เพียงแค่เปิดตัวก็สร้างกระแสฮือฮาและโกยคะแนนนิยมไปอย่างล้นหลามสำหรับตัวละครสาวสวยคนล่าสุด Cantarella ตัวละครธาตุมืดระดับ 5 ดาว มาพร้อมความสามารถสายซัพพอร์ต DPS ที่สามารถฮีลได้นิดหน่อย ทำให้เธอเป็นอีกหนึ่งตัวที่มีความยืดหยุ่นในการเล่นและคู่ควรต่อการมีไว้ติดไอดี

ข้อดีของ Cantarella
- เป็นตัวละคร Sub-DPS ที่มีความยืดหยุ่น สามารถเล่นได้ในตี้ Havoc ล้วน หรือ Quick-Swap สำหรับการโจมตีแบบ Coordinated
- สามารถรักษาได้ด้วย Forte Circuit ทุกระดับ
- สร้างความเสียหายนอกสนามได้ดี ด้วยการโจมตีแบบ Coordinated ของแมงกะพรุน
- เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้สำรวจพื้นที่ เพราะเธอสามารถว่ายน้ำได้อย่างรวดเร็วและเสียค่าพลังงานในน้ำน้อยลง
ข้อเสียของ Cantarella
- ความสามารถของเธอมีความแตกต่างพอสมควร ขึ้นอยู่กับอาวุธที่ใช้งาน
- Echo Skill ที่สวมใส่ไม่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับทีมได้นอกจากตัวเธอเอง
Cantarella เป็นตัวละคร Havoc ที่มีความยืดหยุ่น สามารถเล่นเป็น Sup-DPS / Support ได้ด้วยความสามารถในการรักษาต่อเนื่องแก่ทีม แต่เนื่องจาก Resonance Skills และ Liberation ของเธอถือเป็น Echo Skills ที่แยกออกจากกัน ดังนั้น Echo Skills จึงมีความสำคัญกับตัวเธออย่างมาก นอกจากนี้ทีมที่มีคันตาเรลลาอยู่จะได้รับบัฟฟื้นฟู Concerto Energy เมื่อใช้งาน Echo Skills อีกด้วย ทำให้ทีมสามารถหมุนคอมโบสกิลได้ดียิ่งขึ้น
จุดอ่อนหลักของ Cantarella อยู่ที่เซ็ตไอเทมใช้งาน เนื่องจากเวอร์ชันปัจจุบันยังไม่มีตัวละครตัวไหนได้รับประโยชน์จาก Echo Skills นอกจากตัวของเธอเอง ซึ่งสิ่งนี้ยังส่งผลต่อการปั้นคันตาเรลลาเองด้วย อีกทั้ง Whispers of Sirens เป็นอาวุธเพียงชิ้นเดียวในเวอร์ชันปัจจุบันที่เธอสามารถเพิ่มพลังความสามารถให้เธอได้อย่างเต็มที่
Cantarella จะมีศักยภาพในการใช้งานแตกต่างกันออกไปแล้วแต่ว่าเราสวมใส่อาวุธและเซ็ตเอคโคแบบไหนให้กับเธอ และถึงแม้เธอจะเป็นตัวละครยืดหยุ่นสามารถปรับตำแหน่งการเล่นได้ แต่ก็อยากแนะนำให้ใช้งานเธอในตำแหน่งเดียวไปเลยจะดีกว่า และต้องจับตาดูในอนาคตต่อไปว่าจะมีตัวละครใหม่ ๆ ตัวไหนที่สามารถใช้งานร่วมทีมกับเธอได้ดีมากยิ่งขึ้น

อาวุธใช้งานที่ดีที่สุดของ Cantarella
 |
Whispers of Sirens
เพิ่ม ATK 12%, การใช้ Echo Skill ภายใน 10 วินาทีหลังจากใช้ Intro Skill หรือ Basic Attack จะทำให้ได้รับ Gentle Dream 1 สแต็ก Echo ที่มีชื่อเดียวกันจะทำให้เกิดเอฟเฟกต์นี้ได้เพียงครั้งเดียว โดยสามารถสแต็กได้สูงสุด 2 ครั้ง เป็นเวลา 10 วินาที เมื่อถึง 2 สแต็ก การใช้ Echo Skill จะไม่รีเซ็ตระยะเวลาของเอฟเฟกต์นี้อีกต่อไป เอฟเฟกต์นี้จะเปิดใช้งานสูงสุด 1 ครั้งต่อ 10 วินาที
การสลับไปใช้ Resonator อื่นจะทำให้เอฟเฟกต์นี้สิ้นสุดลงก่อนกำหนด
ด้วยสแต็ก 1 สแต็ก จะทำให้ได้รับ: โบนัส DMG การโจมตีพื้นฐาน 80%
ด้วยสแต็ก 2 สแต็ก ไม่สนใจ: 24% ของ Havoc RES ของเป้าหมาย
|
 |
Rime-Draped Sprouts
เพิ่มพลังโจมตี 12% และการใช้ Resonance Skill จะทำให้ Resonator ที่สวมใส่ได้รับโบนัสดาเมจโจมตีพื้นฐาน 12% เป็นเวลา 6 วินาที สามารถสะสมได้สูงสุด 3 ครั้ง เมื่อร่าย Outro Skill ที่มี 3 สแต็ก จะเป็นการใช้สแต็กทั้งหมดเพื่อเพิ่มดาเมจ 52% ให้กับการโจมตีพื้นฐานนอกสนามที่ Resonator ที่สวมใส่ทำ ซึ่งจะคงอยู่เป็นเวลา 27 วินาที
|
 |
Stringmaster
เพิ่มโบนัส DMG 12% เมื่อสร้างความเสียหายจาก Resonance Skill จะเพิ่ม ATK 12% ทับซ้อนได้สูงสุด 2 ขั้น เอฟเฟกต์นี้คงอยู่เป็นเวลา 5 วินาที เมื่อตัวละครที่สวมใส่อาสุธชิ้นนี้ไม่อยู่บนสนามต่อสู้ จะเพิ่ม ATK ของพวกเขาขึ้นอีก 12%
|
 |
Cosmic Ripples
เพิ่มการฟื้นฟูพลังงาน 12.8% เมื่อโจมตีเป้าหมายด้วยการโจมตีปกติ จะเพิ่มโบนัสความเสียหายการโจมตีพื้นฐาน 3.2% ทับซ้อนได้สูงสุด 5 ครั้ง เอฟเฟกต์นี้คงอยู่นาน 8x และสามารถเกิดขึ้นได้ 1 ครั้ง ทุกๆ 0.5 วินาที
|
 |
Augment
เมื่อใช้ Resonance Liberation จะเพิ่ม ATK ของผู้ร่าย 15% เป็นเวลา 15 วินาที
|

|
Fusion Accretion
การใช้ Resonance Skill จะทำให้ได้รับ Resonance Energy 6 หน่วยและเพิ่ม ATK 10% เป็นเวลา 16 วินาที เอฟเฟกต์นี้สามารถใช้ได้ 1 ครั้งทุกๆ 20 วินาที
|
Echo และ ค่าสเตตัสที่ดีที่สุดของ Cantarella
Havoc Sub-DPS Build
 |
Lorelei
แปลงร่างเป็น Lorelei และสร้างความเสียหาย Havoc DMG แก่ศัตรู การติดตั้ง Echo ในช่องหลักจะทำให้ได้รับโบนัสความเสียหาย Havoc DMG และโบนัสความเสียหายจากการโจมตีพื้นฐาน
|
Sonata Effect
|
Midnight Veil เซ็ต 5 ชิ้น
4-3-3-1-1
|
ค่าสเตตัสหลัก
|
4-Cost: CRIT Rate or CRIT DMG
3-Cost: Havoc DMG
1-Cost: ATK%
|
ค่าสเตตัสรอง
|
1. CRIT Rate
2. CRIT DMG
3. ATK%
4. Basic Attack DMG Bonus
5. Flat ATK
|
Coordinated ATK Sub-DPS Build

|
Hecate
เรียก Crescent Servants ออกมาเพื่อสร้าง DMG Havoc ให้กับศัตรู การสวนกลับการโจมตีจะรีเซ็ตระยะเวลาการเรียก Crescent Servants การติดตั้ง Echo นี้ในช่องหลักจะเพิ่ม DMG ของการโจมตีแบบ Coordinated
|
Sonata Effect
|
Empyrean Anthem เซ็ต 5 ชิ้น
4-3-3-1-1
|
ค่าสเตตัสหลัก
|
4-Cost: CRIT Rate
3-Cost: Havoc DMG
1-Cost: ATK%
|
ค่าสเตตัสรอง
|
1. CRIT Rate
2. CRIT DMG
3. ATK%
4. Basic Attack DMG Bonus
5. Energy Regen
|
แนวทางการเล่น Cantarella
อยากที่เน้นย้ำเสมอว่า Cantarella เป็นตัวละครที่ยืดหยุ่นในตำแหน่งการเล่น Midnight Veil หรือ Empyrean Anthem จึงเป็นชุดเอคโคที่ดีที่สุดสำหรับเธอ โดยเฉพาะ Midnight Veil ที่ทำให้เธอสามารถเล่นในทีม Havoc ล้วนได้อย่างดี เนื่องจากช่วยเพิ่มบัฟ Havoc DMG ของเธอและ Resonator ตัวอื่น ๆ ได้นั่นเอง
Cantarella เป็นตัวละครที่มีโครงสร้างการปั้นเหมือน Sub-DPS ส่วนใหญ่ นั่นก็คือ ควรมีอัตราคริติคอลที่ดี ในขณะเดียวกันก็ควรมีค่าโบนัสและค่าความเสียหายที่มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้น Echo 3-cost จึงควรเน้นไปที่ Havoc DMG และสแตทรองเป็นโบนัส DMG การโจมตีพื้นฐาน และ ATK%
ส่วน Empyrean Anthem จะมีประโยชน์สำหรับทีมอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ Havoc ล้วน ที่อาศัยการเล่นแบบโจมตี Coordinated เพิ่มความเสียหายโดยรวมให้ได้มากที่สุดและเน้นค่าสแตทไปที่ การเพิ่มอัตราคริติคอลให้เพียงพอที่ประมาณ 70% เพื่อให้ผลของ Empyrean Anthem เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
แนวทางการอัปสกิล
- Forte Circuit
- Resonance Liberation
- Resonance Skill
- Normal Attack
ทีมที่ดีที่สุดสำหรับ Cantarella
Cantarella Sup-DPS Team
แนวทางคอมโบต่อสู้
- เริ่มการต่อสู้ด้วย Shorekeeper หมุนคอมโบสกิลไปเรื่อย ๆ แล้วจบด้วย Resonance Liberation เพื่อเรียก Stellarealm ของเธอออกมาใช้งาน จากนั้นสลับไปใช้งาน Cantarella
- สลับไปใช้งาน Cantarella รับ 1 สแต็ก Trance จากการโจมตีพื้นฐานขั้นที่ 3 ของเธอ ตามด้วย Resonance Skill, Graceful Step และ Liberation, Beneath the Sea เพื่อรับสแต็ก Trance สูงสุด
- ใช้การโจมตีหนักเพื่อให้ Cantarella เข้าสู่สถานะ Mirage ใช้ Resonance Skill, Flickering Reverie เพื่อนำศัตรูเข้าสู่ Hazy Dream ตามด้วยคอมโบโจมตีพื้นฐาน 3 ขั้นของเธอ (Phantom Sting) เพื่อรับสแต็ก Shiver 3 สแต็ก
- ใช้ Resonance Skill, Perception Drain เพื่อใช้สแต็ก Shiver ทั้งหมดและทำให้ศัตรูเข้าสู่สถานะ Hazy Dream โดยทำให้ศัตรูลอยอยู่ในอากาศ ด้วยเกจ Concerto ที่เต็มแล้ว สลับไปที่ Camellya เพื่อใช้การเพิ่ม Havoc DMG ของ Cantarella
- เมื่อ Camellya เข้าสู่การต่อสู้ผ่าน Intro Skill ของเธอ ทำคอมโบที่ดีที่สุดเพื่อสร้างความเสียหายให้ได้มากที่สุด อย่าลืมเติม Concerto ด้วยสองครั้ง: ครั้งหนึ่งสำหรับ Ephemeral และครั้งสุดท้ายสำหรับ Outro Skill ของเธอ
- สุดท้าย ให้สลับกลับไปที่ Shorekeeper เพื่อระเบิด Stellarealm และสร้างความเสียหายด้วย Intro Skill
- วนคอมโบซ้ำจนกว่าศัตรูจะล้มลง
Cantarella Mono Havoc Team
แนวทางคอมโบต่อสู้
- เริ่มการต่อสู้ด้วย Cantarella และรับ 1 สแต็ก Trance จากการโจมตีพื้นฐานขั้นที่ 3 ของเธอ ตามด้วย Resonance Skill, Graceful Step และ Liberation, Beneath the Sea เพื่อรับสแต็ก Trance สูงสุด
- ใช้การโจมตีหนักเพื่อเข้าสู่สถานะ Mirage ของเธอ ใช้ Resonance Skill, Flickering Reverie เพื่อวางศัตรูใน Hazy Dream ตามด้วยคอมโบโจมตีพื้นฐาน 3 ขั้นของเธอ (Phantom Sting) เพื่อรับสแต็ก Shiver 3 สแต็กป้องกัน
- ใช้ Resonance Skill, Perception Drain เพื่อใช้สแต็ก Shiver ทั้งหมดและทำให้ศัตรูอยู่ในสถานะ Hazy Dream โดยทำให้ศัตรูลอยอยู่ในอากาศ ด้วยเกจ Concerto ของเธอที่เต็มแล้ว จากนั้นให้สลับไปที่ Roccia เพื่อใช้การเพิ่ม Havoc DMG ของ Cantarella
- เมื่อ Roccia เข้าสู่การต่อสู้ผ่าน Intro Skill ของเธอ ให้ทำคอมโบที่ดีที่สุดของเธอและเติมเกจ Concerto ให้เต็ม ใช้ Echo Skill และ Resonance Liberation ก่อนที่จะสลับไปที่ Camellya เพื่อบัฟ ATK ของทีม
- ทำคอมโบที่ดีที่สุดของ Camellia โดยเข้าสู่โหมด Blossom ของเธอ เพิ่มบัฟของ Cantarella และ Roccia ให้สูงสุด เมื่อบัฟถูกส่งถึงเธอการโจมตีแบบ Coordinated ของ Cantarella จะสร้างความเสียหายที่เหมาะสมนอกสนามด้วยเช่นกัน
- วนคอมโบซ้ำจนกว่าศัตรูจะล้มลง
Cantarella Coordinated Sub-DPS Team
นอกจากทีม Havoc ล้วน และทีมที่เล่นแบบ Coordinated Sup-DPS แล้ว Cantarella ยังเป็น Sub-DPS ที่ยอดเยี่ยมสำหรับ Jinhsi ด้วยเช่นกัน เนื่องจากเธอสามารถเพิ่มความเสียหาย จาก Resonance Skill DMG และ Coordinated Attacks ในขณะที่อยู่นอกสนามได้ ทำให้ Jinhsi สามารถสะสม Incandescence ได้อย่างมากด้วย Resonance Liberation ของเธอ อีกทั้ง Beneath the Sea ยังเพิ่มความเสียหายโดยรวมให้กับ Jinhsi ได้อย่างดีอีกด้วย
แต่เนื่องจาก Jinhsi เป็นธาตุ Spectro เธอจึงไม่สามารถรับบัฟที่ Midnight Veil มอบให้ได้สูงสุด ดัง
นั้นหากจะเล่นทีมนี้ Cantarella จะต้องใช้เอคโคเซ็ต Empyrean Anthem 5 ชิ้น และต้องมีอัตราคริติคอลเพียงพอเพื่อเพิ่มศักยภาพของบัฟให้ได้มากที่สุด
- เริ่มการต่อสู้กับ Verina ใช้คอมโบที่ดีที่สุด เมื่อเกจ Concerto ของเธอเต็มแล้ว ให้สลับไปที่ Cantarella
- เมื่อ Cantarella เข้าสู่การต่อสู้ด้วย Intro Skill ของเธอ จะได้รับสแต็ก Trance 1 สแต็ก ให้ใช้งาน Resonance Skill และ Resonance Liberation เพื่อรับสแต็ก Trance สูงสุด
- ใช้การโจมตีหนักเพื่อเข้าสู่ Mirage และใช้ Resonance Skill เพื่อนำศัตรูเข้าสู่ Hazy Dream จากนั้นทำคอมโบการโจมตีพื้นฐานเพื่อรับสแต็ก Shiver สูงสุด
- ลดสแต็ก Shiver สูงสุดเพื่อนำศัตรูเข้าสู่ Hazy Dream แล้วสลับไปที่ Jinhsi ด้วย Outro Skill ของ Cantarella เพื่อรับบัฟความเสียหายจาก Resonance Skill
- เมื่อ Jinhsi เข้าสู่การต่อสู้แล้ว ให้ใช้ Overflowing Radiance Resonance Skill ของเธอ และเปิดใช้งาน Resonance Skill อีกครั้ง สร้าง Incandescence ให้ได้เท่าที่ต้องการและเข้าสู่สถานะ Incarnation
- ในช่วงการจุติ ให้ทำคอมโบโจมตีพื้นฐานของ Jinhsi จากนั้นใช้ Illuminous Epiphany (Resonance Skill)
- ให้ Jinhsi ออกจากสนามต่อสู้ด้วย Unison แล้วสลับไปที่ Verina อีกครั้ง
- วนคอมโบซ้ำจนกว่าศัตรูจะล้มลง