
ในช่วงปีหลัง ๆ ที่ผ่านมาสิ่งที่เราได้เห็นอยู่เรื่อย ๆ และเป็นไปในทางที่ดี นั่นคือการได้เห็นภาพยนตร์ซีรีส์ไปจนถึงอนิเมะที่สร้างจากเกมต่าง ๆ ทำออกมาได้ดีแทบทุกเกม (ยกเว้นภาพยนตร์ที่สร้างจากเกมฝั่ง Capcom) จนทำให้หลายค่ายเริ่มหันมาสนใจทำภาพยนตร์จากเกมมากขึ้น ยกตัวอย่างภาพยนตร์จากเกมเรื่องล่าสุดอย่าง Minecraft ที่ก็สร้างรายได้เปิดตัวไปอย่างสวยงาม ที่แม้จะได้คะแนนในแง่ลบจากสื่อและนักวิจารณ์ก็ตาม แต่แฟนเกมทั่วโลกต่างก็ซื้อและเข้าไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้ และล่าสุดก็มีภาพยนตร์ที่สร้างจากเกมอีกหนึ่งเกมที่ฉายในโรงภาพยนตร์ นั่นคือเรื่อง Until Dawn ที่ตอนนี้ได้คะแนน 62% จากนักวิจารณ์ในเว็บไซต์ Rotten Tomatoes เรามาดูกันว่านักวิจารย์คิดเห็นยังไงกับภาพยนตร์จากเกมเรื่องนี้กัน
เรื่องราวย่อ ๆ ของ Until Dawn ฉบับภาพยนตร์ จะบอกเล่าเรื่องราวหนึ่งปีหลังจากที่ Melanie น้องสาวของเธอหายตัวไปอย่างลึกลับ Clover และเพื่อน ๆ ของเธอได้มุ่งหน้าไปยังหุบเขาอันห่างไกลซึ่งเธอได้หายตัวไปเพื่อค้นหาคำตอบ พวกเขาออกสำรวจศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่ถูกทิ้งร้าง และพบว่าตัวเองถูกตามล่าโดยฆาตกรสวมหน้ากาก และถูกฆาตกรรมอย่างโหดร้ายทีละคน แต่พวกเขาก็ตื่นขึ้นมาและพบว่าตัวเองกลับมาอีกครั้งในตอนต้นของค่ำคืนเดียวกัน ติดอยู่ในหุบเขา พวกเขาถูกบังคับให้ต้องประสบกับฝันร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งแต่ละครั้งภัยคุกคามของการฆ่าก็จะแตกต่างกันออกไป และแต่ละครั้งก็น่ากลัวยิ่งขึ้น นั่นคือเนื้อเรื่องของภาพยนตร์
คราวนี้มาดูเรื่องราวในเกมที่เป็นต้นฉบับกันบ้าง ที่ตัวเกมจะบอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนที่แกล้งกันตามภาษาวัยรุ่น จนมันบานปลายให้สองพี่น้องหายตัวไปในภูเขาหิมะ ซึ่งในเกมจะบอกเราเลยว่าทั้งคู่ตายไปแล้ว 1 ปีต่อมาในวันครบรอบการหายตัวไปของสองพี่น้อง เพื่อนกลุ่มเดิมก็มารวมตัวกันที่บ้านพักที่เดิม แต่คราวนี้มันต่างออกไป เพราะมีฆาตกรโรคจิตสัตว์ประหลาดและผีมาตามล่าคนกลุ่มนี้นั่นคือเนื้อเรื่องของเกม ซึ่งมันจะดำเนินไปแบบภาพยนตร์ ที่เราจะเลือกว่าไปซ้ายรึขวาสู้หรือหนีช่วยหรือไม่ช่วย ซึ่งทุกการกระทำจะส่งผลในเนื้อเรื่องที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ซึ่งถ้าตัวละครตายแล้วจะตายเลย แถมเนื้อเรื่องก็สนุกมีหลักมีเหตุผล ซึ่งมันช่างต่างกับในภาพยนตร์ไปเป็นคนละเรื่องเลย

และล่าสุดบนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ก็ได้คะแนนจากนักวิจารณ์ไปที่ 62% โดยนักวิจารณ์คนหนึ่งที่ให้คะแนน 1.5 เต็ม 5 บอกว่า "Until Dawn เวอร์ชั่นนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าฉากสยองขวัญที่ไม่เกี่ยวข้องกันกับเกม ซึ่งตัวละครที่เราไม่สนใจจะต้องตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้และไม่มีอะไรน้อยไปกว่านี้" อีกคนหนึ่งบอกว่า "นี่อาจเป็นสูตรแห่งความสำเร็จ แม้ว่าจะเป็นเพียงสูตรเล็กน้อยก็ตาม แต่ Until Dawn ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากองค์ประกอบเหล่านี้มากนัก และด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกมน่ากลัวและน่าพอใจอย่างน่าประหลาดใจเมื่อเทียบกับตัวภาพยนตร์" คราวนี้มาดูคนที่ชมกันบ้างบอกว่า "ในฐานะคนที่เคยเล่นเกมนี้ เกมนี้ถือว่ายอดเยี่ยมมาก แต่อย่าคาดหวังว่ามันจะเหมือนกับเกม แต่หนังเรื่องนี้ก็เป็นหนึ่งในหนังสยองขวัญที่ดีที่สุดที่ฉันเคยดูมา" อีกคนที่อวยจนสุดบอกว่า "สุดยอดมากครับ ชอบมาก" บางคนก็ชมว่า "ไม่เหมือนวิดีโอเกม แต่มันจะเป็นบรรทัดฐานให้หนังจากเกมต่อ ๆ ไปในอนาคต"

เท่าที่ดูจากตัวอย่างและเป็นคนที่เล่นเกมนี้มาเกินกว่า 5 รอบเพื่อดูฉากต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเกม ก็พูดได้เลยว่ามันไม่เหมือนไม่ใช่ไม่คล้ายไม่เกี่ยวกับเกม Until Dawn เลย มันเหมือนต้องการยืมชื่อเกมและตัวละครสัตว์ประหลาดมา เพื่อหวังจะเอาชื่อเสียงของเกมมาขายและใช้โปรโมทตัวภาพยนตร์ ซึ่งนักวิจารย์ก็บอกแล้วว่ามันไม่ตรงในเกม ที่เหลือก็แค่รอดูว่ามันจะเชื่อมต่อหรือไปเกี่ยวกับเกมตรงไหน (แค่ตายวนลูปก็ไม่ตรงในเกมแล้วเพราะในเกมตายแล้วตายเลย) ที่เหลือก็แค่รอดูจากฝั่งคนดูที่เล่นเกมนี้ว่าจะคิดอย่างไร ที่ถ้ามีความคืบหน้าเราจะเอามารายงานให้ทราบอีกครั้ง