PlayStation 5 ของ Sony ได้เปิดตัวสู่จุดเริ่มต้นที่แสนวุ่นวาย จากการขาดแคลนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับระบายของ COVID-19 ส่งผลให้การซื้อ PS5 เป็นเรื่องที่ยากลำบากจนถึงปี 2021 รวมถึงส่วนหนึ่งของปี 2022 ด้วยเช่นกัน เครื่อง Console next-gen ของ Sony และ Microsoft ไม่สามารถเข้าถึงได้เนื่องจากเหล่านักเก็งกำไรทั้งหลายได้ควบคุมสินค้าคงคลังที่มีจำกัดจำนวนมากและเรียกเก็บเงินราคาแพงเกินไป อย่างไรก็ตามโชคดีที่ช่วงเวลาเหล่านั้นได้ผ่านพ้นไปแล้ว
รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสล่าสุดของ Sony แสดงให้เห็นว่า PS5 ทำได้ดีเพียงใดในช่วงที่ผ่านมา เครื่อง Console ดังกล่าวมียอดขายรวมกว่า 38 ล้านเครื่อง ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2023 ซึ่งขายได้มากกว่า PlayStation 4 อย่างมีนัยสำคัญหลังจากวางจำหน่ายในระยะเวลาเท่า ๆ กันในปี 2016 และที่น่าสนใจก็คือยอดขาย PS5 ถึง 6.3 ล้านเครื่องในช่วงไตรมาสที่ 4 ระหว่างปี 2022 ถึง 2023 ปีก่อนหน้า ไตรมาสที่ 4 จบลงด้วยยอดขายเพียง 2 ล้านเครื่อง หมายความว่ายอดขายเพิ่มขึ้นกว่าสามเท่าในช่วงเวลาเดียวกัน
Jim Ryan ประธานบริษัท Sony Interactive Entertainment ได้กล่าวว่าปัญหาการขาดแคลนสต็อกของ PS5 สิ้นสุดลงแล้วที่งาน Consumer Electronics Show เมื่อต้นปีนี้ ความสะดวกในการเข้าถึงเพื่อซื้อเครื่อง Console ตามความต้องการของเกมเมอร์นี้มีบทบาทสำคัญในยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในเวลาเพียงปีเดียว
รายการเกม Exclusive ที่กำลังจะมาถึงของ Sony มีแนวโน้มที่จะรักษาชัยชนะของ PS5 ไว้เช่นกัน โดยแฟรนไชส์รายใหญ่จะวางจำหน่ายเกมในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งเป็นเรื่องยากสำหรับเกมเมอร์หลายคนที่จะมองข้าม เกมอย่าง Final Fantasy XVI, Spider-Man 2 และเกม Wolverine ใหม่พร้อมแล้วที่จะทำให้ PS5 ได้เปรียบเหนือคู่แข่งในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 และไม่แน่ว่า PS5 จะยังคงได้รับความนิยมเหมือนเช่นปีที่ผ่านมา ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็อาจแซงหน้ายอดขายตลอดกาลของ PS4 ไปได้ไม่นาน
(แปลและเรียบเรียงจาก gamerant)