ลุยกันต่อไปแบบเดือด ๆ สำหรับการแข่งขันในรายการ VALORANT Champions Tour 2023: LOCK//IN São Paulo หลังจากเมื่อช่วงค่ำคืนก่อนพวกเราได้เห็นฝีมือของ FNATIC และ Sentinels ที่ตอนแรกคิดว่าตัวเกมจะออกมาอย่างสูสีจนต้องดูกันตาแฉะ แต่กลับผิดคาด เพราะ การแข่งขันดันจบเร็วกว่าที่คาด แต่สำหรับใครต้องการอยากจะรับรู้ถึงบทสรุปของการแข่งขันเมื่อวันก่อน ก็สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้ในบทความนี้
สำหรับการแข่งขันรายการ VALORANT Champions Tour 2023: LOCK//IN São Paulo ของกลุ่ม OMEGA ในวันที่ 10 จะทำการแข่งขันด้วยกันทั้งหมด 2 คู่ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- Team Secret vs Natus Vincere เวลา 00:00 น.
- Leviatan vs Team Vitality เวลา 03:00 น.
โดยการแข่งขันในคู่แรกจะเป็นการพบกันระหว่าง Team Secret vs Natus Vincere สำหรับศึกครั้งนี้จะเป็นการแข่งขันระหว่างทีม Underdog ของ Pacific และทีมตัวเต็งจาก EU ถึงแม้ว่า Team Secret จะโชว์เข้มคว้าชัยชนะจาก Team Liquid แต่สำหรับ Natus Vincere ถือได้ว่าระดับฝีมือค่อนข้างจะต่างกันมาก ถึงแม้ว่า Team Secret จะสามารถตีแต้มนำช่วงแรกไปได้ก่อน แต่สุดท้ายด้วยฝีมือของผู้เล่นจาก Natus Vincere จึงทำให้พวกเค้าตีแต้มคืน พร้อมปิดเกมไปด้วยสกอร์ 2 - 0 ( 13:8 , 13:4 ) และส่งผลให้ Team Secret ต้องเก็บของกลับบ้านไปอย่างเศร้า ๆ
ส่วนการแข่งขันในคู่สุดท้ายของวันจะเป็นการพบกันระหว่าง Leviatan vs Team Vitality โดยการแข่งขันของในคู่นี้ ทั้งสองทีมต่างใส่เต็ม และ หยิบแผนออกต่าง ๆ ออกมาใช้กันอย่างจัดเต็มจนทำให้การแข่งขันในแผนที่แรกต้องลากยาวถึงรอบ OT แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ความดุเดือดเพียงแค่แผนที่เดียวเท่านั้น เพราะหลังจากเข้าสู่แผนที่ต่อมากลายเป็นว่าทาง Leviatan กลับกระชาก Team Vitality ลงมาซัดคาแผนที่ของตัวเองจนย่อยยับ ส่งผลให้ชัยชนะตกเป็นของ Leviatan ไปด้วยสกอร์ 2 - 0 ( 16:14 , 13:3 ) และทำให้ Team Vitality ต้องกลับบ้านไปตามระเบียบ
ซึ่งการแข่งขันในรอบต่อไปจะเริ่มต้น วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ตั้งแต่เวลา 00:00 น. และจะมีการแข่งขันทั้งหมด 2 คู่ ประกอบไปด้วย
- FUT Esports vs 100 Theives เวลา 00:00 น.
- FNATIC vs FURIA เวลา 03:00 น.
สุดท้ายนี้การแข่งขันในรายการ VALORANT Champions Tour 2023: LOCK//IN São Paulo จะเริ่มต้นตั้งแต่ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ - วันที่ 4 มีนาคม ซึ่งก็ต้องมารอติดตามกันว่าทีมใดจะสามารถคว้าแชมป์ในรายการนี้ได้สำเร็จ พร้อมคว้าเงินรางวัลรวมกว่า $500,000 ไปครอง รวมถึงแต่ละสังกัดจะงัดแผนออกมาให้ได้รับชมขนาดไหนก็ต้องติดตามกันต่อไป