"เป็นดาบที่ใช้เวลาลับร่วม 10 ปี" ประโยคนี้กับโน้ตบุ๊กรุ่นล่าสุดของ GIGABYTE คงเป็นคำอธิบายที่เหมาะสมที่สุด
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาโน้ตบุ๊กของ GIGABYTE ได้ยกระดับให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ หนึ่งในนั้นคือรุ่นซีรีย์ AERO ที่มุ่งมั่นสร้างขึ้นมาให้กับเหล่าครีเอเตอร์นักออกแบบโดยเฉพาะ และในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2023 จะมีการเปิดตัวโน้ตบุ๊กรุ่น AERO 16 OLED Twilight Silver ที่ขับเคลื่อนด้วยพลัง CPU Gen 13 รุ่นล่าสุดของ Intel ผนึกพลังร่วมกับการ์ดจอ NVIDIA 40 series ตอบสนองต่อความต้องการของเหล่าครีเอเตอร์นักออกแบบด้วยการที่สามารถปรับแต่งสีของ screen panels, สี (colors) และในส่วนของ Input / Output ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
AERO 16 OLED มีดีไซน์ตัวเครื่องที่ทำจากโลหะอะลูมิเนียมผ่านกระบวนการ CNC แบบ Unibody ทำให้โน้ตบุ๊กดูมีความแหลมคมผสมกับตัวเครื่องที่โค้งมน ทำให้ไม่เพียงแค่ดูแล้วแต่มันยังช่วยเรื่องความสบายมือตลอดระยะเวลาการใช้งานอีกด้วย และด้วยความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบขอบให้ตัวโน้ตบุ๊กมีความบางเพียง 3 มม. ทั้ง 4 สีด้าน ทำให้ภาพรวมของตัวเครื่องจะมีขนาดเล็กพอดีกับหน้าจอขนาดใหญ่ทำให้ขอบเขตการมองเห็นค่อนข้างกว้าง และยกระดับความหรูหราไปอีกขั้นกับเอฟเฟกต์แสงจากตัวอักษร AERO หลังเครื่อง
การออกแบบที่ดี เริ่มต้นจากการมองเห็น!
AERO 16 OLED ใส่ใจกับเรื่องการแสดงผลของหน้าจออย่างมาก เพราะเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญลำดับต้น ๆ ของครีเอเตอร์นักออกแบบด้วยการใช้หน้าจอ 4K OLED เพื่อให้ได้สีที่แม่นยำสมบูรณ์แบบ
หน้าจอขนาด 16 นิ้ว ของ AERO 16 OLED รองรับเขตสี DCI-P3 ได้ 100% เต็ม และด้วย VESA DisplayHDR 600 TrueBlack ทำให้คอนทราสต์สีได้มากกว่า พร้อมปรับความสว่างได้สูงสุด 600 nit และสีดำ 0.0005 nit จึงกำหนดความสว่างและความมืดได้อย่างชัดเจน ซึ่งทั้งหมดอยู่ภายใต้ความคมชัดของหน้าจอที่ 24 ล้านพิกเซล และมีอัตรารีเฟรช FPS อยู่ที่ 144Hz
หน้าจอ AERO 16 OLED ได้รับการรับรองโดย SGS Cinematic Experience กับเทคโนโลยี Halo Free จากสถาบันทดสอบระดับโลก UL ทำให้การ Halation อยู่ที่ 0.000% พร้อมกับการเทคโนโลยีป้องกันดวงตาระดับโลกจากเยอรมนี Rheinland Eyesafe 2.0 และเทคโนโลยีทั้งหมดนี้จึงทำให้รับประกันได้เลยว่าครีเอเตอร์นักออกแบบสามารถใช้โน้ตบุ๊กตัวนี้สร้างสรรค์ผลงานได้ออกมามีประสิทธิภาพสูงสุด
AERO 16 OLED เป็นโน้ตบุ๊กหนึ่งเดียวในโลกที่สามารถนำโปรแกรม X-Rite's color calibration 2.0 ของหน่วยงานด้านสีระดับสากลมาใช้ ทำให้มั่นใจได้ว่าการเลื่อนสีจะเฉลี่ยอยู่ที่ Delta E<1 พร้อมกับ ICC Profile เพื่อชุดคุณสมบัติของสีในแต่ละเครื่องไม่ซ้ำกัน แถมตัวพาเนลก็ผ่านการรับรองจาก Pantone Validated ดังนั้นถ้าจะบอกว่าหน้าจอ OLED ของ AERO 16 OLED เป็นหน้าจอที่ความแม่นยำของสีตรงเหมือนกับในชีวิตจริงก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก
ข้อกำหนดของฮาร์ดแวร์เป็นสิ่งชั่วคราว ถ้าหากคุณต้องการประสิทธิภาพหรืออายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดี? สิ่งที่เรียกว่า AI ช่วยคุณได้
ในส่วนของการปรับแต่งประสิทธิภาพในเครื่อง, ใช้ Intel รุ่นใหม่ Gen 13 และ NVIDIA GeForce RTX 40, RAM DDR5 2 ตัว รองรับความจุได้ถึง 64GB ส่วนอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล hard disk รองรับ NVMe PCIe Gen4 x4 M.2 SSD ได้สูงสุด
ในส่วนของ CPU และ 45W TDP มีการตั้งค่าโปรไฟล์ที่แตกต่างกันตามเหตุการณ์ ในขณะที่การ์ดจอ GeForce RTX 40 ซีรีส์มี DLSS 3 และ NVIDIA Studio ที่ครบครัน ร่วมกับควบคุม AI ของ Max-Q ทำให้ AERO 16 OLED สามารถดึงประสิทธิภาพการทำงานและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ในจุดสมดุลที่สุดออกมาได้
AERO 16 OLED มี dual Thunderbolt 4, dual USB 3.2 และ HDMI 2.1 พอร์ต Thunderbolt 4 สองพอร์ตที่ด้านขวาของแล็ปท็อป ชุด USB 3.2 Gen2 (Type C) และชุดหูฟัง 3.5 มม. /พอร์ตไมโครโฟนทางด้านซ้าย แต่ข้อเสียคือโน้ตบุ๊กนี้มีช่องใส่การ์ด Micro SD ไม่ใช่ช่องใส่การ์ด SD ที่มักใช้กับกล้องถ่ายภาพ ซึ่งทำให้คนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพอาจจะมีปัญหานิดนึงในส่วนนี้
ด้านหลังของโน้ตบุ๊กมีพอร์ต DC พลังงานไฟฟ้า, พอร์ต USB 3.2 Gen2 (Type A) คู่ และพอร์ต HDMI 2.1 มาตรฐาน โดยรวมแล้วจำนวนและประเภทของพอร์ตที่เชื่อมต่อค่อนข้างน่าพอใจเลยทีเดียว
อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของ AERO 16 OLED ใช้แบตเตอรี่ลิเทียม 88 WHrs และรองรับการชาร์จ PD สูงสุด 86W ทำให้ภายใน 30 นาทีก็สามารถชาร์จแบตได้ถึง 50% แล้ว ซึ่งถ้าแบตเตอรี่เต็มอาจใช้งานได้ตลอดหนึ่งวันเต็ม!
เป็นต้นไม้โตเต็มไว แต่น่าเสียดายตรงน้ำหนัก! จากการออกแบบ ID สามารถเห็นว่าพยายามลดความหนาให้ต่ำกว่า 18 มม. แต่น้ำหนักกลับเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 กิโลกรัม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความน่าเสียดายของ AERO 16 OLED
ลองทดสอบประสิทธิภาพ ฟังเสียงรบกวน และสัมผัสกับความร้อน
หลังทดสอบจริงจากเทคโนโลยีระบายความร้อน Windforce Infinity ของ GIGABYTE อันน่าภาคภูมิใจของ GIGABYYE ภายในตัวเครื่อง แถมยังมีที่ระบายความร้อน 4 มุม ผสมกับการใช้พัดลมคู่ 2 ตัว ทำให้การควบคุมอุณหภูมิโดยรวมทำได้ดีมาก และเสียงรบกวนขณะทำงานเบาจนเหมือนไม่ได้ยิน ส่วนถ้าเปิดโหมดความเร็วเต็มที่แล้ว AERO 16 OLED สามารถปลดปล่อยประสิทธิภาพทั้งหมดของ TDP 125W ออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพน่าพอใจมาก!
การทดสอบประสิทธิภาพครั้งนี้ไม่เหมือนกับการทดสอบโน้ตบุ๊กเกมมิ่งเหมือนที่ผ่านมาเนื่องจากรุ่น AERO สร้างขึ้นมาให้ใช้สำหรับครีเอเตอร์นักออกแบบและการทำงานเป็นหลัก จึงทำการทดสอบด้วย PCMARK 10 สำหรับดูประสิทธิภาพโดยรวม พร้อมกับทดสอบผ่าน V-Ray และ OctaneBench เพื่อดูผลของการเรนเดอร์ภาพแบบ Hybird และการเรนเดอร์ผ่าน GPU
สำหรับการทำงานพื้นฐานคะแนน Essentials ได้ 11,512 คะแนน, คะแนนทดสอบสำหรับการทำงานด้านผลิต 10,471 คะแนน, การสร้างเนื้อหาดิจิทัล 11,595 คะแนน, คะแนนรวมคือ 8,016, V-Ray GPU RTX สำหรับเครื่องมือแสดงผล 1,631 คะแนน, GPU CUDA สำหรับเครื่องมือแสดงผล 1,186 คะแนน, OctaneBench คะแนนการทดสอบการแสดงผลภาพคือ 385.16
Essentials ได้ 11,512 คะแนนสำหรับการทำงานคอมพิวเตอร์ขั้นพื้นฐาน Productivity อยู่ที่ 10,471 คะแนน การสร้างเนื้อหาดิจิทัล Digital Content อยู่ที่ 11,595 คะแนน เฉลี่ยออกมาแล้วมีคะแนนรวมอยู่ที่ 8,016 คะแนน ในส่วนของการเอนจิ้นเรนเดอร์ภาพด้วย V-Ray GPU RTX อยู่ที่ 1631 คะแนน เอนจิ้นการเรนเดอร์ GPU CUDA อยู่ที่ 1186 คะแนน และคะแนนการทดสอบการเรนเดอร์ภาพ OctaneBench อยู่ที่ 385.16 คะแนน
แม้ว่าผลการทดสอบโดยรวมจะสู้เดสก์ท็อป GeForce RTX 40 series ไม่ได้ แต่เมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊กที่ใช้ Gen 13 เหมือนกันแล้วสรุปได้เลยว่าแรงกว่าเยอะ! ดังนั้นถ้าจะนำไปใช้ตัดต่อวิดีโอ, เสียง, งานด้านกราฟิก และงานอื่น ๆ ไม่ใช่เรื่องที่ยากสำหรับ AERO 16 OLED
สรุป
หากคุณต้องการเลือกโน้ตบุ๊กสำหรับการสร้างสรรค์ออกแบบโดยเฉพาะ AERO 16 OLED รุ่น 2023 จากคะแนนพื้นฐานที่สูงกว่า 90 คะแนน พร้อมด้วยประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์อันทรงพลัง แผงควบคุมอันยอดเยี่ยม และสิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องของการปรับเทียบสีคู่ ซึ่งหลังจากปรับแต่งหรือตัดต่อแล้วความแม่นยำของสีจะออกมาตรงดีที่สุด ทำให้ไม่ต้องกังวลเลยว่าเมื่อออกแบบในโน้ตบุ๊กแล้วนำไปใช้ต่อข้างนอกจะเกิดอาการสีเพี้ยนออกมาไม่ตรงเหมือนที่ออกแบบไว้