เป็นเรื่องที่ต้องถกเถียงกันอีกแล้ว สำหรับคะแนนการรีวิวของเกม The Last of Us: Part 2 บนเว็บ metacritic ที่ขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง ระหว่างคะแนนจากสื่อ และคะแนนจากการรีวิวของผู้เล่น โดยล่าสุดจากเวลาที่เราเขียนข่าวนี้ ทางสื่อได้ให้คะแนนไว้ที่ 95/100 แต่ผู้เล่นจำนวนกว่า 12,000 คน ได้ให้คะแนนเกมนี้ไปทางด้านลบกว่า 80% และมีคะแนนอยู่ที่ 3.4 คะแนนเท่านั้น
The Last of Us เป็นเกมแนว RPG เน้นเรื่องการเดินเรื่อง ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากในภาคแรก ถึงกับได้รับการโหวตเป็นเกมแห่งทศวรรษของ PlayStation ด้วยความยอดเยี่ยมของทั้งเนื้อหาและระบบการเล่น และนั่นก็เป็นสาเหตุหลักที่ภาคต่ออย่าง The Last of Us: Part 2 นั้นได้รับความคาดหวัง ว่าจะออกมาเป็นเกมที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน
แต่ท่ามกลางมรสุมมากมายก่อนที่เกมจะออก ผ่านมาจนกระทั่งมีการรีวิวจากสื่อ ผู้เล่นส่วนหนึ่งก็ยังคงให้ความเชื่อมั่นว่าเนื้อหาของเกมจะไม่ได้แย่เกินไปนัก และคะแนนรีวิวโดยรวมก็ออกมาได้ค่อนข้างดี แต่หลังจากเกมเปิดให้ผู้เล่นทั่วโลกได้เข้าไปเล่นจริงๆ เสียงในเชิงลบและการคอมเม้นต์ต่างๆ ก็เริ่มถาโถมกันเข้ามา โดยมีประเด็นหลักอยู่ที่ "เนื้อเรื่องของภาคนี้มันแย่สิ้นดี"
กระแสด้านลบเกี่ยวกับเนื้อเรื่องของเกมนี้ ก็ได้ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ และส่งผลต่อคะแนนรีวิวบนเว็บไซต์ Metacritic ด้วยเช่นกัน ซึ่งบรรดาคนที่ให้คะแนนเชิงลบ แทบจะทั้งหมดรู้สึกต่อต้านกับการวางเนื้อหาของเกมในภาคนี้ ทั้งเรื่องการเติบโตและการตัดสินใจของตัวละคร การวางเส้นเรื่อง และความสมเหตุสมผลของวิธีเดินเรื่องในเกม
อ่านคอมเม้นต์เต็มๆ ได้ที่นี่นะครับ
อย่างไรก็ตามการให้คะแนนของผู้เล่นหลายคน ก็ยังคงให้คำชม กับระบบการเล่นและความสวยงามของตัวเกมซึ่งทำออกมาได้ยอดเยี่ยม เพียงแค่เกมแนวนี้ สิ่งที่มีความสำคัญที่สุดและมีผลต่อการเล่นมากที่สุดก็คือเนื้อเรื่องเป็นหลักเท่านั้น
และเพื่อให้ความเป็นธรรมกับตัวเกม ที่จริงแล้วภาคนี้ก็มีเนื้อหาที่จะทำให้ผู้เล่นที่ผูกพันธ์มากๆ กับตัวละครต่างๆ ในภาคแรก "รู้สึกโกรธ" อยู่แล้วด้วย ดังนั้นความเห็นของแฟนเกมบางส่วนก็อาจจะผสมมาด้วยอารมรณ์ ซึ่งสุดท้ายแล้วจะเป็นเพราะ อุปทานหมู่ อารมณ์ หรือเนื้อหามันแย่จริงๆ สิ่งที่จะช่วยคุณตัดสินได้จริงๆ คือการเข้าไปเล่นด้วยตัวเองเท่านั้น
นอกเหนือจากการ กร่นด่า ด้านเนื้อเรื่องของเกมนี้แล้ว ยังมีประเด็นเรื่อง SJW การเซ็นเซอร์เกมของ Sony และมีมต่างๆ ของเกมนี้ออกมามากมายเช่นกัน ไว้ถ้ามีโอกาสเราจะกล่าวถึงในข่าวถัดไปครับ