 - สำเนา-250320-151200.png?versionId=LMY_wckrs2g1PyyLj4RUEir76TDGNjMz)
หลังจากที่ห่างหายไป 1 อาทิตย์เพื่อให้อาจารย์ โอดะ ได้ไปพักผ่อน One Piece ตอนที่ 1143 ก็มาถึงเป็นที่เรียบร้อยเพราะถ้าใครจำได้ในตอนที่ 1142 เป็นหนึ่งในตอนที่จบได้ค้างคาและจี๊ดใจคนอ่านแบบสุด ๆ เพราะในตอนนี้ทั้งฝ่ายคนยักษ์ในโรงเรียนก็ถูกเหล่าอัศวินเทพ ที่ต้องการลักพาตัวพวกเด็ก ๆ คนยักษ์ก็ได้สร้างความวุ่นวายด้วยพลังของผลปีศาจ ที่ทำให้ความหวาดกลัวของผู้คนเกิดเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้ เพื่อดึงดูดความสนใจของเหล่าคนยักษ์ให้มาที่โรงเรียน ขณะที่อีกด้านหนึ่งเจ้าชายโลกิที่ได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากการถูกจองจำก็ได้ใช้อาวุธคู่ใจสร้างความวุ่นวายทันที เรียกว่าเกิดศึก 2 ด้านกันเลยทีเดียว เรามาดูกันว่า One Piece ตอนที่ 1143 จะมีอะไรน่าสนใจกันบ้างมาดูไปพร้อมกันเลย

เปิดเรื่องมาจะอยู่ที่โรงเรียนวอรัสที่ตอนนี้กำลังเกิดความวุ่นวาย เพราะจู่ ๆ ก็มีสัตว์ประหลาดหน้าตาน่ากลัวที่เหมือนหลุดมาจากภาพวาดของเด็ก ๆ ที่เคยวาดเอาไว้มีชีวิต ขณะที่เด็กบางส่วนก็เดินละเมอไปตามลูกศรที่ด้วยฝีมือของ กุนโกะ ขณะที่ เซาโล ที่เห็นเด็กยักษ์กำลังเดินละเมออยู่เขาก็รีบจะไปคว้าตัวเด็กเหล่านั้นมา แต่เซาโลก็ไม่สามารถจับตัวเด็กคนนั้นได้ เพราะเด็กคนนี้ถูกปกป้องด้วยเถ้าวัลย์หนามที่มองไม่เห็นอยู่รอบ ๆ ตัวเด็ก ๆ ขณะที่ตัวของเซาโลก็ไม่รู้ว่าตนเองนั้นถูกอะไรทำร้าย โดยในตอนนี้ โรบิ้น กับ ช็อปเปอร์ ก็พยายามช่วยเหลือและดูเหตุการณ์ทุกอย่างด้วยความสงสัย ขณะที่ในโรงเรียนก็กำลังเกิดความวุ่นวาย

อีกด้นหนึ่งไฟที่เกิดจากพลังสายฟ้าของ เจ้าชายโลกิ ก็เริ่มลุกไหม้ลามไปทั่ว จนเหล่าคนยักษ์บางส่วนต้องรีบมาช่วยกันดับไฟ บางส่วนก็ต้องต่อสู้กับสัตว์ประหลาดที่มีมากมาย โดยทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้คนในงานเลี้ยงต่างก็ส่างเมาและไปช่วยกันจัดการทุกอย่าง ขณะที่ นามิ จินเบ และคนอื่น ๆ ที่เป็นเพียงคนตัวเล็ก ๆ ก็ทำได้แค่ยืนมองสิ่งที่เกิดขึ้นโดยที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้

ตัดมาที่เหล่าอัศวินเทพทั้ง 3 ที่หลังจากสร้างความวุ่นวายเรียบร้อยด้วยพลังผลปีศาจของตน ทั้งหมดก็มานั่งกินอาหารกันอย่างชิว ๆ ระหว่างที่กำลังทานอาหาร ซัมเมอร์ส หนึ่งในอัศวินเทพก็พูดขึ้นมาว่า พวกนั้นคงจะตกใจน่าดูเมื่อโดนหนามจากเถ้าวัลย์ของเขา พร้อมกับพูดเชิงเปรียบเทียบว่า คนเราทุกคนต่างก็มีหนามแหลมเอาไว้ทิ่มแทงคนที่เรารัก หรือไม่ก็ผู้คนรอบข้างกันทุกคน แต่กุนโกะตอบเพียงสั้น ๆ ว่าตนเองไม่สนใจเรื่องพวกนี้ เซ็นต์ซัมเมอร์สจึงพูดต่อว่า คนเราทุกคนต่างต้องมีความรัก และเมื่อมีความรักเราก็ต้องทนกอดหนามแหลม ๆ นั่นเอาไว้ ก็เหมือนกับเกมที่พ่อแม่ลูกต้องเจอมันไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้อีกแล้ว พ่อแม่ต้องคอยดูแลเด็กที่เป็นลูกของตัวเอง และต่อให้พ่อแม่จะดูแลลูกขนาดไหน เด็กเหล่านั้นก็ต้องพบเจอกับฝันร้ายในชีวิต อย่างเด็กเหล่านี้ที่ต้องยืนดูพ่อแม่ตายต่อหน้าต่อตาโดยทีี่ไม่สามารถทำอะไรได้ ทำได้แค่เพียงกรีดร้องออกมา ซึ่งเราจะเป็นผู้สร้างสิ่งนั้นออกมาเพื่อบอกให้ทุกคนได้รับรู้

และในระหว่างที่เซ็นต์ซัมเมอร์สกำลังพูด ที่ขาและแขนของเขาก็มีเถาวัลย์หนามมาพันอยู่ พร้อมกับคำบรรยายที่บอกว่า ผลเถาวัลย์ (ดอกไม้หนาม) หรือผล อิบา อิบา พลังคือสามารถสร้างเถาวัลย์มารัดตัวเป้าหมายได้ ยิ่งเป้าหมายมีความรักมากเท่าใดความเสียหายก็จะมากขึ้น นั่นก็หมายความว่ายิ่งคนที่ห่วงเด็ก ๆ เข้าไปช่วยก็จะยิ่งโดนทำร้ายหนัก เหมือนดั่งหนามแห่งความรักที่ทิ่มแทงอีกฝ่าย เมื่อบวกกับพลังของกุนโกะที่เป็นลูกศรชี้ทางนำเด็ก ๆ ที่กำลังเดินละเมอ จึงทำให้ไม่มีคนยักษ์คนไหนสามารถช่วยเด็ก ๆ เหล่านี้ได้เลย

ทางด้าน กิลลิงแฮม (คนที่มีหัวกิเลน) ที่กำลังนั่งทานอาหารก็พูดขึ้นมาว่าไม่มีเกลือ โดยในตอนนั้นกิลลิงแฮมก็พูดเรื่องนี้กับเซ็นต์ซัมเมอร์สเพื่อให้เขาคิดถึงเกลือ พอกิลลิงแฮมพูดจบเซ็นต์ซัมเมอร์สก็หลับไปในทันที พร้อมกับมีเมฆขึ้นมาบนหัวของเซ็นต์ซัมเมอร์สที่ปรากฏเป็นขวดเกลือให้กิลลิงแฮมเอามาใช้ พร้อมกับคำบรรยายที่บอกว่า ผลปีศาจของกิลลิงแฮมคือผลปีศาจสายโซออนในตำนาน ชื่อผล ริว ริว หรือ ผลกิเลน ในส่วนของพลังของผลนี้คือการทำให้เป้าหมายหลับไหล และยังสามารถทำให้ทุก ๆ สิ่งที่เป้าหมายฝันปรากฏในโลกความเป็นจริง นั่นจึงเป็นการตอบคำถามเกี่ยวกับเหล่าปีศาจที่ออกมาสร้างความวุ่นวายตอนนี้ได้เป็นอย่างดี

ระหว่างโรยเกลือกิลลิงแฮมที่เห็นกุนโกะกำลังทานอาหารอย่างอร่อย กิลลิงแฮมก็บอกกับกุนโกะว่า อาหารพวกนี้อร่อยมาก ๆ ใช่ไหมละ แต่มันก็แค่นั้นละเพราะมันทำให้เราอิ่มท้องไม่ได้ เซ็นต์ซัมเมอร์สที่ตื่นขึ้นมาก็บอกว่าทุกอย่างมันดูง่ายดายเกินไปด้วยซ้ำขนาดที่ว่าไม่จำเป็นต้องเรียก 3 อัศวินมาลงมือก็ได้ แต่ทางกุนโกะไม่คิดแบบนั้นและเธอก็ระวังตัวตลอดเวลา เพราะที่เอลบัฟตอนนี้มี ลูฟี่ หมวกฟางอยู่ด้วย ทางกิลลิงแฮมที่ได้ยินแบบนั้นก็พูดด้วยท่าทางสบาย ๆ ว่า แค่นี้ไม่มีปัญหาอะไรหรอกพวกเราสามารถรับมือได้ และต่อให้พวกเราทำพลาดก็ยังมีคนอื่นมารับช่วงงานต่อได้อยู่ดี

ตัดมาที่ลูฟี่ที่กำลังเจอกับเจ้าชายโลกิ ที่ตอนนี้พี่แกหลุดออกมาจากการถูกโซ่มัดมาได้ แต่พี่แกก็ยังบาดเจ็บสาหัสจากการถูกกระทืบคราวก่อน จนเมื่อทั้งสองได้ต่อสู้กันจริง ๆ จัง ๆ แค่ลูฟี่ใช้หมัดที่อัดพลังจนแขนโตต่อยใส่โลกิเพียงแค่หมัดเดียว พี่แกก็ล้มลงไปนอนสลบเหมือดทันที ซึ่งโซโลที่เห็นอาการบาดเจ็บของเจ้าชายโลกิพี่แกก็ถึงกับทึ่ง ที่แม้อาการบาดเจ็บจะสาหัสเจียนตาย พี่แกก็ยังยืนขึ้นมาฟาดค้อนจนมีพลังทำลายล้างได้ถึงขนาดนี้ ที่ถ้าเป็นคนปกติหรือแม้แต่คนยักษ์ที่แข็งแกร่งก็ไม่สามารถทำแบบนี้ได้ ทางลูฟฟี่ที่เห็นเข้าชายโลกิหมดสภาพก็ขอร้องให้ เกิร์ด รักษาเจ้าชายโลกิ เพื่อพี่แกจะได้ถามข้อมูลของ แชงค์ส ตามที่เจ้าชายโลกิเคยบอกเอาไว้ ทางเกิร์ดดูจะลังเลไม่อยากรักษาแต่เธอก็ต้องทำอย่างไม่มีทางเลือก

ตัดภาพมาที่เรื่องราวในอดีตของ ฮัจรูดิน กับเจ้าชายโลกิ ที่เราก็ทราบกันดีว่า ฮัจรูดิน นั้นก็ถือว่าเป็นเจ้าชายเหมือนกัน แต่แม่ของเขานั้นเป็นคนยักษ์จากอีกดินแดนประชาชนจึงไม่ยอมรับ พระราชาจึงต้องแต่งงานกับคนในเมืองเอลบัฟจนเกิดเป็นเจ้าชายโลกิขึ้นมา โดยภาพย้อนอดีตตอนนั้นจะเป็นภาพของ ราชาฮาราลด์ ที่ตอนนั้นยังมีเขากำลังยืนคุยกับเจ้าชายโลกิและฮัจรูดินลูกทั้งสองของตน ซึ่งตอนนี้เจ้าชายโลกิก็ยังคงปิดผ้าปิดตาเอาไว้ และมีขนาดตัวที่สูงกว่าฮัจรูดินอยู่พอสมควร โดยราชาฮาราลด์ได้ฝากฝังอาณาจักรเอาไว้ที่ลูกทั้งสองให้ช่วยกันดูแลประเทศนี้ ก่อนที่ภาพจะตัดมาที่ฮัจรูดินที่ถูกเจ้าชายโลกิซ้อมจนบาดเจ็บ โดยเจ้าชายโลกิพูดเยอะเย้ยฮัจรูดินว่า แกเป็นแค่คนยักษ์ตัวเล็ก ๆ จะมาสู้อะไรกับเขาได้ และเจ้าชายโลกิก็ไม่ยอมรับฮัจรูดินเป็นพี่ชายของตนอีกด้วย แถมยังว่าแม่ของฮัจรูดินกับเขาว่าเป็นสายเลือดนอกคอก

ฮัจรูดินที่เห็นโอกาสในการฆ่าเจ้าชายโลกิ เขาจึงวิ่งเข้าไปหมายจะฆ่าเจ้าชายโลกิเพื่อแก้แค้นให้พ่อ และเพื่อเป็นการแก้แค้นที่น้องชายต่างแม่มาลบหลู่เกียติในฐานะคนยักษ์ แต่คนอื่น ๆ ก็ห้ามเอาไว้ ขณะที่ฮัจรูดินก็ตะโกนด้วยความโกรธ เจ้าชายโลกิที่ได้สติก็ยิ้มและพูดออกมาว่าอยากจะทำอะไรก็ทำซิ เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นไม่มีความยั่วยุแบบก่อนหน้านี้ออกมาเลย และในช่วงท้ายเจ้าชายโลกิก็พูดกับฮัจรูดินด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า "ถ้าแกคิดถึงแค่ความโกรธแค้นของตัวเองเพียงอย่างเดียวละก็ ลองมองดูป่ารอบ ๆ ตัวของแกซิ แกคิดจริง ๆ หรือว่าข้าอยากจะฆ่าพ่อตัวเองหรือไง ถึงข้าพูดอะไรไปไม่มีใครเชื่อข้าหรอกแม้แต่เจ้าก็ตาม"

เรื่องราวจบลงตรงนี้เรียกว่าค้างคาแบบสุด ๆ เพราะสิ่งที่โลกิพูดมันทำให้คนอ่านอย่างเราเริ่มเอะใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น ตัวตนของเจ้าชายโลกิผู้ทำลายล้างตัวจริงคืออะไรกันแน่ ยิ่งอ่านยิ่งอยากรู้เลยทีเดียว ซึ่งเราก็ไม่ต้องรอนานเพราะอาทิตย์หน้าจะไม่งดไปติดตามกันได้ ส่วนใครที่อ่านตรงนี้จบก็ไปรออ่านแบบตัวเต็มได้ที่เว็บไซต์ Manga Plus ได้เลย และถ้า One Piece ตอนที่ 1144 มาเมื่อไหร่เราจะรีบเอามาสปอยล์ให้อ่านทันทีติดตามเอาไว้ได้เลยแล้วพบกันใหม่อาทิตย์หน้า