สำหรับใครที่มาทันช่วงก่อนปี 2010 ที่ยุคทองของเกม Flash บนหน้าเว็บ อาจจะเคยคุ้นหูกับเกม The Last Stand เกมแนว Action- Rouge Lite ที่จะให้ผู้เล่นสวมบทบาทเป็นผู้รอดชีวิตในโลกหลังหายนะซอมบี้ หลังจากที่ภาค Dead Zone ได้ถูกปล่อยออกมาในปี 2012 The Last Stand ก็เงียบหายไปถึง 6 ปีเต็ม จนกระทั่งการเปิดตัว The Last Stand: Aftermath ในงาน PAX เมื่อปี 2018 ล่าสุดนี้ ทีมผู้สร้างได้กลับมาเปิดให้แฟนเกม Download ตัว Demo ให้ได้ลองเล่นกันแล้ว

The Last Stand: Aftermath พัฒนาโดย Con Artist Games ที่พัฒนาเกมซีรีส์นี้มาตั้งแต่ภาคแรก ตัวเกมพลิกโฉมกราฟิกใหม่ทั้งหมดด้วย Unity Engine พร้อมเกมเพลย์ที่ลึกและละเอียดกว่าเดิม อันที่จริงแล้ว ตัว Demo ได้ถูกปล่อยออกมาให้ได้เล่นกันตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021 ที่ผ่านมา และปิดการ Download ไป จนกระทั่งกลับมาให้ Download อีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้ ผู้เขียนก็ถือโอกาสหยิบตัวเกมมาลองรีวิว ก่อนที่เราจะได้ไปสัมผัสตัวเกมที่จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
| GAMEPLAY

ในเกมภาคนี้จะมาในมุมมองแบบ Top-Down Shooter ที่ผู้เล่นจะเห็นฉากในเกมจากมุมบนลงมา โดยเราจะได้รับบทเป็นผู้รอดชีวิตที่ติดเชื้อไวรัสไปแล้ว แต่ยังไม่แสดงอาการออกมา ภารกิจของผู้เล่นก็คือการออกเดินทางไปยังจุดหมาย และรวบรวมทรัพยากรต่าง โดยทุกอย่างในเกมทั้งไอเทมและศัตรูจะปรากฏแบบสุ่ม ตามสไตล์ของเกม Rouge Lite ทำให้ตัวเกมมีความสมจริงและคาดเดาได้ยาก และเป็นเกมที่มีความท้าทายผู้เล่นสูงเลยทีเดียว เพราะไม่มีทางรู้ว่าข้างหน้าเราจะเจออะไร?
ในการรวบรวมทรัพยากรนั้น ผู้เล่นสามารถกด Shift ซ้าย เพื่อแสดงจุดสนใจต่าง ๆ ในเกมที่ผู้เล่นสามารถเข้าไปสำรวจได้ ทั้งไอเท็มตามบ้าน, วิทยุ, เครื่องจ่าย Antiviral และห้องใต้ดินที่มีอาจมีไอเทมดี ๆ ซ่อนอยู่ (พร้อมซอมบี้อีก 2-3 ฝูง) นอกจากนี้ ผู้เล่นจะต้องคอยตามหาและสะสมน้ำมันไว้ เพื่อเติมให้กับรถของผู้เล่น ให้ยังสามารถออกเดินทางต่อไปได้ ในบางครั้งที่รถถูกซอมบี้โจมตี ถ้ามีโอกาสก็ควรจะหาเวลาซ่อมแซมด้วย เพราะผู้เล่นจะต้องเดินทางไปมาตลอดทั้งเกม
ตัวเกมมาพร้อมกับระบบการ Craft ไอเท็ม ที่ผู้เล่นจะสามารถ Craft ได้ที่ข้างกองไฟ หรือโต๊ะอุปกรณ์ช่าง ซึ่งจะปรากฏอยู่ตามจุดต่าง ๆ ของแผนที่ ผู้เล่นสามารถสร้างอุปกรณ์, ยา และไอเทมที่จำเป็นต่อการเอาชีวิตรอดต่าง ๆ ได้ในจุดนี้ ในส่วนของ Skill จะใช้วิธีการเก็บข้อมูลความรู้ต่าง ๆ ที่มีให้เก็บตามฉากเหมือนไอเทม แล้วนำไปส่งให้กับแคมป์ผู้รอดชีวิตผ่านทางวิทยุอยู่ในแผนที่ เพื่อใช้คะแนนความรู้ที่ได้มาในการเพิ่มทักษะของตัวละคร ทั้งทักษะการใช้อาวุธ, การเอาตัวรอด และความสามารถทางร่างกายต่าง ๆ

นอกจากจะต้องเอาชีวิตรอดท่ามกลางฝูงซอมบี้แล้ว ผู้เล่นจะต้องตามหา Anitiviral เพื่อยับยั้งการแสดงอาการของผู้เล่นไว้เช่นกัน เพราะตัวผู้เล่นนั้นติดเชื้อไวรัสมาตั้งแต่ต้นเกมแล้ว โดย Anitiviral จะมีผลเพียงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไป พลังชีวิตตัวละครจะค่อย ๆ ลดลงและกลายพันธุ์ไปทีละน้อย เมื่อผู้เล่นกลายพันธุ์ไปได้ระดับหนึ่ง ผู้เล่นจะได้รับความสามารถทางร่างกายตามลำดับ ยิ่งอยู่นานเท่าไหร่ อาการของผู้เล่นยิ่งร้ายแรงมากขึ้นเท่านั้น

ในส่วนของระบบการต่อสู้ ผู้เล่นสามารถเลือกการโจมตีได้ทั้งแบบระยะประชิด ด้วยอาวุธ Melee หรือโจมตีจากระยะไกลด้วยอาวุธปืน อาวุธทุกชิ้นในเกม จะถูกสุ่มสถานะและความสมบูรณ์ไว้ อาวุธบางชิ้นที่เก็บได้ อาจจะอยู่ในสภาพร่อแร่ใกล้พัง นั่นส่งผลต่อการใช้งานขณะต่อสู้ได้ ยิ่งกับอาวุธ Melee ที่มีค่าความคงทนกำหนดไว้ อาจจะทำให้อาวุธชิ้นนั้น ๆ ใช้งานได้ไม่นาน นอกจากนียังมีระบบติดตั้งอุปกรณ์ในอาวุธปืนด้วย ผู้เล่นสามารถตามเก็บอุปกรณ์เสริมได้ตามฉาก หรือทำการ Craft อุปกรณ์นั้น ๆ ขึ้นมาเองได้ อย่างที่เก็บเสียงขวดน้ำเป็นต้น
สำหรับศัตรูที่เป็นซอมบี้ในเกมนั้น เรียกได้ว่ามีอยู่ทุกหัวมุมของฉาก และมีจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว โดยซอมบี้พวกนี้จะมีด้วยกันหลากหลายประเภท ทั้งแบบที่เป็นซอมบี้ธรรมดา, ซอมบี้วิ่งเร็ว, ซอมบี้ระเบิด ไปจนถึงซอมบี้ที่แข็งแรงกว่าปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่กระสุนของผู้เล่นหมดก่อนเวลาอันควร
| GRAPHIC & PERFORMANCE

ตัวเกมภาคนี้ถูกพัฒนาด้วย Unity Engine ซึ่งจะแตกต่างจากภาคแรก ๆ ที่พัฒนาด้วย Flash ถึงแม้จะเป็น Engine ขวัญใจนักพัฒนาเกม Indy ที่หลาย ๆ คนอาจเคยเปรียบเทียบกับ Engine เจ้าอื่น ๆ ที่ให้ภาพที่สวยงามกว่า แต่สิ่งที่เห็นในเกมนี้คือคุณภาพกราฟิกที่ไปไกลกว่าภาพจำของใครหลาย ๆ คนมาก การ Render สภาพแวดล้อม, แสง-เงา และบรรยากาศในเกมนี้น้อง ๆ เกมระดับ AAA เลยทีเดียว และจากการที่ผู้เขียนได้ทดลองเล่นเองแล้ว ตัวเกมถือว่าใช้ทรัพยากรได้ไม่หนักเท่าไหร่นัก เรียกได้ว่ารันอย่างไหลลื่นเลยทีเดียว แต่สำหรับคอมพิวเตอร์รุ่นเก่า ๆ นั้นอาจจะต้องลองคิดดูสักหน่อย เพราะตัวเกม Render ออกมาได้โหดจริง ๆ
| CRITICISM
ถึงจะมีระบบเกมที่ลึก และ Gameplay ที่ท้าทาย แต่ก็ยังมีจุดที่น่ารำคาญอยู่พอสมควร ทั้ง โดยเฉพาะระบบการยิงปืน ที่ยิง ๆ ไป อาจจะไปติดกับเหลี่ยมมุมของประตูหรือกำแพงในฉากได้ และเมื่อศัตรูอยู่บนเนิน แนวยิงของผู้เล่นก็จะไปจบที่พื้นเนินแทนที่จะเป็นศัตรู ซึ่งต้องเปลี่ยนตำแหน่งให้อยู่ระดับความสูงเดียว นอกจากนี้ระบบการใช้ไอเทมที่ทำมาสำหรับการเล่นด้วย Controller เมื่อเล่นกับคีย์บอร์ดและเมาส์ ก็ให้ความรู้สึกยุ่งยากชีวิตขึ้นมาทันที
| CONCLUSION

The Last Stand: Aftermath ถือเป็นตัวเกมที่มีการพัฒนารอบด้านอย่างก้าวกระโดด นับตั้งแต่ปี 2007 ที่ภาคแรกออกมาจนกระทั่งปัจจุบัน เรียกได้ว่าแทบจะเป็นคนละเกม จนแทบจะชนกับเกมจากค่ายดังได้สบาย ๆ ด้วยความที่เป็นเกมสไตล์ Rouge Lite ทำให้ความ Survival ของตัวเกมมีความเข้มข้นมากขึ้น พร้อมกราฟิกที่รีดความสามารถของ Unity Engine ได้มากกว่าหลาย ๆ เกมในภาพจำของผู้เขียน แม้จะมีการ Control ที่อาจจะดูน่ากำหมัดสำหรับคนที่เล่นด้วยเมาส์กับคีย์บอร์ด และระบบการยิงปืนที่แอบน่าหงุดหงิดนิดหน่อย แต่โดยรวมแล้วถือเป็นเกมที่ไม่ว่าจะเป็นแฟนซีรีส์ตัวยงจากยุค Flash หรือแฟนเกมแนว Survival Rouge Lite พลาดไม่ได้เลยจริง ๆ
ตัวเกมที่นำมารีวิวนี้ ขอย้ำอีกครั้งว่ายังเป็นตัว Demo สำหรับทดลองเล่นอยู่ ตัวเกมจริงอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดย The Last Stand: Aftermath จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการภายในปี 2021 นี้ โดยจะลงให้กับ PC, Xbox Series X|S, Playstation 4 และ 5