบกราคาเครื่องที่ลดลง แต่ก็คุ้มค่าสำหรับการเฉือนเนื้อตัวเอง เพราะดันไปมั่นหน้ามั่นโหนกเกินไปในตอนนั้น
จนถึงตอนนี้ตระกูล Nintendo 3DS รวมกันมียอดขาย 75.94 ล้านเครื่อง และมีหลายรุ่นออกมามากมายให้เราได้หามาเป็นเจ้าของ ใครที่สนใจก็ลองไปหาตามร้านค้ามือสองดูราคาแล้วแต่ที่จะวางขาย โดยเฉพาะรุ่นแรกสุดมีขายอยู่เยอะพอสมควรเลย ส่วนรุ่นที่ราคาแพงสุดคือรุ่น Nintendo 2DS ทั้งแบบพับได้และพับไม่ได้ เพราะในตอนที่เครื่องตัวนี้ออกมาคนไม่ค่อยสนใจ (คนพูดไปทางเดียวกันว่า ใครมันอยากจะเครื่องเครื่องที่ 3D ที่เป็น 2D กัน) และเมื่อทาง Nintendo เลิกผลิตตระกูล Nintendo 3DS และ 2DS ทั้งหมดเครื่อง Nintendo 2DS เลยมีราคาที่สูงใครมีเก็บไว้ดี ๆ ราคาน่าจะขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนตลับเกมก็มีขายมากมายใครชอบเกมเก่าแนะนำให้ไปหามาสะสมดู และเห็นแบบนี้เครื่องอึดถึกทนแบบสุด ๆ แล้วคุณจะรู้ว่า Nintendo คือราชาแห่งเกมพกพาจริง ๆ