God of War กับก้าวใหม่อันทะเยอทะยาน ที่ปูทางตำนานเทพไปสู่ความรุ่งโรจน์

วันศุกร์ที่ 22 มกราคม พุทธศักราช 2564 16 นาฬิกา 29 นาที 09 วินาที เวลาอินโดจีน

StolenHeart

หากเอ่ยถึงเกมที่เจ้าของเครื่อง PS4 ต้องมีติดเครื่องหรือต้องเล่นก่อนตาย สามอันดับแรกของหลายๆ คนยังไงก็ไม่พ้นเกม God of War อย่างแน่นอน แม้ก่อนหน้านี้ไตรภาคการผจญภัยเข้าต่อกรฆ่าเหล่าเทพแห่งเขาโอลิมปัสของนักรบคลั่ง Kratos จะจบลงไปแล้ว แต่สำหรับเกมภาคใหม่กับการเปิดตำนานไปต่อกรกับเทพ Norse นั้นถือเป็นการนำพาซีรีส์นี้ไปสู่ก้าวใหม่แบบที่ไม่เคยมีใครเจอมาก่อน

วันนี้เราจะกลับมาทำความรู้จักกันว่า เพราะอะไร God of War จึงเป็นเกมที่น่าสนใจ และควรค่าแก่การสัมผัสสักครั้งหนึ่งในชีวิตนี้

จุดเริ่มต้นของตำนาน

ปี 1999 ถือเป็นปีทองอีกหนึ่งปีของวงการเกม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเครื่อง PlayStation ของ Sony ที่ยังคงครองความเป็นหนึ่งในตลาด และในปีนี้เราก็มีดังอย่างเช่น Final Fantasy VIII, Gran Turismo 2, Resident Evil 3: Nemesis, Syphon Filter และอีกมากมาย รวมไปถึงสตูดิโอผู้พัฒนาเกมใหม่ๆ ที่ถือกำเนิดขึ้นจากการเติบโตของแบรนด์ PlayStation นี้ด้วย

ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Santa Monica Studios ที่ถือกำเนิดมาจากคนที่มีใจรักและอยากสร้างเกมที่ตนเองชื่นชอบขึ้นมา

Allan Becker คือชื่อของชายคนนั้น เขาเป็นอดีตพนักงานของ Sony Computer Entertainment ที่ทำงานมานาน ดำรงตำแหน่งระดับสูงของบริษัทในเครือเช่น Sony Image Soft, 989 Studios เป็นต้น และ 989 Studios ก็เป็นหนึ่งในทีมงานที่สร้างผลงานยอดเยี่ยมของ PlayStation อย่าง Syphon Filter ที่แสดงให้เห็นว่า เครื่องคอนโซลก็มีเกมเดินหน้ายิงที่ยอดเยี่ยมได้เหมือนกัน

Allan Becker ผู้ก่อตั้งคนสำคัญของ Santa Monica Studio

จนในปี 1999 คุณ Becker ก็ได้ออกมาก่อตั้งสตูดิโอเพื่อพัฒนาเกม โดยยังอยู่ในใต้ร่มเงาของ Sony ซึ่งใช้ชื่อว่า Santa Monica Studio ซึ่งเดิมทีนั้นตัวบริษัทจะถูกตั้งไม่ห่างจากสตูดิโอหลักของ Naughty Dog ผู้สร้าง Uncharted และ The Last of Us แต่ท้ายที่สุด พวกเขาก็เลือกที่จะตั้งสำนักงานในเมือง Santa Monica ของมลรัฐ California แทน และที่มาของชื่อค่ายตั้งแต่บัดนั้น

ผลงานแรกของทีม Santa Monica Studio นั้นเป็นเกมแข่งรถมอเตอร์ไซด์ล้ำอนาคต Kinetica ออกวางจำหน่ายบนเครื่อง PS2 ในวันที่ 14 ตุลาคม 2001 ซึ่งก็ได้รับคะแนนรีวิวจากสื่อไปในทางที่ดี แต่ไม่ได้โดดเด่นมากนัก ถือเป็นงานเปิดตัวของพวกเขาที่ค่อนข้างโอเคเลย

นอกจากนั้น Santa Monica Studios ยังทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้กับทีมพัฒนาเกมอินดี้ที่ต้องการนำผลงานมาลงขายให้กับเครื่องคอนโซล ซึ่งผลงานโดดเด่นในการร่วมมือกันเช่นนี้ก็คือ Journey ผลงานเกมอินดี้น้ำดีระดับเทพของ Thatgamecompany นั่นเอง

จุดเปลี่ยนแห่งความรุ่งโรจน์ได้มาถึงเมื่อพวกเขาเมื่อหนึ่งในทีมงานคือคุณ David Jaffe ผู้กำกับเกมมือเก๋าที่มีประสบการณ์จากเกมขับรถไล่ยิงสุดเดือดในตำนาน Twisted Metal ที่สื่อและเกมเมอร์ยกย่องให้เป็นหนึ่งในเกมบนเครื่อง PlayStation ที่ดีที่สุดตลอดกาล โดยพวกเขาใช้ชื่อในการพัฒนาว่า Dark Odyssey ซึ่งก็มีการซุ่มเงียบทำกันภายในอยู่นานถึงสองปี ก่อนที่จะมีการโชว์ตัวอย่างเกมในงาน Santa Monica game Day 2004

โดยทาง GameSpot ได้สอบถามทางทีมงานเกี่ยวกับการพัฒนาว่าในเกมเวอร์ชั่นสุดท้ายนั้น ตัวละครจะมีท่วงท่าในการโจมตีมากถึง 15 - 25 แบบในเกมเวอร์ชั่นสุดท้าย และรูปแบบการต่อท่าคอมโบนั้นจะมีความอิสระสูง ซึ่งนับเป็นอะไรที่ใหม่และไม่เคยมีใครทำมาก่อนในยุคนั้น และยังบอกอีกว่าตัวเกมนั้นจะมีการผสมผสานความสนุกของเกมดังสองเกมอย่าง Devil May Cry ที่เน้นการต่อสู้สุดมัน และการแก้ไขปริศนาแบบ ico แต่อัดฉีดความโหดลงไปเพิ่มเติม

หลังจากนั้นในงาน E3 2004 ทุกคนก็ได้รู้จักกับ God of War ด้วยความน่าสนใจ ดิบเถื่อน พร้อมเรื่องราวที่ได้ต่อกรกับเหล่าเทพผู้ทรงพลังด้วยความรุนแรง มันจึงกลายเป็นเกมที่ได้รับความสนใจจากสื่อต่างๆ อย่างรวดเร็ว ทั้งคอนเซปต์ รูปแบบการเล่น และเนื้อเรื่องที่แหวกขนบคนที่อยากลุกขึ้นมาตบหน้าเหล่าเทพให้ยับเยินสักครั้งในชีวิต

หนึ่งปีต่อมา God od War ภาคแรกได้ฤกษ์วางจำหน่าย และมันก็กลายเป็นเกมที่ทุกคนชื่นชอบไปในทันที จากระบบการเล่นที่ถูกเกลามาอย่างดีเยี่ยม เนื้อเรื่องดิบเถื่อนแต่น่าติดตามที่อิงมาจากตำนานเทพกรีกได้ดีเยี่ยม รวมไปถึงมาดของตัวเอก Kratos ที่ไม่สนใจว่าศัตรูที่เจอจะเป็นใคร จะเก่งมาจากไหน ใครที่ขวางเขาเป็นอันต้องจบชีวิตไม่ก็ต้องจมลงที่แทบเท้าของเขาทั้งสิ้น

และแน่นอนว่าตัวเกมได้รับเสียงตอบรับอันยอดเยี่ยมกลับมาทันทีที่วางจำหน่าย ด้วยคะแนนรีวิวจากสื่อสูงลิ่ว(ได้รับคะแนนเต็มจาก Game Informer, GameSpy และสื่ออื่นๆ อีกมากมาย) เสียงตอบรับจากผู้เล่นที่ท่วมท้น และรางวัลจากเวทีต่างๆ มากมาย และยอดขายที่เป็นประวัติการณ์ ทำให้ God of War กลายเป็นเกมชูโรงเกมใหม่ของ Sony และเครื่อง PlayStation ไปในทันที

เส้นทางใหม่หลังจบไตรภาค กับปกรณัมแห่งเทพนอส

ด้วยความสำเร็จอันมากมาย ทำให้เราได้เห็นภาคต่อและภาคย่อยของเกมออกตามมามากมาย และจบตำนานไตรภาคของเกมไปในภาคที่สามอย่างสุดประทับใจ Kratos แก้แค้นให้ครอบครัวและทำให้อาณาจักรของเหล่าเทพแห่งโอลิมปัสล่มสลายลงไป พร้อมเสียสละตัวเองกับพลังพร้อมไปใช้ใช้ชีวิตใหม่ แต่ทางทีมงานก็มีไอเดียอื่นๆ เตรียมรอไว้ให้ชายคนนี้อยู่แล้ว

ไม่กี่ปีต่อมา E3 2016 งานเกมสุดยิ่งใหญ่ประจำปีก็ได้เวียนกลับมาอีกครั้ง และทาง Sony ที่มีการเปิดตัวเครื่อง PS4 ไปอย่างยิ่งใหญ่เมื่อไม่กี่ปีก่อน ก็กำลังทุ่มสุดตัวผลักดันให้เกมบนเครื่อง PS4 เป็นที่จดจำและสร้างฐานแฟนเกมให้มากขึ้นตาม และการเปิดตัวเกมใหม่ที่น่าตื่นตาจึงเป็นสิ่งจำเป็นยิ่ง

God of War ฉบับ Reboot จึงกลับมาอีกครั้ง ไม่มีชื่อภาค ไม่มีตัวเลขต่อท้าย แต่ทุกคนรู้ว่า Kratos คนเดิมที่มากประสบการณ์ แต่ยังคงความดิบเถื่อนเอาไว้ได้กลับมาอีกครั้งแล้ว และที่สำคัญ เขายังมีมาดที่เท่ขึ้นกว่าเดิมด้วยอายุที่มากขึ้น ใจเย็นขึ้นแม้จะยังคงมีความเดือดพล่านระอุอยู่ภายใน เป็นพัฒนาการของตัวละครที่ยอดเยี่ยมน่าสนใจอย่างแท้จริง

ส่วนกระแสของเกมนั้นบอกได้เลยว่าแรงขึ้นทุกครั้งเมื่อมีตัวอย่างหรือ Gameplay ใหม่ ๆ ออกมาโชว์ กับระบบการต่อสู้ที่พัฒนามากกว่าเดิมการแก้ปริศนาที่ใช้หัวคิดมากขึ้นจากการร่วมมือกับตัวละครใหม่ Atreus ลูกชายของ Kratos ซึ่งสร้างกระแสความอยากเล่นให้กับทุกคนที่ชมมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงวันวางจำหน่ายกันเลย

และในที่สุด God of War ก็ได้ฤกษ์วางจำหน่ายในวันที่ 20 เมษายน 2018 พร้อมการต้อนรับอย่างอบอุ่น ไปสู่หมุดหมายใหม่ที่พวกเขาไม่เคยไปถึงมาก่อน

แน่นอนว่าคะแนนจากสื่อต่างๆ สูงอย่างไม่น่าแปลกใจ สื่อหลายเจ้าพร้อมเทคะแนน 10/10 แบบไร้ข้อกังขา และคะแนนจากผู้เล่นใน Metacritic ก็สูงถึงระดับ 94/100 ยิ่งไม่ต้องพูดถึงยอดขายของเกมที่แตะหลังล้านชุดในเวลาอันรวดเร็ว(ขายได้ 3.1 ล้านชุดทั่วโลกในสามวัน) ทำสถิติเป็นเกมบนเครื่อง PS4 ที่ขายได้เร็วและมากที่สุดของปี และยอดรวมก็เกิน 10 ล้านชุดไปแบบสบาย ๆ

ทำไมมันถึงประสบความสำเร็จ? อะไรที่ผลักดันให้ God of War ไปถึงจุดสูงสุดครั้งใหม่เช่นนี้ได้?

ถ้าจะให้เราเล่า เราก็คงบอกได้แค่ว่า นี่คือเกมชั้นยอดที่ถูกรังสรรค์มาอย่างปราณีต เพาะบ่มมาอย่างเหมาะสม อีกทั้งเรื่องราวของเทพนอร์สก็กำลังอยู่ในกระแสหลักของสื่อบันเทิงในช่วงนั้น รวมไปถึงตัวเกม God of War เองก็เป็นที่ชื่นชอบของทางแฟนๆ PlayStation เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้มันได้รับความสนใจมากขึ้น และความประทับใจที่บอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างพ่อและลูกก็ยอดเยี่ยมกินใจ เรียกว่าไม่ได้เล่นท่ายาก แต่ใช้เรื่องราวง่ายๆ แต่เล่าเรื่องให้โดนใจ เท่านี้ก็สุดยอดมากพอแล้ว

ส่วนระบบการเล่นก็ได้รับการพัฒนาให้ถูกอกถูกใจคนเล่นมากขึ้น มีความยากหลายระดับให้เลือก และเลือกอัปเกรดตัวละครได้มากมาย ส่วนศัตรูก็มีรูปแบบการจัดการที่ต้องใช้ทั้งสมองและความว่องไว แต่ก็มีระดับความยากให้เลือกตามความต้องการของผู้เล่นอย่างเหมาะสม จะยากแบบสุด ๆ หรือง่ายพอผ่านไหวเพื่อเสพเนื้อเรื่อง เกมนี้มีให้พร้อมสรรพ์

และบอกเลยว่า นี่คือเกมที่ใช้ทรัพยากรของเครื่อง PS4 ได้เต็มประสิทธิภาพที่สุด ทั้งภาพสวยงามจัดเต็ม และยิ่งสวยขึ้นไปอีกบนเครื่อง PS4 Pro หรือบน PS5 รุ่นใหม่ แค่ผู้เล่นเข้าไปชมความสวยงามและบรรยากาศก็คุ้มค่ามากๆ แล้ว ใครที่มีเครื่อง PS4 แล้วยังไม่ได้เล่นเกมนี้ ก็ขอให้ซื้อมาลองเถอะ ไม่ผิดหวังแน่นอน

และในอีกไม่ช้า เราก็น่าจะได้เห็นรายละเอียดของภาคต่อ Ragnarok ที่เปิดตัวมาเมื่อปีที่แล้วแบบแว้บ ๆ รวมไปถึงอาจมีโอกาสได้ฟาดปากกับเทพระดับสูงอย่าง Thor, Loki หรือคนอื่น ๆ ที่ยังไม่ปรากฏตัวมาในภาคนี้ด้วย เชื่อได้เลยว่านี่จะเป็นเกมชูโรงของเครื่อง PS5 อย่างแน่นอน

สำหรับใครที่อยากรู้ว่า God of War ที่วางจำหน่ายในปี 2018 นั้นมีเรื่องราวอย่างไร และน่าติดตามแค่ไหน ตอนนี้เราก็มีแคสเตอร์หลายคนที่เล่นเกมนี้รอไว้อยู่แล้ว เช่น HeartRocker, Bay Riffer และคนอื่น ๆ ในแบบภาษาไทยอีกเพียบ แถมพวกเราอาจจะมีลุ้นได้เล่นเกมนี้ในรูปแบบภาษาไทยเหมือนกับเกมดังอื่น ๆ อย่าง The Last of Us, Ghost of Tsushima และ Cyberpunk 2077 ก็เป็นได้

Tags: #GodofWar #PS5 #PS4 #heartrocker

Play!