
จบไปเป็นที่เรียบร้อยกับซีรีส์ลูกแก้วมังกรในดินแดนแปีศาจอย่าง Dragon Ball Daima ที่ถือเป็นซีรีส์ภาคพิเศษตอนสุดท้ายที่อาจารย์ โทริยาม่า อากิระ ผู้วาด Dragon Ball มีส่วนร่วมในงานนี้ ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในวันที่ 1 มีนาคม 2024 ซึ่งในตอนสุดท้ายของ Dragon Ball Daima ก็ฉายวันที่ 1 มีนาคม 2025 ครบ 1 ปีการจากไปของอาจารย์แกพอดี และเมื่ออนิเมะ Dragon Ball Daima mujเดินทางมาครบ 20 ตอนจบภาคแบบนี้ เราเลยขอหยิบเรื่องราวของ Dragon Ball Daima ภาคนี้มารีวิวให้ทุกคนได้อ่านกัน เพื่อใครที่สนใจอยากไปหามาดูจะได้รู้ว่ามันดีหรือแย่แค่ไหน มาอ่านมาดูไปพร้อม ๆ กันได้เลย
เรื่องราวของ Dragon Ball Daima จะเป็นเรื่องราวในจักรวาลหลักของซีรีส์ Dragon Ball ซึ่งสำหรับคนที่ไม่ทราบ เรื่องราวในจักรวาล Dragon Ball นั้นถูกสร้างมาเยอะมาก ๆ บางภาคก็ถูกนับเป็นจักรวาลหลัก บางภาคก็บอกว่ามันคือโลกขู่ขนาน อย่าง Dragon Ball GT ที่ตอนนี้ถูกนับว่าเป็นเรื่องราวจักรวาลคู่ขนานไปแล้ว ส่วน Dragon Ball Daima จะถูกจัดอยู่เป็นจักรวาลหลักแทน Dragon Ball GT โดยเรื่องราวใน Dragon Ball Daima จะเล่าหลังจากจบการต่อสู้กับ จอมมารบู ไปไม่กี่เดือน ในตอนนั้นฝั่งโลกปีศาจที่มี ราชาปีศาจ โกมาร์ ราชาปีศาจคนใหม่ที่มาแทน ราชาปีศาจดาบูร่า ที่ถูกจอมมารบูกินไป ก็เริ่มหวาดกลัวพวก โกคู ว่าพวกนี้จะมาที่โลกปีศาจ ทางราชาปีศาจโกมาร์เลยตัดไฟตั้งแต่ต้นลม แอบไปขอพรดราก้อนบอลบนโลก โดยขอให้ทุกคนที่เกี่ยวกับจอมมารบูกลายเป็นเด็กให้หมด

พอกลายเป็นเด็กก็มีชายหนุ่มจากโลกปีศาจนามว่า กลอริโอ้ มาที่วังของพระเจ้าบอกว่าที่โลกปีศาจมีดราก้อนบอลอยู่ สามารถขอพรให้คืนร่างเป็นผู้ใหญ่ได้ (ดราก้อนบอลบนโลกที่ขอพรไปแล้วต้องรอ 1 ปีจึงจะขอใหม่ได้) การเดินทางมาโลกปีศาจจึงเริ่มต้นขึ้น โดยโกคูที่จู่ ๆ ก็ตัวหดเล็กลงเลยไปเอากระบองวิเศษมาใช้เพื่อชดเชยช่วงแขนขาที่สั้นลง โดยช่วงแรกของเรื่อง จะเป็นการบอกเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกปีศาจให้เราได้รู้ อย่างพวกที่หูแหลม ๆ จะเป็นปีศาจทั้งหมด รวมถึง ท่านไคโอชิน ก็เป็นหนึ่งในคนของโลกปีศาจ รวมถึง มิสเตอร์โปโป ก็เป็นปีศาจเช่นกัน นอกจากนี้ยังบอกเล่าถึงชาวนาเม็กว่าก็เป็นคนของโลกปีศาจ ที่อพยบออกมาจากโลกปีศาจมายังโลกปกติ รวมถึงเรื่องราวการกำเนิดจักรวาล ที่มีโลกปีศาจเป็นแกนกลางซึ่งเป็นการขยายเนื้อเรื่องของจักรวาล Dragon Ball ให้มั่วมากขึ้นไปอีก ที่ถ้าให้อธิบายคงจะงงและมั่วจนจับต้นชนปลายไม่ถูกเลยทีเดียว

เริ่มจากข้อดีกันก่อน ใน Dragon Ball Daima เราจะได้เห็นสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่เคยเห็นในซีรีส์หลัก ซึ่งนั่นคือเรื่องดีเพียงไม่กี่อย่างของซีรีส์นี้ ยกตัวอย่าง เราจะได้เห็น เบจิต้า ร่างเด็กที่สามารถแปลงร่างเป็น ซูเปอร์ไซย่า 3 ได้ รวมถึงโกคูที่สามารถแปลงร่างเป็นลิงแดงแบบในภาค Dragon Ball GT ได้อีกด้วย นอกจากนี้เรายังได้รู้ถึงชาติกำเนิดของจอมมารบูว่าจริง ๆ แล้ว บิบิดี้ พ่อของ บาบิดี้ ไม่ได้เป็นคนสร้างจอมมารบู แต่เป็นปีศาจอีกตนที่สร้างขึ้นมา และเรายังได้รู้ถึงชาติกำเนิดของชาวนาเม็ก ไปจนถึงตัวของท่านไคโอชิน ที่บางอันมันก็โอเคแหละที่มี แค่หลายอย่างมันก็ขัดกับ Dragon Ball Super จนเหมือนกับว่าคนที่คิดเนื้อเรื่อง Dragon Ball Daima ไม่เคยดู Dragon Ball Super หรือดูแต่ไม่สนใจฉันจะเอาแบบนี้ ซึ่งข้อดีที่มีมันก็กลบข้อเสียได้ไม่ครบอยู่ดี

มาต่อกันที่เนื้อเรื่องที่บอกเลยว่าอืดชวนหลับไป 10 รอบมาก ๆ ตอนดู เพราะตั้งแต่ที่โกคูมาโลกปีศาจ ตัวเรื่องพยายามจะเอาความรู้สึกแบบ Dragon Ball ยุคแรก ๆ กับ Dragon Ball GT กลับมา โดยการเดินเท้าไปเจอเรื่องราวต่าง ๆ ที่บอกเลยว่าไม่สนุกไม่น่าสนใจแถมเนื้อเรื่องก็อืด จะมีให้ตื่นเต้นก็ตอนที่โกคูแปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่าออกสู้ นอกนั้นก็มีแค่ โกคูบ่นหิว โกคูกิน โกคูอึ โกคูนอน แล้วก็มา โกคูบ่นหิว โกคูกิน โกคูอึ แล้วก็โกคูนอน สลับไปสลับมาเท่านี้จริง ๆ ขณะที่ฝั่งตัวร้ายก็มีการปูถึงเศษชิ้นส่วนจามมาบูที่เอามาสร้างเป็นจอมมารตัวใหม่ ที่น่าจะแข็งแกร่งจนออกมาเป็น จอมมาคู กับ จอมมาดู ที่หลายคนบ่นว่าจะมีมาเพื่อ แถมหลายคนก็ลุ้นว่าการเอาเศษเสี้ยวจอมมารบูมาสร้างเป็นจอมมารตัวใหม่มันควรจะน่าเกรงขาม แต่ที่ไหนได้กลับออกมาดูไม่เท่ดูตลกเสียอย่างนั้น เหมือนคนคิดเนื้อเรื่องตั้งใจให้เด็ก ๆ ดูมากกว่าแฟน ๆ Dragon Ball ดูเสียอย่างนั้น

สรุป Dragon Ball Daima จัดเป็นเรื่องสุดท้ายของอาจารย์ โทริยาม่ามีส่วนร่วมเป็นเรื่องสุดท้าย ซึ่งก่อนที่แกจะเสียแกก็เคยโปรโมทเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน และถ้าให้คะแนนความสนุกของ Dragon Ball Daima ก็คงจะอยู่ที่ 4.9 ได้ (นี่ถือว่าให้เยอะแล้วนะ) เพราะเนื้อเรื่องที่อืดเนื้อหาออกไปทางเด็ก ๆ ไม่ค่อยมีความรุนแรงไม่สนุกสะใจแบบที่แฟน Dragon Ball ต้องการ จะมีดีก็แค่เซอร์ไพรส์เบจิต้ากับโกคูในร่างซูเปอร์ไซย่า 3 กับโกคูร่างเด็กที่แปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่า 4 ที่ดูแล้วรู้เลยว่านี่คือการขายของเล่น กับเนื้อเรื่องที่น่าจะมาอุดช่องว่างใน Dragon Ball Super กลับมาเป็นการขยายช่องว่างเพิ่มเสียอย่างนั้น

อ่านมาถึงตรงนี้ถ้าคุณไม่ใช่แฟน Dragon Ball ไม่ต้องไปดูก็ได้เสียเวลาเปล่า ๆ (อันนี้พูดจากใจแฟน Dragon Ball) เพราะตอนนี้คุณน่าจะรู้แล้วว่าในเรื่องมันมีอะไรไม่มีอะไรบ้าง ซึ่งมันก็มีดีแค่นั้นจริง ๆ ในส่วนของเนื้อหายิ่งดูจะยิ่งขัดใจดูไปจะเสียความรู้สึกเปล่า ๆ แต่ถ้าคุณต้องการไว้อาลัยให้กับอาจารย์โทริยาม่าหรือเป็นแฟน Dragon Ball ก็ลองไปหามาดูได้ที่ Netflix มีฉายครบทุกตอนแล้วไปไล่ดูได้เลย พอดูจบแล้วคุณจะให้คะแนน Dragon Ball Daima ภาคนี้เต็ม 10 ให้เท่าไหร่ มาลองคิดในใจหลังดูจบกัน