เรียกว่าฮือฮามาตั้งแต่มีข่าวหลุดกันมาเลยสำหรับการ์ดจอรุ่นใหม่ในระดับกลางสูงจาก Nvidia อย่าง GeForce RTX 3060Ti ที่เขาว่ากันว่าแรงกว่ารุ่นรองท๊อปในยุคที่แล้วอย่าง 2080 Super ไปแบบสบายๆ แน่นอนว่าหลายคนไม่เชื่อ(ผู้เขียนเองก็เช่นกัน) แต่วันนี้ทาง 4Gamers ก็ได้ตัวการ์ดในรุ่น Founder Edition มาทดสอบก่อนใครเพื่อน และก็พบว่าผลทดสอบที่ทำได้จริงนั้นไม่ได้เกินเลยจากที่หลุดมาเลย
สถาปัตยกรรม, สเปก และรูปร่างของการ์ด

อย่างที่เรารู้กันว่าการ์ดแบบ Founder Edition นั้นเปรียบเหมือนการ์ดต้นแบบที่ทาง Nvidia ออกแบบไว้เบื้องต้น ก่อนที่ผู้ผลิตรายอื่นๆ จะนำไปดัดแปลงใส่ระบบระบายความร้อนและลูกเล่นอื่นต่อไป
ซึ่งการ์ด 3060Ti ตัวนี้จะใช้ชิปเซ็ต Ampere GA104 ตัวเดียวกับ RTX 3070 มี CUDA Core ประมวลผลกราฟฟิกอยู่ที่ 4864 หน่วย Tensor Core 152 หน่วย RT Core 38 หน่วย L2 Cache 4MB ซึ่งเยอะกว่าการ์ดรุ่น RTX 2080 Super อย่างเห็นได้ชัดจริงๆ เพราะ 2080 Super มี CUDA Core อยู่แค่ 3072 หน่วยเท่านั้น








ส่วนประกอบอื่นๆ นั้น ตัวการ์ดจะมาพร้อมกับ RAM GDDR6 8GB 256 bit ที่มีค่า Bandwith 448.0 GB ต่อวินาที ความเร็ว Base Clock 1410 MHz กินพื้นที่ในการติดตั้ง 2 Slot และจำเป็นต้องเสียบช่องไฟเลี้ยงแบบ 12 pin เพิ่มอีกหนึ่งช่อง ส่วนการใช้พลังงานก็ไม่เยอะนัก โดยอยู่ที่ 200W ซึ่งเครื่องที่ใช้ Power Supply แบบ 550W ก็น่าจะเอาอยู่แน่นอน






ส่วนการออกแบบนั้นตัวการ์ดก็ยังคงสวยงามและมีเอกลักษณ์แบบเดียวกับการ์ดรุ่น RTX 3000 Series ตัวอื่นๆ เรียกว่าสายสะสมได้เห็นแล้วต้องมีตาลุกวาวกันบ้างแหละ
สเปกเครื่องที่ใช้ในการทดสอบ
- CPU: Intel Core i9-10900K
- Motherboard: ASUS ROG Maximus XII Hero
- Radiator: Thermalright Silver Arrow T8 with the same factory TF8 thermal paste
- Memory: Kingston HyperX Predator DDR4-3600 16GBx2
- Storage: Kingston KC2500 NVMe PCIe SSD 2TB
- Power supply: Antec High Current Pro HCP-1200W
เล่นเกมแรงหายห่วง เร็วกว่ารุ่นเก่าจริงแบบชัดเจน





ใหม่กว่า ดีกว่า คือนิยามที่ชัดเจนของการทดสอบครั้งนี้ เพราะ RTX 3060Ti ชนะทุกการทดสอบแบบเป็นเอกฉันน์จริงๆ เกมใหม่อย่าง Assassin's Creed Valhalla, Godfall, Watch Dogs Legion หรือ Red Dead Redemption 2 ไม่ว่าจะความละเอียดแบบ 2K หรือ 4K ก็ทำได้ดีกว่าทั้งสิ้น แม้ในบางเกมค่าที่ได้นั้นจะใกล้เคียงกันมาก แต่ด้วยราคาค่าตัวที่ถูกกว่ากันหลายเงิน ทำให้ 3060Ti ตัวนี้น่าสนใจกว่าเห็นๆ



ส่วนถ้าเปิดใช้งาน Ray Tracing โดยมีคู่แข่งอย่าง RX 6800XT มายืนเทียบ 3060Ti เราก็จะยังเห็นได้ว่าตัวการ์ดยังทำเฟรมเรทไปได้ดีกว่าเช่นกัน แม้ในเกมอย่าง Shadow of the Tomb Raider 3800XT จะเหนือกว่าเล็กน้อย แต่เมื่อเปิด DLSS แล้ว เฟรมเรทที่ได้ก็ยังสูสีกันมากทีเดียว
แต่ถ้าสังเกตกันสักหน่อย เราจะเห็นว่าที่ความละเอียดแบบ 4K เปิดสุดทุกอย่าง ตัวการ์ดนั้นอาจจะทำเฟรมเรทได้ไม่ถึง 60 FPS ในเกมใหญ่ๆ แต่สำหรับราคาที่น่าจะอยู่ในระดับหมื่นต้นๆ ก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากๆ แถมยังรองรับ Ray Tracing อีก เรียกว่าประสิทธิภาพดีน่าจะเกินราคาไปมากทีเดียว
การประมวลผลแบบสามมิติที่ยังคงเชื่อใจได้



แน่นอนว่าจากความได้เปรียบที่ตัวการ์ดมี RT Core เพิ่มขึ้นมาจากเดิม ทำให้การประมวลผลสามมิติทำได้ดีกว่าเดิมมาก โดยเร็วกว่า RTX 2080 Super อยู่ประมาณ 1.6 เท่า และเร็วกว่า RTX 2060 Super 2.6 เท่า ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากทีเดียว
การกินไฟและอุณหภูมิ



แม้จะเป็นการ์ดแบบ Founder Edition แต่การระบายความร้อนของการ์ดจอก็ทำได้ดีในระดับหนึ่ง การทดสอบในช่วง Full Load ด้วย 3D Mark Stress Test นั้น ตัวการ์ดมีความร้อนพุ่งขึ้นสูงสุดที่ประมาณ 69 องศา ส่วนการใช้ไฟก็แทบจะเรียกว่าเหยียบเส้น 200W ที่กำหนดไว้นิดหน่อย ซึ่งเรียกว่ากินไฟน้อยลง แต่แรงขึ้นเห็นๆ นั่นเอง
โดยรวมแล้วน่าสอยหรือเปล่า?

ณ เวลานี้ที่ตัวผู้เขียนกำลังพิมพ์อยู่นี้ RTX 3060Ti ยังไม่เปิดราคาขายในไทย(แต่เชื่อว่าใกล้เต็มที่แล้ว) แต่ถ้าจะให้คาดเดาราคา ก็คงไม่น่าเกิน 13,000 บาทไทย ด้วยประสิทธิภาพที่ดีกว่าการ์ดรุ่นเก่าแบบเห็นๆ แถมราคายังถูกกว่าอีกด้วย
ซึ่งสำหรับใครที่อยากจะซื้อการ์ดจอใหม่เพื่อรอการมาของ Cyberpunk 2077 ในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ และก็ไม่ได้มีเงินถุงเงินถังขนาดไปสอย RTX 3080 ได้ เจ้าการ์ดตัวนี้อาจตอบโจทย์คุณได้อย่างที่ต้องการ ทั้งฟังก์ชั่นรองรับ Ray Tracing ราคาที่ถูกกว่า และกินไฟน้อยกว่า เรียกว่าถ้าวางขายแล้วล่ะก็ตัวการ์ดน่าจะเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมากแน่นอนครับ