วันนี้ทาง 4Gamers ได้มีโอกาสรีวิวสินค้ากันอีกแล้ว และรอบนี้เป็นคราวของเก้าอี้เกมมิ่งของ Anda Seat ซึ่งเกมเมอร์ชาวไทยน่าจะรู้จักกันดี โดยเฉพาะใครที่ไปด้อมๆ มองๆ แถวร้านขายอุปกรณ์ไอทีและเกมมิ่งเกียร์ก็คงจะได้เจอกันบ่อยเลยแหละ ซึ่งรุ่นที่เราได้รับมารีวิวในวันนี้จะเป็นรุ่น Axe E-Series ซึ่งเป็นรุ่นเล็กสุดของทางค่าย แต่จากที่เราลองนั่ง เก้าอี้ตัวนี้ก็ถือว่าพอดีสำหรับไซส์คนไทยเลยแหละครับ
ภาพรวมของอุปกรณ์
เก้าอี้ Anda Seat รุ่นนี้แม้จะถูกวางตำแหน่งไว้เป็นเก้าอี้ไซส์เล็กของแบรนด์ แต่ขนาดความกว้างของที่นั่งก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก แถมราคาค่าตัวของมันก็เพียงแค่ 8,000 ซึ่งสามารถหาเข้าถึงได้ง่ายกว่ารุ่นอื่นๆ ในแบรนด์เดียวกัน
ตัวพื้นผิวของเก้าอี้เป็นหนัง PVC ที่ทางค่ายเคลมว่าเป็นเกรดพรีเมี่ยมซึ่งทำความสะอาดได้ง่ายและพังยาก ส่วนวัสดุรองรับทำมาจากโฟมที่พอเราลองใช้งานแล้ว รู้สึกได้ชัดเจนว่าความหนาแน่นของเก้าอี้แต่ละส่วน มีการออกแบบมาให้ยวบแตกต่างกัน ตามตำแหน่งและน้ำหนักที่กดทับในบริเวณนั้น
การปรับแต่งของเก่าอี้ตัวนี้ถือว่าครบถ้วนครับ ไม่ได้มีท่ายากพิศดาร แต่ฟังก์ชั่นอันไหนที่จำเป็นต้องใช้งานจริงก็ไม่มีตกหล่นแต่อย่างใด
1. ลักษณะภายนอก
สำหรับรุ่น Axe E-Series ที่เราได้มารีวิวในวันนี้เป็นตัวสีดำล้วน ซึ่งถือว่าเหมาะสำหรับการใช้งานจริง โดยเฉพาะกับเกมเมอร์ชายไทยทั้งหลายที่อาจจะกังวลเรื่องความสกปรก หรือความหม่นหมองหลังจากใช้งานผ่านไปนานๆ (จากที่เราทราบ สินค้าตัวนี้เป็นรุ่นใหม่จึงยังไม่มีสีอื่นออกมาให้เลือก) แม้จะเป็นสีดำสนิท แต่แนวการตัดเย็บก็ยังมีลวดลาย ที่เมื่อมากับทรงเก้าอี้ ก็ทำให้เจ้า Axe E-Series ตัวนี้ เป็นเก้าอี้ที่ดูดีและเท่พอสำหรับถ่ายรูปโซนเล่นเกมของคุณไปอวดเพื่อน
สำหรับอุปกรณ์เสริม หมอนรองคอและเบาะรองหลังเป็นทรงสี่เหลี่ยมทั้งคู่ โดยที่หมอนรองคออาจจะไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก แต่ก็สามารถใช้ปรับรองศีรษะแบบเฉพาะส่วนได้ กลับกันกับเบาะรองหลัง ที่ดูจากภายนอกแล้วดูจะหนาและใหญ่ แต่พอลองนั่งจริงๆ เข้าเบาตัวนี้ถือว่านิ่มและยวบมาก โดยรวมแล้วถือว่ากำลังดี ไม่ได้หนาหรือแน่นเกินไปจนต้องถอดออกเวลาจะใช้จริง
ไซส์ของเก้าอี้ตัวนี้ เพื่อความละเอียดเราเลยขอลงรูปจากเว็บหลักของเขามาเลยดีกว่า (เว็บไซต์ของเก้าอี้แบรนด์นี้เขาทำละเอียดมากๆ) ในการเลือกซื้อเก้าอี้ นอกเหนือจากความเท่ + ความนุ่มแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งก็คือเรื่องของขนาดนี่แหละ ซึ่งไซส์บริเวนช่วงนั่ง 40 ซม. ไม่รวมส่วนปีก สำหรับผู้เขียนถือว่าใหญ่พอและไม่เบียด โดยที่มีความลึกที่กำลังพอดีด้วย (ตรงจุดนี้ ต้นขาใคร ต้นขามันนะครับ แนะนำว่าวัดกันดีๆ) จากที่เราเทียบกับรุ่นอื่นๆ บนเว็บไซต์ ความกว้างบริเวณเบาะนั่งนั้นไม่ได้ห่างกันมากนัก
2. การปรับแต่งขณะใช้งาน
ด้วยความที่เป็นเก้าอี้เกมมิ่งฟังก์ชั่นการปรับเบาะต้องครบ ต้องนั่งเล่นเกมได้ ต้องนอนดูหนังได้ ต้องครบจบในตัวเดียว และ Axe E-Series ก็ให้สิ่งนั้น ตัวพนักพิงสามารถปรับเอนได้จนถึงระดับนอน (และสามารถปรับพนักแขนลงเพื่อให้นอนได้ถนัดยิ่งขึ้นได้ด้วย) ส่วนสูงสามารถปรับได้ราวๆ 10 ซม.
อย่างไรก็ตามพนักแขนรุ่นนี้สามารถปรับได้แค่ขึ้น-ลงแนวดิ่งเท่านั้น แต่สำหรับการใช้งานจริงๆ ส่วนใหญ่แล้วเราก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่านี้ ในขณะที่เบาะพิงหลังและหมอนรองคอ ก็สามารถปรับตำแหน่งและถอดออกได้ตามปกติ แต่จากการใช้งานเอง ส่วนเสริมของเก้าอี้รุ่นนี้นิ่มมากและไม่ได้เทอะทะ สามารถใช้ตามแบบเดิมๆ ที่โรงงานให้มาได้เลยครับ
3. พื้นผิว และการประกอบ
พื้นผิวของรุ่นนี้เป็นหนัง PVC ดังนั้นมันอาจจะไม่ใช่ความรู้สึกเดียวกับหนังแท้หรือพื้นผิวแบบผ้า แต่ข้อดีคือมันก็จะมีความทนทานและง่ายต่อการดูแลในแบบของมัน หรือเรายังสามารถหาเบาะหรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ มาเพิ่มเติมเองได้
การตัดเย็บของเก้าอี้ตัวนี้ใช้ด้ายหนา และมีการแนวการเย็บเก็บรายละเอียดที่ดี ดังนั้นไม่น่าจะมีปัญหาการประกอบไม่ดี หรือขาดเองในระยะเวลาอันสั้น และยิ่งแบรนด์นี้มีสตรีมเมอร์และคนดังทั้งหลายใช้กันอยู่เป็นประจำด้วยแล้ว จุดนี้น่าจะเป็นเครื่องการันตีได้อย่างดีอีกอย่างนึงครับ
4. วัสดุ และโครงสร้าง
โครงสร้างหลักของเก้าอี้ตัวนี้เป็นเหล็กหนา (ซึ่งเราคงแกะช่วงบอดี้ของเก้าอี้ให้ดูไม่ได้) ส่วนฐานมีความแข็งแรงดีใช้เหล็กเข้ารูปซึ่งดูแล้วแข็งแรงมาก ไม่น่าจะมีปัญหาถ้าไม่ได้แบกน้ำหนักเกินจริงๆ แน่นอน ด้านตัวไฮโดรลิคปรับระดับก็ให้ความรู้สึกแน่น ไม่ได้เบาหรือหลวม (ซึ่งทางแบรนด์เขารับประกันส่วนนี้ 6 ปี) รวมๆ คือด้านโครงสร้างของ Anda Seat นั้น แทบไม่ต้องห่วงครับ แน่นปั๊ก!
ตัวล้อของเก้าอี้รุ่นนี้ใช้เป็นล้อพลาสสิคและแกนล้อแบบธรรมดา แต่ขนาดของมันค่อนแข็งใหญ่และดูแข็งแรงมากๆ ที่สำคัญคือตัวล้อและโครงสร้างล้ออยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน 6 ปีของเก้าอี้ด้วย ดังนั้นรวมกับเรื่องโครงสร้างที่เรากล่าวไปด้านบน เก้าอี้ของแบรนด์นี้แข็งแรงทั้งตัวบอดี้และตัวฐานเลยทีเดียว
ในส่วนของความนุ่มที่ตัวเบาะและพนักพิงของเก้าอี้ แต่ละจุดของ Axe E-Series จะมีความนุ่มและความยวบที่แตกต่างกัน (แบบชัดเจนมากๆ) โดยบริเวณเบาะรองนั่ง จะมีความแน่นระดับปานกลาง ซึ่งนั่งแล้วรู้สึกว่านิ่มแต่ก็ไม่ได้ยวบจนเกินไป ในขณะที่พนักพิงหลังจะมีความแน่นกว่าเล็กน้อย ซึ่งดีมากๆ เพราะไม่ใช่ส่วนที่เราทิ้งน้ำหนักเหมือนเบาะรองนั่งอยู่แล้ว
ทางด้านพนักวางมือ จะแข็งขึ้นมาอีกระดับ แต่ก็ไม่ถึงขั้นแข็งแบบพลาสสิคไปเลย และส่วนที่นิ่มที่สุด ยวบที่สุดคืออุปกรณ์เสริม ทั้งหมอนรองคอและเบาะรองหลัง 2 ชิ้น จะใช้โฟมแบบ "โคตรนิ่ม" ซึ่งแน่นอนว่าตรงจุดนี้ความชอบใครความชอบมัน สำหรับใครที่ไม่ชอบให้นิ่มเกินไป จุดนี้เป็นบริเวณที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ ดังนั้นสามารถปรับแต่งอุปกรณ์เสริมจุดนี้กันได้ตามสะดวกเลยครับ
บทสรุปส่งท้ายของเราก็คือ Anda Seat รุ่น Axe E-Series เป็นอะไรที่คุ้มค่าสำหรับราคา 8,000 มากๆ กับโครงสร้างระดับคุณภาพ ที่มั่นใจได้ว่าใช้ได้ยาว ไม่มีปัญหาจุกจิกกวนใจแน่นอน ส่วนเรื่องไซส์สำหรับชายไทยร่างปกติไม่น่ามีปัญหา (สาวๆ ใช้ได้สบายๆ อยู่แล้ว)
จุดที่จะเป็นตัวตัดสินใจจริงๆ ก็อาจจะเป็นวัสดุพื้นผิว ความนิ่มความยวบ ซึ่งแต่คนก็จะมีสเปคของตัวเองแตกต่างกันไป ซึ่งอาจจะลองขยับขึ้นไปเป็น Anda Seat รุ่น Zoran หรือ Titan ดูก็ได้ครับ แต่สำหรับราคาช่วงนี้ สำหรับเก้าอี้ที่จะใช้ยาวๆ ตัวนึง ลองดู Axe E-Series ไว้เป็นตัวเลือกหลักก่อนดีกว่าครับ