วันนี้ ADBIG จะพาเพื่อนๆ ไปรับชมการเลือกซื้อ CPU ในปี 2020 กัน ว่า CPU แต่ละรุ่นนั้น สามารถใช้งานได้ถึงระดับไหนแล้วในยุคปัจจุบัน แน่นอนว่าหลักการเบื้องต้นของ Core i3, i5, i7 แม้จะถูกแบ่งเลเวลกันมาอย่างช้านาน แต่ประสิทธิภาพของแต่ละ Generation ก็ได้ถูกเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งในตอนนี้ CPU แต่ละรุ่น เหมาะสำหรับการจัดสเปคคอมแบบไหน และใช้งานแบบไหนบ้างนั้น ไปติดตามดูกันครับ
1. Intel Core i3
เป็นซีพียู Intel Core i Series ระดับเริ่มต้น ราคาประหยัดเริ่มต้น 2,000 กว่าบาท เหมาะกับงานทุกประเภท ปัจจุบันเป็น Core i3 Gen 9 ที่ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่มีตัวประมวลผล 2 Cores / 4 Threads ปรับมาเป็น 4 Cores / 4 Threads จากประสบการณ์ที่ ADBIG ใช้มาบอกได้แรงไม่น้อยหน้า Intel Core i5 เมื่อ 3-4 ปีที่แล้วเลย
การใช้งานรองรับโปรแกรมการใช้งานหลากหลาย แต่จะเหมาะสมกับงานจำพวก Multimedia , office ทั้งหลาย หรือ Adobe อย่าง Photoshop ที่ใช้ไม่หนักมากนัก รวมไปถึงการตัดต่อวิดีโอเบื้องต้นผ่าน Adobe Premier Pro กับการตัดต่อวิดีโอที่ความละเอียด HD หรือ Full HD ได้อย่างสบายๆ
การเล่นเกมจะเหมาะสมอย่างยิ่งกับเกมในรูปแบบออนไลน์ และเกมที่กินสเปคระดับกลาง เช่น CS:GO DOTA APEX เมื่อใช้ควบคู่กับการ์ดจอตระกูล GTX 16 Series
รุ่นที่น่าสนใจ
Core i3 9100F
========
2. Intel Core i5
เป็นซีพียู Intel Core I Series ระดับกลาง เหมาะกับงานระดับกลางค่อนไปทางสูง จากเดิมที่มีตัวประมวลผล 4 Cores / 4 Threads ปรับมาเป็น 6 Cores / 6 Threads ในรุ่นปัจจุบัน ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมสูงขึ้นเป็นอย่างมาก ในราคาที่จับต้องง่าย เริ่มต้นตั้งแต่ 4,000 กว่าบาทเท่านั้น
เหมาะสมกับงานจำพวก Multimedia , Office มากขึ้น รวมถึง Adobe อย่าง Photoshop ที่ใช้งานได้เข้มขึ้มมากกว่าเดิม ตัดต่อวิดีโอกับ Adobe Premier Pro ในความละเอียดที่ Full HD ได้อย่างลื่นไหล ด้วยจำนวนคอร์หรือหัวประมวลผลที่เพิ่มมากขึ้น
การสตรีมมิ่งก็ไม่น้อยหน้า ด้วยความสเถียรของการออกแบบจากตัวซีพียูเอง ทำให้การไลฟสตรีมต่อเนื่องได้นิ่งไม่มีจอฟ้า ส่วนการเล่นเกมเหมาะสำหรับเกมที่กินสเปคสูงขึ้นมา เช่น Call of Duty: War Zone , GTA V หรือเกมอย่าง PUBG เป็นต้น แนะนำให้ใช้กับ GTX 1660 Super หรือ RTX 2060 / RTX 2060 Super
รุ่นที่น่าสนใจ
Core i5 9400F / Core i5 9600KF
========
3. Intel Core i7
เป็นซีพียู Intel Core i Series ระดับสูง ใช้งานได้ทุกรูปที่ Core i3 และ Core i5 ทำได้ แต่เพิ่มเติมความสามารถ และความแรงด้วยจำนวนคอร์ประมวลผลที่มากถึง 8 Cores /8 Threads สามารถเข้ารหัสภาพในการสตรีมได้อย่างคมชัดขึ้น ทำงานต่างๆ ได้รวดเร็วขึ้น
งานด้านตัดต่อจะตัดต่อจะทำได้สมูทมากขึ้น งาน 3D 2D เขียนแบบ รวมไปถึงงานด้านการออกแบบ และวิศวะกรก็สามารถทำได้ดี รวมถึงใช้เวลาในการเรนเดอร์ และ Export ไฟล์สั้นลง ทำให้ Productivity ดีขึ้นมาก
เช่นกันกับด้านของเกม ที่เล่นเกมหนักๆ ปรับกราฟิกสูงๆ ได้อย่างสบายๆ กับการ์ดจอและฮาร์ดแวร์ที่เหมาะสม แนะนำใช้ควบคู่กับ RTX 2060 SUPER / RTX 2070 SUPER / RTX 2080 SUPER ขึ้นไป
รุ่นที่น่าสนใจ
Core i7 9700F / Core i7 9700KF
========
4. Intel Core i9
รหัสสูงสุด ของ Core i Series อย่าง Core i9 มีทั้ง Core i9 สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปตามบ้าน (9900 , K , KF , KS) ไปจนถึงผู้ใช้งานระดับมืออาชีพอย่าง X Series ครอบคลุมทุกการใช้งานในทุกด้าน
มาพร้อมคอร์ ประมวลผลระดับ 8 Cores /16 Threads ไปจนถึง 16 Cores /32 Threads ในราคาเริ่มต้นหลักหมื่นไปจนถึงสามหมื่นบาท ทำงานได้ทุกรูปแบบแต่จะเหมาะสมกับการทำงานระดับมืออาชีพ เช่นการสตรีมมิ่งระดับ FHD คมชัดสูง , การตัดต่อวิดีโอผ่าน Adobe Premier Pro ความละเอียดระดับ 4K ได้สบาย รวมไปถึงกลุ่มงาน 3D 2D ทุกรูปแบบ
เรียกได้ว่าเป็นซีพียูตัวสุด ตัวจบสำหรับการทำงานโดยแท้จริง ทั้งนี้ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ที่เหมาะสมด้วย แนะนำใช้ควบคู่กับ RTX 2060 SUPER / RTX 2070 SUPER / RTX 2080 SUPER ขึ้นไป
รุ่นที่น่าสนใจ
Core i9 9900KF / Core i9 10980XE
ทั้งหมดคือความรู้เบื้องต้นในการเลือกซื้อ CPU แบบคร่าวๆ นะครับ เอาไว้ใช้เปรียบเทียบราคากับความต้องการในการใช้งานของแต่ละคน สำหรับการเลือกซื้อจริงๆ อาจจะมีองค์ประกอบในการตัดสินใจอื่นๆ ด้วย บทความนี้ไว้ใช้เพื่อการอ้างอิงทั่วไป ก่อนเข้าไปดูรายละเอียดลึกๆ กันต่อก่อนที่จะซื้อจริงครับ